สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงเรื่องหลักกรรม และการให้ผลของกรรม ไม่ใช่เพื่อให้ชาวพุทธเฝ้ารอรับแต่ผลของกรรมโดยไม่ต้องทำอะไร เพียงเพื่อจะได้ชดใช้กรรมเก่าให้สิ้นไป และไม่ทำกรรมใหม่
แต่ที่ทรงแสดงเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม ก็เพื่อให้ชาวพุทธเข้าใจในเรื่องเหตุและผล เหตุที่ดี ย่อมนำมาซึ่งผลที่ดี และเหตุที่ไม่ดีย่อมนำมาซึ่งผลที่ไม่ดี เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีผู้ใดจะอาจดลบันดาลให้เราได้สุขหรือทุกข์ เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก็ยังทรงป่วยไข้ซึ่งเป็นผลวิบากของกรรมที่พระองค์ได้ทรงกระทำมาในอดีตชาติ ไม่มีผู้ใดจะอาจดลบันดาลหรือให้พรพระองค์ไม่ให้ป่วยไข้ได้ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลย หรือท่านพาหิยะ แม้แต่อยู่ต่อหน้าพระพักต์ ก็ไม่อาจหลุดพ้นผลของกรรมที่ท่านได้กระทำมาในอดีตชาติ พระพุทธองค์ยังมิอาจจะให้พรหรือดลบันดาลให้ท่านพาหิยะรอดพ้นจากความตายได้
ถ้าเรามั่นคงในหลักกรรมและการให้ผลของกรรม ก็จะเลิกเชื่อในเรื่องงมงายอย่างการไปสะเดาะเคราะห์ เป่ากระหม่อม อาบน้ำมนต์ ฯลฯ และจะได้หยุดสร้างเหตุที่ไม่ดี และเห็นโทษของอกุศลกรรม และหันมาสร้างแต่เหตุที่ดี เจริญกุศลทุกประการในทุกโอกาสที่จะกระทำได้
พระพุทธดำรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน
เป็นทายาทรับกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งพิงอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์เพื่อให้เป็นผู้เลวและประณีต"
ไม่ทราบว่าจะมีชาวพุทธท่านใดคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับพระพุทธดำรัสข้างต้นนี้หรือไม่คะ
ส. "เมื่อมีสภาพธรรมะที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัย. เป็นสิ่งที่มีชีวิตต้องเกิดจากกรรม. คือการกระทําที่ได้กระทําไว้แล้ว เนี่ย นะคะ. มีทั้งกุศลกรรมดี. ซึ่งก็ต้องให้ผลดี. คือเกิดดี. และก็เห็นดีได้ยินดี ได้กลิ่นดี ลิ้มรสดี รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสดี เพราะเกิดมาทุกชาติก็เห็น ก็ได้ยิน แล้วก็ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส เลือกไม่ได้ จะทุกข์กาย สุขกาย วันไหน อย่างไรจะเห็นอะไรที่น่าพอใจไม่พอใจ. ไม่มีใครเลือกได้สักคนเดียวนะคะ. อันนี้ต้องเข้าใจก่อน. เพราะฉะนั้นการเกิด เนี่ย ค่ะ. ก็เกิดหลากหลายมาก. เกิดเป็นคน. มีทั้งมั่งมีนะคะเพียบพร้อมด้วยสิ่งที่น่าพอใจ. ทั้งบ้านที่อยู่อาศัยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม. ทรัพย์สินเงินทองนะคะ. มาจากไหน? ทุกคนก็อยากเป็นอย่างนี้. แต่บางคนก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ที่ถูกลําบากสาหัสก็มีนะคะ. บ้านก็ไม่มี. อาหารก็ไม่มี. ที่อยู่ที่อาศัยอะไรก็ไม่มี. วันก่อนก็ดูรายการโทรทัศน์นะคะ. ที่เขาไปสัมภาษณ์เด็กจรจัดเด็กคนนี้ค่ะ. ทั้งทั้งที่เป็นเด็กจรจัดก็ยังมีเสื้อผ้าใส่. แสดงให้เห็นว่าอย่างไรนะคะ. อย่างน้อยเกิดมา