EP.2
แชร์วิธีทำ Visa on arrival จากฮ่องกงไปเซินเจิ้น อย่างละเอียด
ต่อจากเรื่องที่แล้วเรื่องเราไปติด ต.ม. หลังจากกลับจากเซินเจิ้น
วันที่เราจะมาแชร์ว่า ขั้นตอนการเดินทางจากฮ่องกงไปจีน(เซินเจิ้น) โดยไม่ต้องขอวีซ่าไปจากไทยต้องทำอะไรบ้าง
เกริ่น (ขี้เกียจอ่าน ข้ามไปเลยได้จ้า)
เกริ่นก่อนว่า ครั้งนี้ที่เราไปเราตั้งใจจะไปเซินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งหลายคนก็รู้อยู่แล้วว่าคนไทยจะไปที่จีนต้องขอวีซ่าก่อนเท่านั้น
อ่ะ เราตัดสินใจว่าจะไปจีนเมื่อต้นเดือนเม.ย. วันเดินทางคือ 30 เม.ย. ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันเหลือเวลาตั้งเกือบเดือนใช่ป่ะ
แต่ด้วยความที่ประเทศจีนเพิ่งเปิดประเทศเมื่องกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้คิวในการทำวีซ่าค่อนข้างเยอะ
แต่แก นอกจากคนจะอยากไปจีนเยอะแล้ว เดือนเมษายน วันหยุดสงกรานต์อีกหลายวัน
เราตัดสินใจ ติดต่อหาเอเจนซี่เพื่อจะทำวีซ่าและถามเขาไปว่า "ถ้าจะเดินทาง 30 เมษายน ทันไหมคะ"
เอเจนซี่ตอบเรามาแบบชื่นใจมาก "ไม่ทันค่ะ" ยิ้มแห้งเลยเรา
แต่คือเราอยากไปแล้วไง เราเลยหาวีธีการไปจนได้ความว่า
เราสามารถเดินทางเข้าจีนโดยผ่านทางฮ่องกง ด้วยวิธีการทำวีซ่าหน้าด่านหรือ Visa on arrival
ดังนั้นก็ลุยเลยจ้า
ปล. ถามว่าเรามั่นใจได้ยังไงว่าด่านเปิดแล้ว
เราดูคลิปพี่คนนี้จ้า พี่เขาเพิ่งไปมาสดๆ ร้อนๆ เราเลยตาม
ลิ้งค์ >>
https://www.youtube.com/watch?v=XdiH6O0ZBCk&t=51s
วิธีการเดินทาง
*เราเดินทางจากสนามบินไปที่ด่านเลยนะคะ ไม่ได้อยู่ฮ่องกงก่อน
ด่านที่เราจะข้ามไป เรียกว่า "ด่าน Lowu" นะคะ
1. เรารับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราเดินตรงไปที่บริเวณขึ้นบัส ตามป้ายเลยค่ะ
*เรานั่งบัสไปเพราะไปต่อสถานีรถไฟฟ้าอีกต่อเดียวก็ถึงแล้ว ถ้านั่งรถไฟฟ้าไปตั้งแต่แรกจะต้องไปต่ออีกหลายต่อ เลยหาข้อมูลการนั่งบัสไปเลยจ้า ง่ายดี
**ก่อนออกมาจากสนามบินอ่าลืมซื้อบัตร octopus และเติมเงินเข้าไปก่อนน้า เพราะไม่งั้นจะยุ่งยากเรื่องจ่ายเงินมาก
***เราซื้อจาก klook ไว้ก่อนแล้ว ลงเครื่องมาก็เดินตรงมาทางช่อง 13 ได้เลยจ้า
2.เดินมาตามป้ายบอกทางไปขึ้นบัสแล้วมองหาป้ายที่บอกว่า บัสหมายเลข A43,A43P แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ
