เนื่องจากเรามีประสบการณ์การค้างค่างวดรถยนต์ ยอมรับว่าเราเองเป็นผู้ผิดนัดสัญญาเอง แต่การคิดค่าติดตามทวงถาม ควรจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานออกติดตามทางถามหนี้กรณีค้างชำระ ในขณะที่ไม่มีพนักงานลงพื้นที่จริงอย่างนั้นหรือ ????
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากเราต้องการนำเงินมาลงทุนเปิดร้านนวดเมื่อปี 2020 หลังจากตัดสินใจจะร่วมหุ้นกับพี่ชายและได้จ่ายค่ามัดจำร้านไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่เมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายค่าเช่าร้านงวดสุดท้ายพี่ชายไม่สามารถนำเงินมาร่วมได้ ด้วยความคิดแค่ว่าเมื่อเราเปิดร้านแล้วเราจะมีรายได้ที่สามารถนำมาปิดรถได้ในระยะเวลาอันใกล้บวกกับยังคงคาดหวังว่าพี่ชายน่าจะนำเงินมาร่วมหุ้นได้ เราเลยตัดสินใจนำรถเข้าไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งหนึ่งเนื่องจากธนาคารนี้ให้ยอดสูงกว่าที่อื่น และเมื่อเราเปิดร้านไปได้แค่ไม่ถึงเดือน รัฐบาลประกาศให้ร้านนวดปิดตัวลงจากสถานการณ์โควิด 2019 ซึ่งทุกอย่างดูย่ำแย่มาตลอด จนกระทั่งเราต้องตัดสินใจปิดร้านนวดลงช่วงปลายปี ตั้งแต่ทำสัญญาเราก็พยายามหาเงินมาเพื่อจ่ายชำระค่างวดรถตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่ามีบางเดือนที่เราจ่ายช้าบ้างเนื่องจากเราต้องนำเงินไปหมุนกับธุรกรรมอื่นๆ จนกระทั่งปี 2022 เราตัดสินใจที่จะค้างชำระค่างวดบางเดือน ทำให้เกิดค่าติดตามทางถามเกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้โทรมาค่อนขอดว่าค้างติดตามค่างวดไว้แบบนี้จะมีปัญญาหาเงินมาจ่ายเหรอ ซึ่งเราก็ได้ติดต่อกลับไปช่องทาง call center ของธนาคารว่าเราขอจ่ายเลทไปก่อน ส่วนของค่าติดตามเมื่อหมดสัญญาอาจจะขอยืดระยะเวลาไปให้เราทำเรื่องจ่ายเพิ่ม ซึ่งน้อง call center ก็รับฟังและไม่ได้มีข้อโต้แย้งใดๆ เราก็เข้าใจว่าน่าจะไม่มีปัญหาสำหรับการร้องขอครั้งนั้น และเห็นว่าตามหน้าเอกสารเรียกเก็บมีค่าติดตามไม่มากนัก เราจึงทำเรื่องจ่ายเกินบางส่วนของงวดที่ 3 (ในความเข้าใจของเรา เข้าใจมาตลอดว่าถ้าเราค้าง 2 งวดเต็ม+บางส่วนของค่างวดที่ 3 คือเราจะยังไม่โดนค่าทางถามกรณีค้าง 3 งวด แต่สำหรับธนาคารนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แม้จะมีการจ่ายไปบางส่วนของงวดที่ 3 เขาก็คิดว่าเราค้าง 3 งวด) ซึ่งล่าสุดเราต้องการปิดจบค่าใช้จ่ายก่อนกำหนดโดยโอนย้ายไปไฟแนนซ์อื่น เราพยายามจะถามค่าใช้จ่ายกับสำนักงานใหญ่แต่สุดท้ายก็บ่ายเบี่ยงให้เราคุยกับ sub contract เท่านั้น จากการคำนวณค่าใช้จ่ายคงค้างที่เหลือโดยนำค่างวดxค่างวดที่เหลือแล้วกลับพบว่ายอดค่าใช้จ่ายที่เหลือของเราไม่เท่ากับยอดที่ Sub ของธนาคารแจ้งเรามา เมื่อพยายามจะถามว่าค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าค่างวดปกติคืออะไรกลับได้คำตอบว่าให้ไปคุยกับฝ่ายบัญชีของธนาคารเอง แต่ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อกับพนักงานบัญชี แต่ให้เราโทรเข้า call center เอง เมื่อโทรหา Call center แล้วก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ วนไปวนมา จนต้องไปหาที่สาขา และพบว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เพิ่มเกินกว่าค่างวดนั้น มีดังนี้
1.เบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (รับได้)
2.ค่าปรับล่าช้า (รับได้)
3.ค่าติดตามทางถามกรณีค้างชำระมากกว่า 1 งวด (รับได้ >> เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายของพนักงานโทรมาสอบถาม+เอกสารอื่นๆ)
4.ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานออกติดตามทางถามหนี้กรณีค้างชำระมากกว่า 3 งวด (รับไม่ได้ => ในเดือนที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เดินทาง "ออก" ติดตาม)
