26 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมาเราได้รับของที่ส่งจากเคอรี่คือซื้อลำโพงบลูทูธจากทาง Facebook Marshel appliance center ซึ่งตอนนั้นลดราคาแรงมากเช็คกับ Pages ของพาวเวอร์บายแล้วก็ใช่ราคานี้จริงๆ เช็คดูหลายหลาย Pages มันก็ราคานี้เลยตัดสินใจสั่งโดยเก็บเงินปลายทาง จนวันที่ของมาส่งยังถามเจ้าหน้าที่ที่ส่งอยู่ว่า ถ้าสมมติว่าของไม่ตรงปกจะต้องทำยังไง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้แจ้งทางศูนย์ดู และตอนเปิดดูก็ถ่ายวิดีโอไว้แล้วก็เป็นยังงั้นจริงๆไม่ใช่ของแท้ เราก็เลย โทรสอบถามทางคอลเซ็นเตอร์และเจ้าหน้าที่แนะนำให้ ไปแจ้งความที่โรงพัก และได้หนังสือ แจ้งขออายัดยอดเงิน COD และขอเงิน COD คืนจากทางเคอรี่ โดยส่งเอกสารไปทาง LINE OFFICIAL ของเคอรี่ และได้รับการตอบกลับมาว่าจะใช้เวลาประมาณ4-5วัน โดยทางเคอรี่จะแจ้งข้อมูลของผู้ขายให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหนังสือที่ได้แจ้งมา
วันนี้ 9กันยา ได้โทรไปสอบถามทางพนักงานเจ้าของคดีว่าได้รับข้อมูลของผู้ขายจากทางเคอรี่หรือเปล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่ายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ของเคอรี่อีกครั้งหนึ่ง สรุปว่าเราจะต้องไปที่โรงพักอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปขอหนังสือให้เคอรี่เปิดเผยข้อมูลของผู้ขาย ตรงจุดนี้ถ้าเจ้าหน้าที่แจ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดต่อไปก็คงจบเรื่องไปแล้ว
และจากในกระทู้พันทิปอันนึงที่เคยเสริทหาก่อนหน้านี้ เคอรี่มีนโยบายที่จะระงับการจ่ายเงินให้กับผู้ขายหากเราแจ้งความ ว่าสินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่เนื่องจากนโยบายเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนตัวเห็นว่าควรจะรักษานโยบายเดิมไว้ เพราะเจ้าหน้าที่แนะนำครั้งแรกว่าให้ติดต่อปลายทางซึ่งโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ Pages ปิดไปแล้ว (ตั้งใจขายของปลอมแล้ว เค้าคงรอให้เราเคลมหรอกมั้ง)
ปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์โดยการซื้อขายของแบบนี้มีกรณีที่เพิ่มมากขึ้น การที่บริษัทขนส่งเป็นตัวกลางในการรับและจ่ายเงินจากผู้ซื้อถึงผู้ขายตรงนี้น่าจะมีนโยบายอะไรบางอย่างเพื่อช่วยไม่ให้มิจฉาชีพได้เห็นช่องว่างแล้วเอาเปรียบผู้บริโภคไปเรื่อยๆ
ที่ทิ้งช่วงการตามเรื่องนานหน่อยเพราะไปผ่าตัดมา ตอนนี้ยังขับรถเองไม่ได้ ต้องรอขอคนมาพาไปแจ้งความที่โรงพักอีกรอบ เพื่อขอให้เคอรี่เปิดเผยข้อมูลผู้ส่ง ส่วนหนึ่งก็ทำใจเผื่อไว้ว่าจะไม่มีความหวัง แต่ที่โพสคือเผื่อจะมีใครช่วยผลักดันระบบที่ช่วยคุ้มครองผู้บริโภคให้ดีขึ้น โดยไม่เอื้อพวกมิจฉาชีพให้ได้ใจอีกต่อไป
สั่งซื้อของมาแต่ของไม่ตรงปก เก็บเงินปลายทาง ส่งของด้วยเคอรี่
วันนี้ 9กันยา ได้โทรไปสอบถามทางพนักงานเจ้าของคดีว่าได้รับข้อมูลของผู้ขายจากทางเคอรี่หรือเปล่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บอกว่ายังไม่ได้รับการติดต่อใดๆ จึงโทรไปที่คอลเซ็นเตอร์ของเคอรี่อีกครั้งหนึ่ง สรุปว่าเราจะต้องไปที่โรงพักอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปขอหนังสือให้เคอรี่เปิดเผยข้อมูลของผู้ขาย ตรงจุดนี้ถ้าเจ้าหน้าที่แจ้งตั้งแต่ครั้งแรกที่ติดต่อไปก็คงจบเรื่องไปแล้ว
และจากในกระทู้พันทิปอันนึงที่เคยเสริทหาก่อนหน้านี้ เคอรี่มีนโยบายที่จะระงับการจ่ายเงินให้กับผู้ขายหากเราแจ้งความ ว่าสินค้าที่ได้รับไม่ตรงกับความเป็นจริง แต่เนื่องจากนโยบายเปลี่ยนไปแล้ว ส่วนตัวเห็นว่าควรจะรักษานโยบายเดิมไว้ เพราะเจ้าหน้าที่แนะนำครั้งแรกว่าให้ติดต่อปลายทางซึ่งโทรศัพท์ติดต่อไม่ได้ Pages ปิดไปแล้ว (ตั้งใจขายของปลอมแล้ว เค้าคงรอให้เราเคลมหรอกมั้ง)
ปัจจุบันการหลอกลวงทางออนไลน์โดยการซื้อขายของแบบนี้มีกรณีที่เพิ่มมากขึ้น การที่บริษัทขนส่งเป็นตัวกลางในการรับและจ่ายเงินจากผู้ซื้อถึงผู้ขายตรงนี้น่าจะมีนโยบายอะไรบางอย่างเพื่อช่วยไม่ให้มิจฉาชีพได้เห็นช่องว่างแล้วเอาเปรียบผู้บริโภคไปเรื่อยๆ
ที่ทิ้งช่วงการตามเรื่องนานหน่อยเพราะไปผ่าตัดมา ตอนนี้ยังขับรถเองไม่ได้ ต้องรอขอคนมาพาไปแจ้งความที่โรงพักอีกรอบ เพื่อขอให้เคอรี่เปิดเผยข้อมูลผู้ส่ง ส่วนหนึ่งก็ทำใจเผื่อไว้ว่าจะไม่มีความหวัง แต่ที่โพสคือเผื่อจะมีใครช่วยผลักดันระบบที่ช่วยคุ้มครองผู้บริโภคให้ดีขึ้น โดยไม่เอื้อพวกมิจฉาชีพให้ได้ใจอีกต่อไป