สวัสดีค่าา
ต้องบอกก่อนว่าเพิ่งเคยมาเที่ยวจังหวัดนครนายกแบบจริงจังเป็นครั้งแรก นอกนั้นเหมือนแค่ผ่านๆ ใครที่เป็นแบบเราอยากให้ลองเปิดใจ
มาเที่ยวจังหวัดนี้ดูแล้วจะตกหลุมรัก รักในความเรียบง่ายของผู้คน ธรรมชาติสวยๆ ขับรถสบายๆ ไม่มีใครขับมาจี้ตูดแน่นอน555
เข้าเรื่องกันดีกว่า เราเลือกพักที่ริมธารรีสอร์ทก่อน1คืน โดยออกจากที่พัก 07.00 โมงเช้าเพราะไม่อยากเจอคนเยอะๆกับแดดร้อนๆ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล จากทางเข้าพอเจอวงเวียนให้ขับรถขึ้นสันเขื่อนโดยใช้ทางขึ้นด้านซ้ายมือ มีป้ายบอกอยู่จ้าไม่ต้องกลัวหลง
ลานจอดกว้างถ้าด้านล่างเต็มมีด้านบนอีกตรงบริเวณหลังคาส้มๆในภาพ (ตรงจุดนั้นมีห้องน้ำไว้บริการด้วย ค่าบริการคนละ 3บาท) แต่ช่วงสายๆตอนเราจะกลับรถก็แน่นพอสมควรนะ เพราะงั้นไปเช้าๆดีกว่า
มาถึงแล้วใหู้ตามป้ายด้านล่างนี้ได้เลยแล้วรีบไปจองคิวขึ้นเรือกันดีกว่า มีค่าเสียหายคนละ 200 บาท ยังไม่ต้องจ่ายนะไว้จ่ายตอนขากลับ ซึ่งเรามาเช้าคนไม่เยอะรอไม่นานก็ได้ขึ้นเรือแล้ว
รูปถ่ายบนสันเขื่อนตอนเดินไปขึ้นเรือ อากาศดีมากๆเลยเพราะเมื่อคืนฝนเพิ่งตกไป
รูปถ่ายตอนระหว่างนั่งเรือ จะเห็นน้ำตกเล็กๆในหลายจุดเลย
ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เราก็มาถึงที่แรกกันแล้วจ้า "น้ำตกผางามงอน" ไม่ใช่ภาพล่างนี้นะ ฮ่าฮ่า ตรงนี้คือน้ำตกเล็กๆบริเวณ ด้านล่างตรงที่จอดเรือก่อนที่เราจะขึ้นไปดูน้ำตกผางามงอนกัน
ไปเล้ยยยย ลุยย
ทางขึ้นที่นี่ชันพอสมควร บางระยะมีเชือกให้คอยจับไว้ให้ประคองตัวขึ้นไป สังเกตุเชือกสีขาวๆ ด้านขวามือของรูปนะ
มาถึงแล้ววว น้ำตกผางามงอน สวยสมใจ คุ้มค่ากับการปีนขึ้นมา เห็นมือนั่นมั้ย มือพ่อเราเองขอนั่งพักเหนื่อย5555
ไปต่อกันดีกว่า ที่ "เขาช่องลม" ตรงบริเวณนี้บอกเลยว่าเหนื่อยมาก ปีนอย่างเดียวต้องเหยียบหินปีนไปเรื่อยๆ ตอนแรกเราก็งงๆ นึกว่าจะเป็น ทุ่งหญ้าแบบที่ดูในรีวิวของเพื่อนๆท่านอื่น สรุปพอถามแม่ค้าที่ขายของอยู่บอกช่วงนี้น้ำเยอะแล้ว ตรงบริเวณทุ่งหญ้าท่วมไปแล้ว
ยอมรับเลยว่าตรงบริเวณนี้โหดจริงๆ ไม่มีทางเดินเรียบๆที่เป็นหญ้าเลย อยากเข้าไปจุดที่ลึกขึ้นก็ต้องปีนหินไปเรื่อยๆ แต่บอกเลยนะว่าคุ้มค่ากับการ มามาก ใครอยากมา มาได้เลยไม่ผิดหวัง ได้รูปสวยๆกลับไปแน่
แล้วนะที่ประทับใจอีกอย่างคือ ทุกคนที่มาที่นี่น่ารักต่อกันมากเลย ไม่รู้จักกันแต่ทุกคนก็พยายามช่วยจับช่วยประคองกันเวลาเหยียบขึ้นไปบนหินก้อนสูงๆ ตรงบริเวณที่เดินลำบากที่พยายามช่วยหลีกทางให้คนที่ปีนขึ้นมาได้ปีนขึ้นไปก่อน เราประทับใจในจุดนี้มากๆ