เนี่ย. มีเสื้อผ้าล่ะ. ทุกคนก็เห็นนุ่งห่มกันตามปกติ แต่สิ่งที่จะได้พบถึงตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็น้อยกว่ากัน มากกว่ากัน. แล้วแต่ขณะนั้น อะไรจะเกิดขึ้น. นี่ก็คือคนซึ่งหลากหลาย. หลากหลายไปจนกระทั่งถึงชีวิตของสัตว์เดรัจฉาน. เกิดเป็นปลาในน้ําก็มีนะคะ. เป็นลิงเป็นงูเป็นนกเป็นกบ. ได้หมด. ใครทํา? รูปร่างหลากหลายมาก. ไม่ว่าจะเกิดเหมือนกันก็ต่างกัน. คนก็เป็นคนด้วยกันนะคะ. แต่หน้าตาต่างกัน. ผิวพรรณต่างกัน ตาก็มีตั้งหลายสี สีดําก็มี. สีเทาก็มี. สีฟ้าก็มีนะคะ. ใครทํา. เพราะฉะนั้นถ้าเป็นคําตอบที่ถูกต้องก็คือว่า. ไม่มีใครทําได้. แต่ว่ามีการกระทําคือกรรม. ความจงใจความตั้งใจที่เกิดแล้วทําแล้วเป็นกุศลบ้างเป็นอกุศลบ้าง. แม่ดับไปแล้วนะคะ. ก็ทําให้เกิดรูป. แล้วแต่ว่าจะเกิดเป็นมนุษย์เป็นสัตว์เดรัจฉาน. เกิดเป็นเปรต. เกิดในนรก. หรือว่าเกิดเป็นเทพ. หลากหลายมาก แต่เราก็คิดแต่เฉพาะมนุษย์กับสัตว์ เช่นสัตว์ไม่มีเงินก็อยู่ได้ ใช่ไหมคะ แล้วลองคิดถึงมนุษย์ เกิดแล้ว เนี่ย ตายได้มั้ย
ถ้าไม่อยากตาย. แล้วก็ต้องอยู่. ไม่มีทางที่จะตายได้เลยนะคะ. แต่ทั้งทั้งที่อยากอยู่. ไม่อยากตายเลยก็ตาย. เมื่อถึงเวลาที่ต้องตาย. เพราะฉะนั้นทุกอย่าง
แม้เกิดแม้ตาย ก็ไม่อยู่ในอํานาจบังคับบัญชาของใครเลย. ไม่ต้องกล่าวถึงเห็นได้ยินเป็นต้น. เพราะฉะนั้นคนเกิดมาแล้วนะคะ. ต้องต่างกับสัตว์. เพราะเหตุว่าสัตว์อยู่ได้ไม่มีเงินก็อยู่ได้ นะคะ. ไม่มีบ้าน. ไม่ต้องใส่เสื้อผ้า. ไม่ต้องทําอาหาร. แต่สัตว์ก็มีชีวิต ตามแบบที่จะต้องอยู่อย่างนั้น. จนกว่าสิ้นสุดกรรมที่ทําให้เป็นสัตว์. แต่ละ พฤติ ประเภทฉันใดนะคะ มนุษย์เกิดมาแล้ว ไม่ว่าจะยากไร้สักเท่าไหร่ก็ต้องอยู่. ถ้ากรรมยังไม่สิ้นสุดนะคะ. ยังจากโลกนี้ไปไม่ได้. แต่ว่าจะอยู่อย่างไหน? เราคิดถึงเงินว่าเป็นสิ่งที่สําคัญมาก. ในความคิดของเรานะคะ. แต่ถ้าเข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุที่จะให้ได้มา. รูปเสียง กลิ่น รสโผฏฐัพพะที่ดีดีเพราะมีเงิน. ที่จะได้มา. แต่ถึงจะไม่มีเงินนะคะ. ก็ต้องอยู่ไป แต่จะอยู่อย่างยากไร้เพียงไรก็แล้วแต่. ข้อความในพระไตรปิฎกนะคะ. กล่าวถึงขอทาน โรคเรื้อน. ไม่ใช่เป็นแต่เพียงขอทานนะคะ. เราคิดว่าขอทาน เนี่ย. มีเงินไหม แต่ตายได้มั้ย? ต้องอยู่ ตามบุญตามกรรม. ไม่มีทางที่จะตายไปเลยนะคะ. แต่เด็กเกิดมาอาจจะเป็นลูกเศรษฐี. เพียงแค่สามวัน. ตายได้มั้ย เมื่อกรรมสิ้นสุดที่จะไม่ให้เป็นคนนั้นอีกต่อไป. เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เนี่ย ค่ะ.