ใครทำงานธนาคาร หรือฝ่ายกฏหมาย ขยายความของคำว่า "ปฏิบัติงานออกติดตาม" ให้ชัดเจนได้ไหมคะ
#มันจะทางถามอะไรซ้ำแล้วซ้ำอีกขนาดนี้
ผู้บริโภคควรต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงาน "ออกติดตาม" ทวงถามหนี้กรณีค้างชำระค่างวดรถยนต์หรือไม่
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเนื่องจากเราต้องการนำเงินมาลงทุนเปิดร้านนวดเมื่อปี 2020 หลังจากตัดสินใจจะร่วมหุ้นกับพี่ชายและได้จ่ายค่ามัดจำร้านไปแล้วส่วนหนึ่ง แต่เมื่อถึงวันที่ต้องจ่ายค่าเช่าร้านงวดสุดท้ายพี่ชายไม่สามารถนำเงินมาร่วมได้ ด้วยความคิดแค่ว่าเมื่อเราเปิดร้านแล้วเราจะมีรายได้ที่สามารถนำมาปิดรถได้ในระยะเวลาอันใกล้บวกกับยังคงคาดหวังว่าพี่ชายน่าจะนำเงินมาร่วมหุ้นได้ เราเลยตัดสินใจนำรถเข้าไฟแนนซ์กับธนาคารแห่งหนึ่งเนื่องจากธนาคารนี้ให้ยอดสูงกว่าที่อื่น และเมื่อเราเปิดร้านไปได้แค่ไม่ถึงเดือน รัฐบาลประกาศให้ร้านนวดปิดตัวลงจากสถานการณ์โควิด 2019 ซึ่งทุกอย่างดูย่ำแย่มาตลอด จนกระทั่งเราต้องตัดสินใจปิดร้านนวดลงช่วงปลายปี ตั้งแต่ทำสัญญาเราก็พยายามหาเงินมาเพื่อจ่ายชำระค่างวดรถตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่ามีบางเดือนที่เราจ่ายช้าบ้างเนื่องจากเราต้องนำเงินไปหมุนกับธุรกรรมอื่นๆ จนกระทั่งปี 2022 เราตัดสินใจที่จะค้างชำระค่างวดบางเดือน ทำให้เกิดค่าติดตามทางถามเกิดขึ้น และมีเจ้าหน้าที่ติดตามหนี้โทรมาค่อนขอดว่าค้างติดตามค่างวดไว้แบบนี้จะมีปัญญาหาเงินมาจ่ายเหรอ ซึ่งเราก็ได้ติดต่อกลับไปช่องทาง call center ของธนาคารว่าเราขอจ่ายเลทไปก่อน ส่วนของค่าติดตามเมื่อหมดสัญญาอาจจะขอยืดระยะเวลาไปให้เราทำเรื่องจ่ายเพิ่ม ซึ่งน้อง call center ก็รับฟังและไม่ได้มีข้อโต้แย้งใดๆ เราก็เข้าใจว่าน่าจะไม่มีปัญหาสำหรับการร้องขอครั้งนั้น และเห็นว่าตามหน้าเอกสารเรียกเก็บมีค่าติดตามไม่มากนัก เราจึงทำเรื่องจ่ายเกินบางส่วนของงวดที่ 3 (ในความเข้าใจของเรา เข้าใจมาตลอดว่าถ้าเราค้าง 2 งวดเต็ม+บางส่วนของค่างวดที่ 3 คือเราจะยังไม่โดนค่าทางถามกรณีค้าง 3 งวด แต่สำหรับธนาคารนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้น แม้จะมีการจ่ายไปบางส่วนของงวดที่ 3 เขาก็คิดว่าเราค้าง 3 งวด) ซึ่งล่าสุดเราต้องการปิดจบค่าใช้จ่ายก่อนกำหนดโดยโอนย้ายไปไฟแนนซ์อื่น เราพยายามจะถามค่าใช้จ่ายกับสำนักงานใหญ่แต่สุดท้ายก็บ่ายเบี่ยงให้เราคุยกับ sub contract เท่านั้น จากการคำนวณค่าใช้จ่ายคงค้างที่เหลือโดยนำค่างวดxค่างวดที่เหลือแล้วกลับพบว่ายอดค่าใช้จ่ายที่เหลือของเราไม่เท่ากับยอดที่ Sub ของธนาคารแจ้งเรามา เมื่อพยายามจะถามว่าค่าใช้จ่ายที่เกินกว่าค่างวดปกติคืออะไรกลับได้คำตอบว่าให้ไปคุยกับฝ่ายบัญชีของธนาคารเอง แต่ไม่ยอมให้เบอร์ติดต่อกับพนักงานบัญชี แต่ให้เราโทรเข้า call center เอง เมื่อโทรหา Call center แล้วก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ วนไปวนมา จนต้องไปหาที่สาขา และพบว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เพิ่มเกินกว่าค่างวดนั้น มีดังนี้
1.เบี้ยปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม (รับได้)
2.ค่าปรับล่าช้า (รับได้)
3.ค่าติดตามทางถามกรณีค้างชำระมากกว่า 1 งวด (รับได้ >> เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายของพนักงานโทรมาสอบถาม+เอกสารอื่นๆ)
4.ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติงานออกติดตามทางถามหนี้กรณีค้างชำระมากกว่า 3 งวด (รับไม่ได้ => ในเดือนที่ไม่มีเจ้าหน้าที่เดินทาง "ออก" ติดตาม)
ใครทำงานธนาคาร หรือฝ่ายกฏหมาย ขยายความของคำว่า "ปฏิบัติงานออกติดตาม" ให้ชัดเจนได้ไหมคะ
#มันจะทางถามอะไรซ้ำแล้วซ้ำอีกขนาดนี้