หมดเวลาสนุกแล้วสิ
ได้เวลาขึ้นเรือกลับกันแล้วจ้า
อยู่ดีๆคนขับเรือก็มาจอดเรือดื้อๆเอาตรงนี้แหละ สรุปคือได้เวลาจ่ายค่าโดยสารแล้ว คนละ 200 บาท ลุงรับพร้อมเพย์ด้วยแต่ให้ดีเตรียมเงินสด
ไปเผื่อหน่อยดีกว่า
ใครไม่จ่ายลุง บอกเลยลงตรงนี้นะ ลุงขอมาส่งแค่นี้แหละ5555
ส่วนนี่บันไดปราบเซียนที่หลายๆคนว่ากัน
จะบอกว่าถ้าใครหิวหายห่วงได้ ที่นี่มีร้านข้าว น้ำ บริการอยู่หลายร้านเลยไม่มีอดแน่นอน
ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้วขอนั่งรถรางชมเขื่อนกันหน่อยที่ขายตั๋วอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ซื้อตั๋วเรือ ค่าบริการรถรางคนละ 30 บาทจ้า
วิวระหว่างนั่งรถราง
เสร็จจากตรงนี้แล้ววนรถลงไปถ่ายภาพบริเวณด้านล่างหน้าเขื่อนเป็นที่ระลึกก่อนกลับกันดีกว่า
คำแนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะไปเขาช่องลม
-ควรใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่เหมาะกับการปีนป่าย เพราะปีนเยอะจริงๆ มีจุดที่ลื่นด้วย
-พกน้ำขวดเล็กๆไปหน่อย
-ถ้าไปช่วงสาย หรือเที่ยง อย่าลืมร่ม หมวก แว่นกันแดดอะไรด้วยนะ
-เตรียมร่างกายให้พร้อม
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่มารับชม แล้วไปเที่ยวนครนายกกันเยอะๆนะคะ
เที่ยวสุขใจ...ไปตามโจทย์ กดโหวตรัวๆ ให้เขาช่องลม นครนายกจ้าาาาา
ต้องบอกก่อนว่าเพิ่งเคยมาเที่ยวจังหวัดนครนายกแบบจริงจังเป็นครั้งแรก นอกนั้นเหมือนแค่ผ่านๆ ใครที่เป็นแบบเราอยากให้ลองเปิดใจ
มาเที่ยวจังหวัดนี้ดูแล้วจะตกหลุมรัก รักในความเรียบง่ายของผู้คน ธรรมชาติสวยๆ ขับรถสบายๆ ไม่มีใครขับมาจี้ตูดแน่นอน555
เข้าเรื่องกันดีกว่า เราเลือกพักที่ริมธารรีสอร์ทก่อน1คืน โดยออกจากที่พัก 07.00 โมงเช้าเพราะไม่อยากเจอคนเยอะๆกับแดดร้อนๆ ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีก็ถึงเขื่อนขุนด่านปราการชล จากทางเข้าพอเจอวงเวียนให้ขับรถขึ้นสันเขื่อนโดยใช้ทางขึ้นด้านซ้ายมือ มีป้ายบอกอยู่จ้าไม่ต้องกลัวหลง
ลานจอดกว้างถ้าด้านล่างเต็มมีด้านบนอีกตรงบริเวณหลังคาส้มๆในภาพ (ตรงจุดนั้นมีห้องน้ำไว้บริการด้วย ค่าบริการคนละ 3บาท) แต่ช่วงสายๆตอนเราจะกลับรถก็แน่นพอสมควรนะ เพราะงั้นไปเช้าๆดีกว่า
มาถึงแล้วใหู้ตามป้ายด้านล่างนี้ได้เลยแล้วรีบไปจองคิวขึ้นเรือกันดีกว่า มีค่าเสียหายคนละ 200 บาท ยังไม่ต้องจ่ายนะไว้จ่ายตอนขากลับ ซึ่งเรามาเช้าคนไม่เยอะรอไม่นานก็ได้ขึ้นเรือแล้ว
รูปถ่ายบนสันเขื่อนตอนเดินไปขึ้นเรือ อากาศดีมากๆเลยเพราะเมื่อคืนฝนเพิ่งตกไป