ไม่ได้อยู่ในอํานาจบังคับบัญชาของใครเลย. เกิดแล้วจะยากดีมีจนก็ต้องอยู่. ตามบุญตามกรรมนะคะ. ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ต้องคํานึงถึงยากดีมีจน แต่ก็ต้องอยู่ไปจนกว่าจะสิ้นกรรมที่ทําให้เป็นสัตว์ได้รับฉาน. เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงคนในโลกนี้นะคะ. เกิดมาแล้วเป็นคนยากไร้มาก. ทุกคนก็อยากจะมีสิ่งที่น่าพอใจ. ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และเราคิดว่าจะได้มาอย่างไร. บางคนนะคะ. มีการอาชีพ. ซึ่งก็ไม่ได้ทําให้มั่งมี. แต่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งสี่สิบล้าน อาจจะถึงเจ็ดสิบล้าน แปดสิบล้าน มาจากไหน แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลานั้นนะคะ ก็ไม่มีทางที่จะได้สิ่งต่างต่างที่ตนเองปรารถนาเป็นสิ่งที่น่าพอใจ
เพราะฉะนั้นถ้าจะรู้ความจริงก็คือว่าต้องมีเหตุปัจจัย ที่เมื่อสิ่งที่มีชีวิตเกิดมา เป็นสัตว์บุคคลต่างต่างกันแล้วนะคะ ต้องเป็นไปตามบุญกรรม อันนี้แน่นอนนะคะ เพราะฉะนั้นเท่าที่ดูก็เห็นว่า แม้แต่เป็นคนจนมากในพระไตรปิฎก ขอทาน. จะกินข้าวก็ต้องไปหาเศษอาหาร. นะคะ. อาจจะอยู่ในน้ําก็ไปเลือกมา. กว่าจะได้แต่ละมื้อ. จนไหม? ลําบากไหม? แต่ก็ต้องอยู่ เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่าถ้าคิดถึงเหตุที่ทําให้เกิดต่างกันแล้วก็รู้ว่า แม้เป็นมนุษย์ทุกคนก็อยากจะมั่งมีศรีสุข มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการนะคะ แต่จะมีหรือไม่มี เนี่ย ใครบันดาลได้ ถึงได้มาเป็นสิบล้านบางคนนะคะ หมดเลย เพราะเหตุว่าเพื่อนฝูงบ้างอะไรบ้างหลายหลายอย่างก็ไม่เหลือเลย เพราะฉะนั้นก็กลับเป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เนี่ย ให้ทราบเหตุที่จะทําให้เป็นอย่างนั้น ถ้าเกิดในสวรรค์นะคะ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องคนจนคนรวยเลยค่ะ ขอทานก็ไม่มี. บนสวรรค์นะคะ. มีสมบัติทิพย์ของตนตามกําลังที่ได้ทําแล้ว. มีรัศมีรุ่งเรือง. มีเพชรนิลจินดาต่างๆ. ได้มา ยังไง? พร้อมเกิด นี่ก็แสดงให้เห็นถึงกรรมนะคะ. ที่จะทําให้เกิดต่างกัน. ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตต่างกัน. ด้วยเหตุที่ต่างกัน. เพราะฉะนั้นถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้องที่สะสมมา ....
เหตุที่ทำให้ถูกหวย ๗๐ ล้าน มาจากไหน?