3.รอขึ้นบัสตามช่องที่เขาแยกให้เลย แต่บัสคันนี้ค่อนข้างรอนานไม่รู้ทำไม หรือเราไม่ได้ดูเวลาว่ามันจะะออกตอนไหน
*บนบัสจะมีช่องไว้ให้เก็บกระเป๋าเดินทางนะคะ จะได้ไม่เกะกะและลำบากในการควบคุม
4.ลงที่ป้าย Sheung Shui ป้ายนี้จะจอดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าพอดี พอลงจากสบัสก็เดินตามทางไปที่สถานีรถไฟฟ้าเลยค่ะ
5.แตะบัตร(Octopus)เหมือนสถานีรถไฟฟ้าบ้านเราเลยค่ะ แล้วเดินหาป้ายที่บอกว่าไป Lowu
*อันนี้รู้สึกว่าจะเดินเข้ามาแล้วเลี้ยวขวา จะมีลิฟซ์ที่ติดป้ายว่า Lowu ลงลิฟซ์ไป 1 ชั้นค่ะ
**คนเยอะมาก ถ่ายรูปไว้ให้ดูไม่ทันค่ะ
6.รอรถไฟ
*สถานีนี้ต้องดูดีดีนะคะว่ารถไฟสายไหนมาถึง เพราะสถานีนี้ปลายทางจะมี 2 ทาง ก็คือ Lowu และ Lok ma chau ค่ะ
7.นั่งไปแค่สถานีเดียวก็ถึงแล้วมาถึงขั้นตอนการเดินทางไปที่ด่านแล้วนะคะ
8.ลงรถไฟแล้วเดินไปตามที่คนเดินไปเยอะๆเลยค่ะ มีทางเดียว
9.จากนั้นจะเจอป้ายที่บอกว่า Hongkong และ Visitor

*อันนี้เราจะเดินตามป้าย Visitor (สีส้ม) เท่านั้น นะคะ เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ
**หลังจากนั้นจะเจอจุดให้แปะบัตรออกจากรถไฟฟ้า
***แต่เรายังจะเดินไปตามทางที่บอกว่า Visitor ต่อนะคะ
10. จะเจอจุดที่เป็นด่านเหมือนกันกับ ต.ม. เราทำขั้นตอนเดียวกับการผ่านด่าน ต.ม. ค่ะ
*เดินตามช่องที่บอกว่าสำหรับชาวต่างชาติ
**มองหาจุดกรอกเอกสารสำหรับเดินทางเข้าประเทศ
11.เข้าช่อง ต.ม. อาจจะมีการสอบถาม อันนี้คือเรื่องปกติค่ะ
12.พอผ่านด่านไปก็เดินไปเรื่อย ๆ ค่ะ

*ตรงนี้จะเจอจุดให้กรอกข้อมูลสุขภาพ (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังต้องกรอกไหม)
**จำเป็นมากต้องมี WeChat นะคะ
13.เดินไปเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นด่านเป็นช่องๆ เหมือนกับ ต.ม. เออซึ่งก็คือ ต.ม. นั่นหละ
*เราจะยังไม่เดินเข้าช่องไป เราจะเดินเลี้ยวซ้ายก่อนเพื่อไปทำเอกสาร วีซ่า
14.ขึ้นบันไบเลื่อนไปตรงที่เขาบอกว่า Visa port
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการขอวีซ่าหน้าด่าน
1. พอขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงให้เดินไปด้านซ้าย
*จะเจอตู้ส้มๆ สำหรับถ่ายรูป เดินเลยมันไปก่อน เลยไปกรอกเอกสารอยู่ข้างๆ ตู้ถ่ายรูป

เอกสารแบบนี้ และกรอกตามนี้ได้เลย