รูปถ่ายตอนระหว่างนั่งเรือ จะเห็นน้ำตกเล็กๆในหลายจุดเลย
ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เราก็มาถึงที่แรกกันแล้วจ้า "น้ำตกผางามงอน" ไม่ใช่ภาพล่างนี้นะ ฮ่าฮ่า ตรงนี้คือน้ำตกเล็กๆบริเวณ ด้านล่างตรงที่จอดเรือก่อนที่เราจะขึ้นไปดูน้ำตกผางามงอนกัน
ไปเล้ยยยย ลุยย
ทางขึ้นที่นี่ชันพอสมควร บางระยะมีเชือกให้คอยจับไว้ให้ประคองตัวขึ้นไป สังเกตุเชือกสีขาวๆ ด้านขวามือของรูปนะ
มาถึงแล้ววว น้ำตกผางามงอน สวยสมใจ คุ้มค่ากับการปีนขึ้นมา เห็นมือนั่นมั้ย มือพ่อเราเองขอนั่งพักเหนื่อย5555
ไปต่อกันดีกว่า ที่ "เขาช่องลม" ตรงบริเวณนี้บอกเลยว่าเหนื่อยมาก ปีนอย่างเดียวต้องเหยียบหินปีนไปเรื่อยๆ ตอนแรกเราก็งงๆ นึกว่าจะเป็น ทุ่งหญ้าแบบที่ดูในรีวิวของเพื่อนๆท่านอื่น สรุปพอถามแม่ค้าที่ขายของอยู่บอกช่วงนี้น้ำเยอะแล้ว ตรงบริเวณทุ่งหญ้าท่วมไปแล้ว
ยอมรับเลยว่าตรงบริเวณนี้โหดจริงๆ ไม่มีทางเดินเรียบๆที่เป็นหญ้าเลย อยากเข้าไปจุดที่ลึกขึ้นก็ต้องปีนหินไปเรื่อยๆ แต่บอกเลยนะว่าคุ้มค่ากับการ มามาก ใครอยากมา มาได้เลยไม่ผิดหวัง ได้รูปสวยๆกลับไปแน่
แล้วนะที่ประทับใจอีกอย่างคือ ทุกคนที่มาที่นี่น่ารักต่อกันมากเลย ไม่รู้จักกันแต่ทุกคนก็พยายามช่วยจับช่วยประคองกันเวลาเหยียบขึ้นไปบนหินก้อนสูงๆ ตรงบริเวณที่เดินลำบากที่พยายามช่วยหลีกทางให้คนที่ปีนขึ้นมาได้ปีนขึ้นไปก่อน เราประทับใจในจุดนี้มากๆ
หมดเวลาสนุกแล้วสิ
ได้เวลาขึ้นเรือกลับกันแล้วจ้า
อยู่ดีๆคนขับเรือก็มาจอดเรือดื้อๆเอาตรงนี้แหละ สรุปคือได้เวลาจ่ายค่าโดยสารแล้ว คนละ 200 บาท ลุงรับพร้อมเพย์ด้วยแต่ให้ดีเตรียมเงินสด
ไปเผื่อหน่อยดีกว่า
ใครไม่จ่ายลุง บอกเลยลงตรงนี้นะ ลุงขอมาส่งแค่นี้แหละ5555
ส่วนนี่บันไดปราบเซียนที่หลายๆคนว่ากัน
จะบอกว่าถ้าใครหิวหายห่วงได้ ที่นี่มีร้านข้าว น้ำ บริการอยู่หลายร้านเลยไม่มีอดแน่นอน
ไหนๆก็มาถึงที่นี่แล้วขอนั่งรถรางชมเขื่อนกันหน่อยที่ขายตั๋วอยู่ไม่ไกลจากจุดที่ซื้อตั๋วเรือ ค่าบริการรถรางคนละ 30 บาทจ้า
วิวระหว่างนั่งรถราง
เสร็จจากตรงนี้แล้ววนรถลงไปถ่ายภาพบริเวณด้านล่างหน้าเขื่อนเป็นที่ระลึกก่อนกลับกันดีกว่า
คำแนะนำสำหรับเพื่อนๆที่จะไปเขาช่องลม
-ควรใส่รองเท้าผ้าใบ หรือรองเท้าที่เหมาะกับการปีนป่าย เพราะปีนเยอะจริงๆ มีจุดที่ลื่นด้วย
-พกน้ำขวดเล็กๆไปหน่อย
-ถ้าไปช่วงสาย หรือเที่ยง อย่าลืมร่ม หมวก แว่นกันแดดอะไรด้วยนะ
-เตรียมร่างกายให้พร้อม
สำหรับวันนี้ขอบคุณที่มารับชม แล้วไปเที่ยวนครนายกกันเยอะๆนะคะ