ก้าวไกล เปิด 3 ภาพปัญหา หลังปธ.พรเพชร ไม่ยอมให้ขึ้นจออภิปราย จนเกือบหวิดประท้วงวุ่น
https://www.matichon.co.th/politics/news_4175797

ก้าวไกล เปิด 3 ภาพปัญหา หลังปธ.พรเพชร ไม่ยอมให้ขึ้นจออภิปราย จนเกือบหวิดประท้วงวุ่น
 
จากกรณีที่ ส.ส.ก้าวไกลลุกประท้วง นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานในการประชุม ระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงนโยบายต่อรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 162 วันแรก หลังไม่อนุญาตในการใช้ภาพคณะรัฐมนตรี (ครม.) ประกอบการอภิปราย โดยไม่ระบุว่าขัดข้อบังคับการประชุมข้อใดนั้น นอกจากให้เหตุผลว่า “ไม่จำเป็น ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร”
 
ล่าสุด (11 ก.ย.) พรรคก้าวไกลได้เผยผ่านทวิตเตอร์ทางการของพรรค เปิด 3 ภาพที่นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานสภาและประธานวุฒิสภา วินิจฉัยไม่ให้ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดประกอบการอภิปรายรัฐบาลเศรษฐา 1 โดยให้เหตุผลว่า “ไม่จำเป็น ไม่ทราบว่ามีวัตถุประสงค์อะไร“
 
https://twitter.com/MFPThailand/status/1701258331044954134

---

‘ประเสริฐพงษ์’ ยัน ไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ขอให้สภา ล็อกที่จอดรถให้ โบ้ย ‘พิเชษฐ์-ข้าราชการสภา’ เป็นคนทำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4175899
 
‘ประเสริฐพงษ์’ ยัน ไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ขอให้สภา ล็อกที่จอดรถให้ โบ้ย ‘พิเชษฐ์-ข้าราชการสภา’ เป็นคนทำ ลั่น ก้าวไกล ไม่มี DNA เรื่องการอวดเบ่ง
 
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 12 กันยายน นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวชี้แจงกรณีมีการพาดพิงว่าตนได้ขอใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.ให้สภาจัดที่จอดรถให้ ส.ส. จนทำให้เกิดปัญหาการจราจรในช่วงเช้าก่อนเริ่มประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 กันยายนที่ผ่านมาว่า เมื่อวานนี้มีข่าวออกไปในเชิงลบว่าตนได้ไปพูดในสภาหารือกับประธานในที่ประชุมเรื่องการล็อกที่จอดรถให้กับ ส.ส.ในอาคารรัฐสภา ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยขอใช้เอกสิทธิ์ ส.ส.หรืออภิสิทธิ์ใดๆ ในการขอที่จอดรถดังกล่าว ซึ่งตามข้อเท็จจริงที่มีคลิปวิดีโอการหารือ ได้ขอปรึกษาหารือในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กรณี ส.ส.ไม่จอดรถในช่องจอด โดยที่ผ่านมาแต่ละคนสามารถเข้าไปจอดในช่องจอดได้ แต่ ส.ส.ไม่จอดในช่อง แต่จอดบริเวณทางวิ่ง ทำให้ผู้มาทีหลังเข้าออกลำบาก
 
“ผมพูดแค่นั้นเอง ไม่ได้ไปเรียกร้องเอกสิทธิ์สำหรับให้ ส.ส.มีช่องจอดสำหรับตัวเองหรือเป็นเฉพาะส่วนตัว ซึ่งปรากฏว่าก่อนที่หารือก็ได้พูดคุยกับเลขาฯสภา (นางพรพิศ เพชรเจริญ) ท่านก็บอกว่าตอนนี้รองประธานคนที่สอง (นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน) กำลังแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่ ก็แสดงว่าตรงใจกับผมพอดี แสดงว่าผู้มีอำนาจในการจัดการเรื่องล็อกที่จอดรถก็คือรองฯพิเชษฐ์” นายประเสริฐพงษ์กล่าว
 
นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า ตนก็ไม่มีรถ ต้องอาศัยติดรถเพื่อน ส.ส.แล้วเห็นปัญหาจึงอยากนำมาหารือ ตนมาทราบภายหลังว่านายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 และข้าราชการได้ดำเนินการเรื่องดังกล่าว และเริ่มปฏิบัติในวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งไม่ใช่สิ่งเดียวกันกับที่ตนได้นำเสนอเลย ตนไม่ได้ขอให้ล็อกที่จอดให้ ส.ส. แต่เพียงขอให้ ส.ส.ปฏิบัติตามกฎระเบียบ จอดรถในช่องจอดเท่านั้น
 