*ขออภัยในความยับเยิน เพราะอันนี้คืออันที่ถือมาจากด่านจริง ๆ แล้วเอามาให้ดูค่ะ
2.กรอกเอกสารแล้วให้มานั่งถ่ายรูป
วิธีคือ
-กดเลือกภาษาตามที่เราสะดวก ง่ายสุดก็อังกฤษ
-ใส่เลขพาสปอร์ต
-รอเครื่องมันหย่อนกล้องลงมา
-พอมันถ่ายรูปเสร็จมันจะให้เราเลือกรูปปที่ดีที่สุด ถ้ายังไม่พอใจ(และคนน้อย) ก็ถ่ายใหม่ไปเลย
-จากนั้นมันจะปริ้นสลิปเล็กๆ(เหมือนเราไปซื้อของในเซเว่น) ในนั้นจะเป็นรุปขาวดำของเรา เอาไว้ไปยื่นตอนถึงคิวเรา
**ดอกจันใหญ่ ๆ เลยนะว่า ถ้าใครอยากมีรูปสวยๆ ติดในพาสปอร์ตควรถ่ายดีดี แต่งหน้าทำผมให้ดี
เพราะเจอมากับตัว คิดว่ารูปในสลิปที่เราได้คือรูปที่จะไปติดวีซ่า เราคิดว่ามันขาวดำอยู่แล้ว จะถ่ายยังไงก็ได้
สรุป ไม่ใช่จ้า ตัวสลิปนั่นคือตัวที่เอาไปแสกนเพื่อเอารูปสีจากในเครื่องที่เราถ่ายไว้นั่นหละ
โอ้โห พังมากกก
3.จับบัตรคิว
เดินไปที่ประตู ตรงซ้ายมือจะมีตู้กดบัตรคิว เหมือนทั่วๆ ไป กด ได้บัตร ไปนั่งรอ
***ดอกจันไว้นิสนึงนะคะ สังเกตดูว่าคนเยอะไหม ถ้าคนไม่เยอะแนะนำว่ากรอกเอกสารถ่ายรูปให้เรียบร้อยก่อนค่อยไปจับบัตรคิวค่ะ
แต่ถ้าคนเยอะ จับบัตรคิวไว้รอเลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา
4.สิ่งที่ต้องเตรียมระหว่างรอคิว
-พาสปอร์ต
-ใบผ่าน ต.ม. (อันนี้สำคัญมาก ห้ามทำหายเด็ดขาด ถ้าหายต้องกลับเข้าไปขอใหม่ จะเสียเวลามาก)
-เอกสารที่เรากรอกตอนแรก พร้อมสลิปรูปถ่าย
*หลังจากเรียกคิว ก็ไปหาเจ้าหน้าที่ เขาก็จะเรียกดูเอกสาร ก็เอาเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้เขา แค่นั้น
อาจจะมีถามอะไรนิดหน่อย หรือไม่ถามเลย
**เสร็จแล้วเขาจะบอกให้ไปนั่งรอได้
5.จ่ายเงิน
บอกไว้ก่อนว่าเราอ่า เตรียมเงินสดไว้ เพราะหาข้อมูลมาว่าต้องจ่ายเป็นเงินสด
แต่ก็มีเตรียมบัตรที่เป็นบัตรเดบิตที่แทนบัตรเครดิตได้ (ที่เขานิยมสำหรับท่องเที่ยวกันนี่หละ)
ตอนจะจ่ายเงินเราก็ยื่นบัตรให้เขา แต่รูดยังไงก็ไม่ผ่าน
เสร็จแราจะเอาเงินสดให้ "เขาไม่รับนะคะ" ***ดอกจันใหญ่ๆ ไว้เลย
และเราก็ไม่มีบัตรอื่นด้วย จึงต้องตาลีตาเลือกไปขอให้คนอื่นช่วย ซึ่งเราไปคนเดียวไม่รู้จักใครเลย
แต่ก็โชคดี ที่มีคนช่วยใช้บัตรเขาจ่ายให้ แล้วเราก็เอาเงินสดให้เขา
นี่ประสบการณ์ที่ต้องไปขอความช่วยเหลือครั้งแรกเลย
อันนี้คือประสบการณ์ที่จะจำไม่ลืมเลย!!