แต่ที่ทรงแสดงเรื่องกรรมและการให้ผลของกรรม ก็เพื่อให้ชาวพุทธเข้าใจในเรื่องเหตุและผล เหตุที่ดี ย่อมนำมาซึ่งผลที่ดี และเหตุที่ไม่ดีย่อมนำมาซึ่งผลที่ไม่ดี เป็นไปตามเหตุปัจจัย ไม่มีผู้ใดจะอาจดลบันดาลให้เราได้สุขหรือทุกข์ เพราะแม้แต่พระพุทธเจ้าเอง ก็ยังทรงป่วยไข้ซึ่งเป็นผลวิบากของกรรมที่พระองค์ได้ทรงกระทำมาในอดีตชาติ ไม่มีผู้ใดจะอาจดลบันดาลหรือให้พรพระองค์ไม่ให้ป่วยไข้ได้ ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลย หรือท่านพาหิยะ แม้แต่อยู่ต่อหน้าพระพักต์ ก็ไม่อาจหลุดพ้นผลของกรรมที่ท่านได้กระทำมาในอดีตชาติ พระพุทธองค์ยังมิอาจจะให้พรหรือดลบันดาลให้ท่านพาหิยะรอดพ้นจากความตายได้
ถ้าเรามั่นคงในหลักกรรมและการให้ผลของกรรม ก็จะเลิกเชื่อในเรื่องงมงายอย่างการไปสะเดาะเคราะห์ เป่ากระหม่อม อาบน้ำมนต์ ฯลฯ และจะได้หยุดสร้างเหตุที่ไม่ดี และเห็นโทษของอกุศลกรรม และหันมาสร้างแต่เหตุที่ดี เจริญกุศลทุกประการในทุกโอกาสที่จะกระทำได้
พระพุทธดำรัสว่า
"สัตว์ทั้งหลายมีกรรมเป็นของตน
เป็นทายาทรับกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งพิงอาศัย
กรรมย่อมจำแนกสัตว์เพื่อให้เป็นผู้เลวและประณีต"
ไม่ทราบว่าจะมีชาวพุทธท่านใดคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับพระพุทธดำรัสข้างต้นนี้หรือไม่คะ
ส. "เมื่อมีสภาพธรรมะที่เกิดขึ้นเป็นปัจจัย. เป็นสิ่งที่มีชีวิตต้องเกิดจากกรรม. คือการกระทําที่ได้กระทําไว้แล้ว เนี่ย นะคะ. มีทั้งกุศลกรรมดี. ซึ่งก็ต้องให้ผลดี. คือเกิดดี. และก็เห็นดีได้ยินดี ได้กลิ่นดี ลิ้มรสดี รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสดี เพราะเกิดมาทุกชาติก็เห็น ก็ได้ยิน แล้วก็ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัส เลือกไม่ได้ จะทุกข์กาย สุขกาย วันไหน อย่างไรจะเห็นอะไรที่น่าพอใจไม่พอใจ. ไม่มีใครเลือกได้สักคนเดียวนะคะ. อันนี้ต้องเข้าใจก่อน. เพราะฉะนั้นการเกิด เนี่ย ค่ะ. ก็เกิดหลากหลายมาก. เกิดเป็นคน. มีทั้งมั่งมีนะคะเพียบพร้อมด้วยสิ่งที่น่าพอใจ. ทั้งบ้านที่อยู่อาศัยเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม. ทรัพย์สินเงินทองนะคะ. มาจากไหน? ทุกคนก็อยากเป็นอย่างนี้. แต่บางคนก็ไม่ได้เป็นอย่างนี้ที่ถูกลําบากสาหัสก็มีนะคะ. บ้านก็ไม่มี. อาหารก็ไม่มี. ที่อยู่ที่อาศัยอะไรก็ไม่มี. วันก่อนก็ดูรายการโทรทัศน์นะคะ. ที่เขาไปสัมภาษณ์เด็กจรจัดเด็กคนนี้ค่ะ. ทั้งทั้งที่เป็นเด็กจรจัดก็ยังมีเสื้อผ้าใส่. แสดงให้เห็นว่าอย่างไรนะคะ. อย่างน้อยเกิดมา