“เป็นเรื่องขำๆ มากกว่า ฝากให้ช่วยแก้ข่าวด้วยว่า ส.ส.พรรคก้าวไกลเรา DNA เรื่องการอวดเบ่ง หรือใช้เอกสิทธิ์เราไม่มีอยู่แล้ว” นายประเสริฐพงษ์กล่าว

 
เมื่อถามว่าประเด็นนี้เป็นดราม่าเรื่องทำให้รถติดด้วย นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า ยังงงว่าตน มีส่วนในการทำให้รถติดได้อย่างไร ฝากผ่านสื่อมวลชนช่วยกระจายข่าวเรื่องนี้ด้วย ยังมีสื่อบางสำนักที่คัดลอกข่าวผิดไปส่งต่อ ตนคิดว่าประชาชนก็ตามเรื่องนี้อยู่
 
“ผมยืนยันว่าผมไม่เคยคิดใช้เอกสิทธิ์ ส.ส. หรืออภิสิทธิ์ใดๆ ในการขอที่จอดให้ ส.ส. เพียงขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบเท่านั้น จึงอยากให้สังคมเข้าใจ และขอให้สำนักข่าวที่นำเสนอข่าวไปแล้ว ช่วยแก้ไขให้ด้วยเพราะได้รับความเสียหาย” ส.ส.ประเสริฐพงษ์กล่าว
 
เมื่อถามถึงกรณีนายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ที่นำรถจักรยานยนต์ไปจอดช่องจอดรถยนต์ โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าจอดผิดที่ นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า เป็นเรื่องส่วนตัวของนายเท่าพิภพ ก็ใช้สิทธิเหมือนกับที่นายพิเชษฐ์ได้ให้สิทธิ เป็นเรื่องที่ไม่แปลกหากสภามีการบริหารจัดการ
เมื่อถามว่าส่วนตัวเห็นควรว่าจะยกเลิกไปเลยหรือไม่ นายประเสริฐพงษ์กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่มีการล็อก เพราะใครมาก่อนก็ควรได้จอดในช่อง ไม่ควรไปจอดขวางทางเข้าออก ส่วนจะต้องหารือกับนายพิเชษฐ์หรือไม่ ก็อยู่ที่ข้าราชการที่มีอำนาจรวมถึงตัวนายพิเชษฐ์ ต้องลองหารือกันดูเพราะเริ่มมีประเด็นแล้ว

---

TRDI ชี้รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ถูกเกินไป-ใช้เงินหนุนมาก แนะเอาเงินไปพัฒนาระบบขนส่งอื่น
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/365693

ดร.สุเมธ องกิตติกุล รองประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือ ทีดีอาร์ไอ และผู้อำนวยการวิจัยด้านนโยบายการขนส่ง และโลจิสติกส์ กล่าวว่า นโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มี 2 ประเด็นหลัก ที่ต้องพิจารณา ประเด็นแรกประเด็นด้านเทคนิค เช่น การปรับระบบเก็บค่าโดยสาร ที่แตกต่างกันของรถไฟฟ้าแต่ละสาย ซึ่งมีอยู่ 2 ถึง 3 ระบบ ให้เป็นระบบเดียวกัน ใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงระบบ ถ้าให้เอกชนเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง ก็ต้องหาข้อสรุปร่วมกันให้ได้ ซึ่งอาจใช้เวลานานกว่า

อีกประเด็น คือ เงินอุดหนุนส่วนต่างราคาค่าโดยสาร ซึ่งมองว่าเป็นประเด็นที่ยาก เนื่องจากติดข้อกำหนดในสัญญาสัมปทาน หากเก็บค่าโดยสารได้น้อยกว่าเงื่อนไขในสัญญา รัฐบาลก็ต้องเข้ามาอุดหนุนส่วนต่าง ซึ่งต้องใช้เงินกว่า 5,400 ล้านบาท

ทั้งนี้ มองว่าค่าโดยสาร 20 บาทตลอดสาย ถูกเกินไป และใช้เงินอุดหนนมาก และที่สำคัญราคายังอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับค่าโดยสารรถเมล์ และระบบขนส่งมวลชนอื่น ๆ หากนำเงินที่ใช้อุดหนุนไปพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอื่นๆ เช่น รถเมล์ ให้มีประสิทธิภาพกว่านี้ จะดีกว่าหรือไม่
 
รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/jltV1_WtoCI