ส่วนใครที่ไม่มีบัตรแครดิต ไม่ต้องกังวลนะคะ
สามารถผูกบัตรเดบิตที่เราพูดถึงเนี๊ยกับอะลีเพย์ แล้วใช้อะลีเพย์จ่ายได้
ตอนนั้นเรานึกไม่ถึงและไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน เลยต้องร้อนรนแบบนั้นเอง
ส่วนวิธีการผูกบัตร ใน tiktok youtube มีสอนค่ะ ละเอียดมาก
6.รอรับพาสปอร์ต พร้อมหน้าพาสปอร์ตที่มีวีซ่าได้เลย ^^
แค่นี้เราก็จะได้วีซ่าสำหรับเข้าประเทศจีนได้แล้ว แต่****เราอยู่ได้แค่เซินเจิ้นนะคะ ไปที่อื่นไม่ได้ และแนะนำว่าอย่าเสี่ยงด้วย
จบแล้ว
ขอต่ออีกนิด จะได้เข้าประเทศจีนแล้ว
หลังจากได้พาสปอร์ตพร้อมวีซ่าแล้ว เราก็ไปรอคิวเข้าช่อง ต.ม. ได้เลยค่ะ
ตรงที่คนเดินไปเยอะ ๆ นั่นหละ แต่ของเราต้องเดินไปฝั่งซ้ายสุดนะ เพราะเราเป็นต่างชาติ
แต่ก่อนจะเข้าไปรอในช่อง ให้เราไปแสกนพาสปอร์ตและลายนิ้มือตรงเครื่องแสกนด้านหลังก่อน มันจะมีป้ายบอก
ทำง่ายๆ ตามขั้นตอนค่ะ
**อีกอย่างที่สำคัญมากๆ เวลาจะเข้าประเทศไหนก็ตาม นั่นก็คืออย่าลืมกรอกใบ ต.ม. ก่อนทุกครั้งค่ะ
จะได้ไม่เสียเวลาเนาะ
จากนั้นก็เดินเข้า ต.ม. ได้เลย บางคนก็ถูกถามนะ แต่บางคนก็ไม่ได้ถามอะไร ภาษาอังกฤษเขาจะยากนิดหน่อย แต่ไม่ยากเกินไป
จากนั้นก็ลุยโลด มีเวลาตั้ง 5 วัน เที่ยวแค่เซินเจิ้น ยังไงก็ครบ
ขอให้สนุกนะคะ
มีอะไรสอบถาม ถามมาได้เลย ถ้าตอบได้ยินดีตอบค่ะ
เพราะไม่รู้ว่าที่เล่ามานี่ละเอียดพอหรือยัง
แชร์วิธีทำ Visa on arrival จากฮ่องกงไปเซินเจิ้น
แชร์วิธีทำ Visa on arrival จากฮ่องกงไปเซินเจิ้น อย่างละเอียด
ต่อจากเรื่องที่แล้วเรื่องเราไปติด ต.ม. หลังจากกลับจากเซินเจิ้น
วันที่เราจะมาแชร์ว่า ขั้นตอนการเดินทางจากฮ่องกงไปจีน(เซินเจิ้น) โดยไม่ต้องขอวีซ่าไปจากไทยต้องทำอะไรบ้าง
เกริ่น (ขี้เกียจอ่าน ข้ามไปเลยได้จ้า)
เกริ่นก่อนว่า ครั้งนี้ที่เราไปเราตั้งใจจะไปเซินเจิ้น ประเทศจีน ซึ่งหลายคนก็รู้อยู่แล้วว่าคนไทยจะไปที่จีนต้องขอวีซ่าก่อนเท่านั้น
อ่ะ เราตัดสินใจว่าจะไปจีนเมื่อต้นเดือนเม.ย. วันเดินทางคือ 30 เม.ย. ซึ่งความเป็นจริงแล้วมันเหลือเวลาตั้งเกือบเดือนใช่ป่ะ
แต่ด้วยความที่ประเทศจีนเพิ่งเปิดประเทศเมื่องกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทำให้คิวในการทำวีซ่าค่อนข้างเยอะ
แต่แก นอกจากคนจะอยากไปจีนเยอะแล้ว เดือนเมษายน วันหยุดสงกรานต์อีกหลายวัน