เนี่ย. มีเสื้อผ้าล่ะ. ทุกคนก็เห็นนุ่งห่มกันตามปกติ แต่สิ่งที่จะได้พบถึงตา หู จมูก ลิ้น กาย ก็น้อยกว่ากัน มากกว่ากัน. แล้วแต่ขณะนั้น อะไรจะเกิดขึ้น. นี่ก็คือคนซึ่งหลากหลาย. หลากหลายไปจนกระทั่งถึงชีวิตของสัตว์เดรัจฉาน. เกิดเป็นปลาในน้ําก็มีนะคะ. เป็นลิงเป็นงูเป็นนกเป็นกบ. ได้หมด. ใครทํา? รูปร่างหลากหลายมาก. ไม่ว่าจะเกิดเหมือนกันก็ต่างกัน. คนก็เป็นคนด้วยกันนะคะ. แต่หน้าตาต่างกัน. ผิวพรรณต่างกัน ตาก็มีตั้งหลายสี สีดําก็มี. สีเทาก็มี. สีฟ้าก็มีนะคะ. ใครทํา. เพราะฉะนั้นถ้าเป็นคําตอบที่ถูกต้องก็คือว่า. ไม่มีใครทําได้. แต่ว่ามีการกระทําคือกรรม. ความจงใจความตั้งใจที่เกิดแล้วทําแล้วเป็นกุศลบ้างเป็นอกุศลบ้าง. แม่ดับไปแล้วนะคะ. ก็ทําให้เกิดรูป. แล้วแต่ว่าจะเกิดเป็นมนุษย์เป็นสัตว์เดรัจฉาน. เกิดเป็นเปรต. เกิดในนรก. หรือว่าเกิดเป็นเทพ. หลากหลายมาก แต่เราก็คิดแต่เฉพาะมนุษย์กับสัตว์ เช่นสัตว์ไม่มีเงินก็อยู่ได้ ใช่ไหมคะ แล้วลองคิดถึงมนุษย์ เกิดแล้ว เนี่ย ตายได้มั้ย
ถ้าไม่อยากตาย. แล้วก็ต้องอยู่. ไม่มีทางที่จะตายได้เลยนะคะ. แต่ทั้งทั้งที่อยากอยู่. ไม่อยากตายเลยก็ตาย. เมื่อถึงเวลาที่ต้องตาย. เพราะฉะนั้นทุกอย่างแม้เกิดแม้ตาย ก็ไม่อยู่ในอํานาจบังคับบัญชาของใครเลย. ไม่ต้องกล่าวถึงเห็นได้ยินเป็นต้น. เพราะฉะนั้นคนเกิดมาแล้วนะคะ. ต้องต่างกับสัตว์. เพราะเหตุว่าสัตว์อยู่ได้ไม่มีเงินก็อยู่ได้ นะคะ. ไม่มีบ้าน. ไม่ต้องใส่เสื้อผ้า. ไม่ต้องทําอาหาร. แต่สัตว์ก็มีชีวิต ตามแบบที่จะต้องอยู่อย่างนั้น. จนกว่าสิ้นสุดกรรมที่ทําให้เป็นสัตว์. แต่ละ พฤติ ประเภทฉันใดนะคะ มนุษย์เกิดมาแล้ว ไม่ว่าจะยากไร้สักเท่าไหร่ก็ต้องอยู่. ถ้ากรรมยังไม่สิ้นสุดนะคะ. ยังจากโลกนี้ไปไม่ได้. แต่ว่าจะอยู่อย่างไหน? เราคิดถึงเงินว่าเป็นสิ่งที่สําคัญมาก. ในความคิดของเรานะคะ. แต่ถ้าเข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุที่จะให้ได้มา. รูปเสียง กลิ่น รสโผฏฐัพพะที่ดีดีเพราะมีเงิน. ที่จะได้มา. แต่ถึงจะไม่มีเงินนะคะ. ก็ต้องอยู่ไป แต่จะอยู่อย่างยากไร้เพียงไรก็แล้วแต่. ข้อความในพระไตรปิฎกนะคะ. กล่าวถึงขอทาน โรคเรื้อน. ไม่ใช่เป็นแต่เพียงขอทานนะคะ. เราคิดว่าขอทาน เนี่ย. มีเงินไหม แต่ตายได้มั้ย? ต้องอยู่ ตามบุญตามกรรม. ไม่มีทางที่จะตายไปเลยนะคะ. แต่เด็กเกิดมาอาจจะเป็นลูกเศรษฐี. เพียงแค่สามวัน. ตายได้มั้ย เมื่อกรรมสิ้นสุดที่จะไม่ให้เป็นคนนั้นอีกต่อไป. เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เนี่ย ค่ะ. ไม่ได้อยู่ในอํานาจบังคับบัญชาของใครเลย. เกิดแล้วจะยากดีมีจนก็ต้องอยู่. ตามบุญตามกรรมนะคะ. ถ้าเป็นสัตว์เดรัจฉานก็ไม่ต้องคํานึงถึงยากดีมีจน แต่ก็ต้องอยู่ไปจนกว่าจะสิ้นกรรมที่ทําให้เป็นสัตว์ได้รับฉาน. เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงคนในโลกนี้นะคะ. เกิดมาแล้วเป็นคนยากไร้มาก. ทุกคนก็อยากจะมีสิ่งที่น่าพอใจ. ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และเราคิดว่าจะได้มาอย่างไร. บางคนนะคะ. มีการอาชีพ. ซึ่งก็ไม่ได้ทําให้มั่งมี. แต่ถูกรางวัลสลากกินแบ่งสี่สิบล้าน อาจจะถึงเจ็ดสิบล้าน แปดสิบล้าน มาจากไหน แต่ถ้ายังไม่ถึงเวลานั้นนะคะ ก็ไม่มีทางที่จะได้สิ่งต่างต่างที่ตนเองปรารถนาเป็นสิ่งที่น่าพอใจ เพราะฉะนั้นถ้าจะรู้ความจริงก็คือว่าต้องมีเหตุปัจจัย ที่เมื่อสิ่งที่มีชีวิตเกิดมา เป็นสัตว์บุคคลต่างต่างกันแล้วนะคะ ต้องเป็นไปตามบุญกรรม อันนี้แน่นอนนะคะ เพราะฉะนั้นเท่าที่ดูก็เห็นว่า แม้แต่เป็นคนจนมากในพระไตรปิฎก ขอทาน. จะกินข้าวก็ต้องไปหาเศษอาหาร. นะคะ. อาจจะอยู่ในน้ําก็ไปเลือกมา. กว่าจะได้แต่ละมื้อ. จนไหม? ลําบากไหม? แต่ก็ต้องอยู่ เพราะฉะนั้นก็แสดงให้เห็นว่าถ้าคิดถึงเหตุที่ทําให้เกิดต่างกันแล้วก็รู้ว่า แม้เป็นมนุษย์ทุกคนก็อยากจะมั่งมีศรีสุข มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการนะคะ แต่จะมีหรือไม่มี เนี่ย ใครบันดาลได้ ถึงได้มาเป็นสิบล้านบางคนนะคะ หมดเลย เพราะเหตุว่าเพื่อนฝูงบ้างอะไรบ้างหลายหลายอย่างก็ไม่เหลือเลย เพราะฉะนั้นก็กลับเป็นเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่าง เนี่ย ให้ทราบเหตุที่จะทําให้เป็นอย่างนั้น ถ้าเกิดในสวรรค์นะคะ ไม่ต้องคิดถึงเรื่องคนจนคนรวยเลยค่ะ ขอทานก็ไม่มี. บนสวรรค์นะคะ. มีสมบัติทิพย์ของตนตามกําลังที่ได้ทําแล้ว. มีรัศมีรุ่งเรือง. มีเพชรนิลจินดาต่างๆ. ได้มา ยังไง? พร้อมเกิด นี่ก็แสดงให้เห็นถึงกรรมนะคะ. ที่จะทําให้เกิดต่างกัน. ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตต่างกัน. ด้วยเหตุที่ต่างกัน. เพราะฉะนั้นถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้องที่สะสมมา ....