ผมสงสัยอาบัติปาราชิก

อ้างอิงจากกระทู้นี้ https://m.pantip.com/topic/43831404/comment15-5 มีความเห็นส่วนมากสนับสนุนให้คิดแบบนี้ งง ว่าสมัยนี้ศาสนาพุทธเปลี่ยนไป พระสามารถเอาเงินทำบุญไปทำธุรกิจส่วนตัวตอนสึกได้แล้ว เจ้าขอ

พระปฐมบัญญัติ ๔. อนึ่ง ภิกษุใด ไม่รู้เฉพาะ กล่าวอวดอุตตริมนุสสธรรม อันเป็นความรู้ ความเห็น อย่างประเสริฐ อย่างสามารถ น้อมเข้ามาในตนว่า ข้าพเจ้ารู้อย่างนี้ ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ ครั้นสมัยอื่นแต่นั้น อั

ผมสงสัยมานานแล้วเพราะตอนบวชเคยเห็นพระภิกษุถกกันกับคำถามนี้คือ 1 การที่พระภิกษุจูบปากกับผู้หญิงนั่นต้องอาบัติอะไร ? 2 การที่พระภิกษุเอามือไปสัมผัสกับอวัยยวะเพศผู้หญิงนั้นปาราชิกหรือไม่ ? เพราะผมเห็นเถี

สงสัยการอาบัติปรารชิกในข้อที่ 2 ค่ะ การถือเอาทรัพย์สินที่เจ้าของไม่ได้ให้ องค์ประกอบมันมีอยู่ว่า ภิกษุนั้นมีใจอยากได้ของผู้อื่น แม้เพียงแค่หยิบจับของนั้นก็นับเป็นความผิด ต้องอาบัติปาราชิกใช่มั้ยคะ แล

เรื่องมีอยู่ว่าตอนผมบวช ตอนนั้นมีพระจากที่อื่น ท่านมาพักที่กุฏิผม แล้วท่านนำน้ำปานะยี่ห่อหนึ่ง มาใช้ไว้ในตู้เย็น ล่ะท่านก็น่าจะลืมไว้ ผมก็ไม่กล้ายิบมากิน จนผ่านไปจะเกือบเดือนได้ ผมคิดว่ามันก็ผ่านมานาน

พระวินัยระบุว่า ถ้าพระภิกษุชนะคดีชาวบ้านในโรงศาล ภิกษุนั้นต้องอาบัติปาราชิก ครับท่าน http://pantip.com/topic/33280444 ภิกษุตู่เอาที่วัด ต้องอาบัติทุกกฏ ยังความสงสัยให้เกิดแก่เจ้าของ ต้องอาบัติถุลลัจจ

ผมยังไม่ได้ฟันธงว่าหมายถึงใคร เพราะศาลยังไม่ได้ตัดสิน และยังปกปิดไม่สารภาพ แต่สำหรับความเห็นผม พระที่ต้องอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว แม้คนอื่นอาจจะยังไม่รู้ แต่ตัวเองย่อมรู้ตัวเองดี เหมือนกร