เราตัดสินใจ ติดต่อหาเอเจนซี่เพื่อจะทำวีซ่าและถามเขาไปว่า "ถ้าจะเดินทาง 30 เมษายน ทันไหมคะ"
เอเจนซี่ตอบเรามาแบบชื่นใจมาก "ไม่ทันค่ะ" ยิ้มแห้งเลยเรา
แต่คือเราอยากไปแล้วไง เราเลยหาวีธีการไปจนได้ความว่า
เราสามารถเดินทางเข้าจีนโดยผ่านทางฮ่องกง ด้วยวิธีการทำวีซ่าหน้าด่านหรือ Visa on arrival
ดังนั้นก็ลุยเลยจ้า
ปล. ถามว่าเรามั่นใจได้ยังไงว่าด่านเปิดแล้ว
เราดูคลิปพี่คนนี้จ้า พี่เขาเพิ่งไปมาสดๆ ร้อนๆ เราเลยตาม
ลิ้งค์ >> https://www.youtube.com/watch?v=XdiH6O0ZBCk&t=51s
วิธีการเดินทาง
*เราเดินทางจากสนามบินไปที่ด่านเลยนะคะ ไม่ได้อยู่ฮ่องกงก่อน
ด่านที่เราจะข้ามไป เรียกว่า "ด่าน Lowu" นะคะ
1. เรารับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เราเดินตรงไปที่บริเวณขึ้นบัส ตามป้ายเลยค่ะ
*เรานั่งบัสไปเพราะไปต่อสถานีรถไฟฟ้าอีกต่อเดียวก็ถึงแล้ว ถ้านั่งรถไฟฟ้าไปตั้งแต่แรกจะต้องไปต่ออีกหลายต่อ เลยหาข้อมูลการนั่งบัสไปเลยจ้า ง่ายดี
**ก่อนออกมาจากสนามบินอ่าลืมซื้อบัตร octopus และเติมเงินเข้าไปก่อนน้า เพราะไม่งั้นจะยุ่งยากเรื่องจ่ายเงินมาก
***เราซื้อจาก klook ไว้ก่อนแล้ว ลงเครื่องมาก็เดินตรงมาทางช่อง 13 ได้เลยจ้า
2.เดินมาตามป้ายบอกทางไปขึ้นบัสแล้วมองหาป้ายที่บอกว่า บัสหมายเลข A43,A43P แล้วเดินตามป้ายไปเรื่อยๆ
3.รอขึ้นบัสตามช่องที่เขาแยกให้เลย แต่บัสคันนี้ค่อนข้างรอนานไม่รู้ทำไม หรือเราไม่ได้ดูเวลาว่ามันจะะออกตอนไหน
*บนบัสจะมีช่องไว้ให้เก็บกระเป๋าเดินทางนะคะ จะได้ไม่เกะกะและลำบากในการควบคุม
4.ลงที่ป้าย Sheung Shui ป้ายนี้จะจอดบริเวณสถานีรถไฟฟ้าพอดี พอลงจากสบัสก็เดินตามทางไปที่สถานีรถไฟฟ้าเลยค่ะ
5.แตะบัตร(Octopus)เหมือนสถานีรถไฟฟ้าบ้านเราเลยค่ะ แล้วเดินหาป้ายที่บอกว่าไป Lowu
*อันนี้รู้สึกว่าจะเดินเข้ามาแล้วเลี้ยวขวา จะมีลิฟซ์ที่ติดป้ายว่า Lowu ลงลิฟซ์ไป 1 ชั้นค่ะ
**คนเยอะมาก ถ่ายรูปไว้ให้ดูไม่ทันค่ะ
6.รอรถไฟ
*สถานีนี้ต้องดูดีดีนะคะว่ารถไฟสายไหนมาถึง เพราะสถานีนี้ปลายทางจะมี 2 ทาง ก็คือ Lowu และ Lok ma chau ค่ะ
7.นั่งไปแค่สถานีเดียวก็ถึงแล้วมาถึงขั้นตอนการเดินทางไปที่ด่านแล้วนะคะ
8.ลงรถไฟแล้วเดินไปตามที่คนเดินไปเยอะๆเลยค่ะ มีทางเดียว
9.จากนั้นจะเจอป้ายที่บอกว่า Hongkong และ Visitor
*อันนี้เราจะเดินตามป้าย Visitor (สีส้ม) เท่านั้น นะคะ เดินไปเรื่อยๆ ค่ะ
**หลังจากนั้นจะเจอจุดให้แปะบัตรออกจากรถไฟฟ้า
***แต่เรายังจะเดินไปตามทางที่บอกว่า Visitor ต่อนะคะ
10. จะเจอจุดที่เป็นด่านเหมือนกันกับ ต.ม. เราทำขั้นตอนเดียวกับการผ่านด่าน ต.ม. ค่ะ
*เดินตามช่องที่บอกว่าสำหรับชาวต่างชาติ
**มองหาจุดกรอกเอกสารสำหรับเดินทางเข้าประเทศ
11.เข้าช่อง ต.ม. อาจจะมีการสอบถาม อันนี้คือเรื่องปกติค่ะ
12.พอผ่านด่านไปก็เดินไปเรื่อย ๆ ค่ะ
*ตรงนี้จะเจอจุดให้กรอกข้อมูลสุขภาพ (ไม่แน่ใจว่าตอนนี้ยังต้องกรอกไหม)
**จำเป็นมากต้องมี WeChat นะคะ
13.เดินไปเรื่อยๆ จะสังเกตเห็นด่านเป็นช่องๆ เหมือนกับ ต.ม. เออซึ่งก็คือ ต.ม. นั่นหละ
*เราจะยังไม่เดินเข้าช่องไป เราจะเดินเลี้ยวซ้ายก่อนเพื่อไปทำเอกสาร วีซ่า
14.ขึ้นบันไบเลื่อนไปตรงที่เขาบอกว่า Visa port
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ขั้นตอนการขอวีซ่าหน้าด่าน
1. พอขึ้นบันไดเลื่อนมาถึงให้เดินไปด้านซ้าย
*จะเจอตู้ส้มๆ สำหรับถ่ายรูป เดินเลยมันไปก่อน เลยไปกรอกเอกสารอยู่ข้างๆ ตู้ถ่ายรูป
เอกสารแบบนี้ และกรอกตามนี้ได้เลย
*ขออภัยในความยับเยิน เพราะอันนี้คืออันที่ถือมาจากด่านจริง ๆ แล้วเอามาให้ดูค่ะ
2.กรอกเอกสารแล้วให้มานั่งถ่ายรูป
วิธีคือ
-กดเลือกภาษาตามที่เราสะดวก ง่ายสุดก็อังกฤษ
-ใส่เลขพาสปอร์ต
-รอเครื่องมันหย่อนกล้องลงมา
-พอมันถ่ายรูปเสร็จมันจะให้เราเลือกรูปปที่ดีที่สุด ถ้ายังไม่พอใจ(และคนน้อย) ก็ถ่ายใหม่ไปเลย
-จากนั้นมันจะปริ้นสลิปเล็กๆ(เหมือนเราไปซื้อของในเซเว่น) ในนั้นจะเป็นรุปขาวดำของเรา เอาไว้ไปยื่นตอนถึงคิวเรา
**ดอกจันใหญ่ ๆ เลยนะว่า ถ้าใครอยากมีรูปสวยๆ ติดในพาสปอร์ตควรถ่ายดีดี แต่งหน้าทำผมให้ดี
เพราะเจอมากับตัว คิดว่ารูปในสลิปที่เราได้คือรูปที่จะไปติดวีซ่า เราคิดว่ามันขาวดำอยู่แล้ว จะถ่ายยังไงก็ได้
สรุป ไม่ใช่จ้า ตัวสลิปนั่นคือตัวที่เอาไปแสกนเพื่อเอารูปสีจากในเครื่องที่เราถ่ายไว้นั่นหละ
โอ้โห พังมากกก
3.จับบัตรคิว
เดินไปที่ประตู ตรงซ้ายมือจะมีตู้กดบัตรคิว เหมือนทั่วๆ ไป กด ได้บัตร ไปนั่งรอ
***ดอกจันไว้นิสนึงนะคะ สังเกตดูว่าคนเยอะไหม ถ้าคนไม่เยอะแนะนำว่ากรอกเอกสารถ่ายรูปให้เรียบร้อยก่อนค่อยไปจับบัตรคิวค่ะ
แต่ถ้าคนเยอะ จับบัตรคิวไว้รอเลยค่ะ จะได้ไม่เสียเวลา
4.สิ่งที่ต้องเตรียมระหว่างรอคิว
-พาสปอร์ต
-ใบผ่าน ต.ม. (อันนี้สำคัญมาก ห้ามทำหายเด็ดขาด ถ้าหายต้องกลับเข้าไปขอใหม่ จะเสียเวลามาก)
-เอกสารที่เรากรอกตอนแรก พร้อมสลิปรูปถ่าย
*หลังจากเรียกคิว ก็ไปหาเจ้าหน้าที่ เขาก็จะเรียกดูเอกสาร ก็เอาเอกสารทั้งหมดที่เตรียมไว้ให้เขา แค่นั้น
อาจจะมีถามอะไรนิดหน่อย หรือไม่ถามเลย
**เสร็จแล้วเขาจะบอกให้ไปนั่งรอได้
5.จ่ายเงิน
บอกไว้ก่อนว่าเราอ่า เตรียมเงินสดไว้ เพราะหาข้อมูลมาว่าต้องจ่ายเป็นเงินสด
แต่ก็มีเตรียมบัตรที่เป็นบัตรเดบิตที่แทนบัตรเครดิตได้ (ที่เขานิยมสำหรับท่องเที่ยวกันนี่หละ)
ตอนจะจ่ายเงินเราก็ยื่นบัตรให้เขา แต่รูดยังไงก็ไม่ผ่าน
เสร็จแราจะเอาเงินสดให้ "เขาไม่รับนะคะ" ***ดอกจันใหญ่ๆ ไว้เลย
และเราก็ไม่มีบัตรอื่นด้วย จึงต้องตาลีตาเลือกไปขอให้คนอื่นช่วย ซึ่งเราไปคนเดียวไม่รู้จักใครเลย
แต่ก็โชคดี ที่มีคนช่วยใช้บัตรเขาจ่ายให้ แล้วเราก็เอาเงินสดให้เขา
นี่ประสบการณ์ที่ต้องไปขอความช่วยเหลือครั้งแรกเลย
อันนี้คือประสบการณ์ที่จะจำไม่ลืมเลย!!
ส่วนใครที่ไม่มีบัตรแครดิต ไม่ต้องกังวลนะคะ
สามารถผูกบัตรเดบิตที่เราพูดถึงเนี๊ยกับอะลีเพย์ แล้วใช้อะลีเพย์จ่ายได้
ตอนนั้นเรานึกไม่ถึงและไม่ได้เตรียมตัวไปก่อน เลยต้องร้อนรนแบบนั้นเอง
ส่วนวิธีการผูกบัตร ใน tiktok youtube มีสอนค่ะ ละเอียดมาก
6.รอรับพาสปอร์ต พร้อมหน้าพาสปอร์ตที่มีวีซ่าได้เลย ^^
แค่นี้เราก็จะได้วีซ่าสำหรับเข้าประเทศจีนได้แล้ว แต่****เราอยู่ได้แค่เซินเจิ้นนะคะ ไปที่อื่นไม่ได้ และแนะนำว่าอย่าเสี่ยงด้วย
จบแล้ว
ขอต่ออีกนิด จะได้เข้าประเทศจีนแล้ว
หลังจากได้พาสปอร์ตพร้อมวีซ่าแล้ว เราก็ไปรอคิวเข้าช่อง ต.ม. ได้เลยค่ะ
ตรงที่คนเดินไปเยอะ ๆ นั่นหละ แต่ของเราต้องเดินไปฝั่งซ้ายสุดนะ เพราะเราเป็นต่างชาติ
แต่ก่อนจะเข้าไปรอในช่อง ให้เราไปแสกนพาสปอร์ตและลายนิ้มือตรงเครื่องแสกนด้านหลังก่อน มันจะมีป้ายบอก
ทำง่ายๆ ตามขั้นตอนค่ะ
**อีกอย่างที่สำคัญมากๆ เวลาจะเข้าประเทศไหนก็ตาม นั่นก็คืออย่าลืมกรอกใบ ต.ม. ก่อนทุกครั้งค่ะ
จะได้ไม่เสียเวลาเนาะ
จากนั้นก็เดินเข้า ต.ม. ได้เลย บางคนก็ถูกถามนะ แต่บางคนก็ไม่ได้ถามอะไร ภาษาอังกฤษเขาจะยากนิดหน่อย แต่ไม่ยากเกินไป
จากนั้นก็ลุยโลด มีเวลาตั้ง 5 วัน เที่ยวแค่เซินเจิ้น ยังไงก็ครบ
ขอให้สนุกนะคะ
มีอะไรสอบถาม ถามมาได้เลย ถ้าตอบได้ยินดีตอบค่ะ
เพราะไม่รู้ว่าที่เล่ามานี่ละเอียดพอหรือยัง