เบื้องหลังสำคัญของการ
พระราชทานอภัยโทษ
"การพระราชทานอภัยโทษ" เรียกแบบเต็มๆ ในภาษาอังกฤษว่า
"The Royal Prerogative
of Mercy" หรือที่เรียก
สั้นๆ ว่า "Royal Pardon"
เป็นพระราชอำนาจที่ยังทรงไว้ขององค์ พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย
แบบ Constitutional
Monarchy ตามแต่ฐานะประมุขแห่งรัฐ ทรงมีพระราชอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามประเพณีการปกครองสมัยใหม่ตามธรรมเนียมปฏิบัติสากลของระบอบการ
ปกครองปัจจุบัน พระ
มหากษัตริย์ทรงมีอำนาจ
เด็ดขาดเฉพาะในเขตมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจเด็ดขาดเฉพาะในเขตพระราชอำนาจส่วนพระองค์ แต่ในด้านอื่นๆโดยเฉพาะการบริหารราชการแผ่นดิน พระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงมีสิทธิ์ขาดในการมีบรมพระบรมราชวินิจฉัยโดยลำพัง ส่วนใหญ่มักดำเนินการตามคำแนะนำของรัฐบาลเป็นหลัก เป็นที่มาของการรับสนองบทบาทของหอสมุดรัฐสภาสหราชอาณาจักรในการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์โดยปกติไม่มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
she has no personal
role in its award." แปล
เป็นไทย "โดยปกติพระมหากษัตริย์จะเซ็นต์พระราชทานอภัยโทษ
แม้ว่าจะทรงไม่มีบทบาท
ส่วนพระองค์ในการมี
พระบรมราชวินิจฉัยเลย
ก็ตาม"
ยกอีกตัวอย่างง่ายๆ
พระราชอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
พระมหากษัตริย์ก็ไม่
แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
พระมหากษัตริย์ก็ไม่
สามารถแต่งตั้งได้ตามใจชอบ ล้วนแต่มาจากผลการเลือกตั้งและฝ่ายการเมือง ในที่สุดเมื่อ
ฝ่ายการเมืองตกลงกันได้ว่าเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ทูลเกล้าฯ ให้
ทรงทราบและมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งโดยมี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งถือเป็นผู้ดำเนินการที่แท้จริง
หลักวิชาการเมืองการ
ปกครองพื้นฐานเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่การมโนไปเรื่อยเปื่อยแบบ งูๆ ปลาๆ
อันเป็นสาเหตุประการต้นๆ ของความวุ่นวายทางการเมืองไทยใน
ปัจจุบัน ที่มักนำความคิด
เห็นมาถกเถียงกันไม่รู้จบ ทั้งๆ ที่หลักวิชาต่าง
หากที่มีความสำคัญและ
สามารถนำไปสู่บทสรุป
ในทุกการถกเถียงได้
อีกทั้งยังจะช่วยปกป้อง
สถาบันพระมหากษัตริย์
ให้มั่นคงสืบไป
ดังนั้น นับว่าเป็นพระมหา
กรุณาอันล้นพ้นของ
องค์พระมหากษัตริย์ ที่
กรุณาอันล้นพ้นของ
องค์พระมหากษัตริย์ ที่
มิได้ทรงแทรกแซงหรือ
คัดค้านโดยไม่ใช่เหตุจำเป็น การพระราชทาน
อภัยโทษจึงเป็นไปตามฎีกาที่มาพร้อมกับการ
ถวายคำแนะนำของรัฐบาล ซึ่งไม่ว่าใครใน
ฝ่ายการเมืองจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ความจริงที่ไม่อาจหนีพ้นไปได้ ชื่อของผู้รับสนองพระบรมราชโองการในครั้งนี้ที่มีนามว่า "พลเอก ประยุทธ์
จันทร์โอชา"
ดร.ศุภณัฐ
2 กันยายน พ.ศ. 2566
พระราชอำนาจ
พระราชทานอภัยโทษ
"การพระราชทานอภัยโทษ" เรียกแบบเต็มๆ ในภาษาอังกฤษว่า
"The Royal Prerogative
of Mercy" หรือที่เรียก
สั้นๆ ว่า "Royal Pardon"
เป็นพระราชอำนาจที่ยังทรงไว้ขององค์ พระมหากษัตริย์ในระบอบประชาธิปไตย
แบบ Constitutional
Monarchy ตามแต่ฐานะประมุขแห่งรัฐ ทรงมีพระราชอำนาจตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญและเป็นไปตามประเพณีการปกครองสมัยใหม่ตามธรรมเนียมปฏิบัติสากลของระบอบการ
ปกครองปัจจุบัน พระ
มหากษัตริย์ทรงมีอำนาจ
เด็ดขาดเฉพาะในเขตมหากษัตริย์ทรงมีอำนาจเด็ดขาดเฉพาะในเขตพระราชอำนาจส่วนพระองค์ แต่ในด้านอื่นๆโดยเฉพาะการบริหารราชการแผ่นดิน พระมหากษัตริย์ไม่ได้ทรงมีสิทธิ์ขาดในการมีบรมพระบรมราชวินิจฉัยโดยลำพัง ส่วนใหญ่มักดำเนินการตามคำแนะนำของรัฐบาลเป็นหลัก เป็นที่มาของการรับสนองบทบาทของหอสมุดรัฐสภาสหราชอาณาจักรในการพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์โดยปกติไม่มีเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย
she has no personal
role in its award." แปล
เป็นไทย "โดยปกติพระมหากษัตริย์จะเซ็นต์พระราชทานอภัยโทษ
แม้ว่าจะทรงไม่มีบทบาท
ส่วนพระองค์ในการมี
พระบรมราชวินิจฉัยเลย
ก็ตาม"
ยกอีกตัวอย่างง่ายๆ
พระราชอำนาจในการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
พระมหากษัตริย์ก็ไม่
แต่งตั้งนายกรัฐมนตรี
พระมหากษัตริย์ก็ไม่
สามารถแต่งตั้งได้ตามใจชอบ ล้วนแต่มาจากผลการเลือกตั้งและฝ่ายการเมือง ในที่สุดเมื่อ
ฝ่ายการเมืองตกลงกันได้ว่าเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน ก็ทูลเกล้าฯ ให้
ทรงทราบและมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งโดยมี
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
เป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งถือเป็นผู้ดำเนินการที่แท้จริง
หลักวิชาการเมืองการ
ปกครองพื้นฐานเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก ไม่ใช่การมโนไปเรื่อยเปื่อยแบบ งูๆ ปลาๆ
อันเป็นสาเหตุประการต้นๆ ของความวุ่นวายทางการเมืองไทยใน
ปัจจุบัน ที่มักนำความคิด
เห็นมาถกเถียงกันไม่รู้จบ ทั้งๆ ที่หลักวิชาต่าง
หากที่มีความสำคัญและ
สามารถนำไปสู่บทสรุป
ในทุกการถกเถียงได้
อีกทั้งยังจะช่วยปกป้อง
สถาบันพระมหากษัตริย์
ให้มั่นคงสืบไป
ดังนั้น นับว่าเป็นพระมหา
กรุณาอันล้นพ้นของ
องค์พระมหากษัตริย์ ที่
กรุณาอันล้นพ้นของ
องค์พระมหากษัตริย์ ที่
มิได้ทรงแทรกแซงหรือ
คัดค้านโดยไม่ใช่เหตุจำเป็น การพระราชทาน
อภัยโทษจึงเป็นไปตามฎีกาที่มาพร้อมกับการ
ถวายคำแนะนำของรัฐบาล ซึ่งไม่ว่าใครใน
ฝ่ายการเมืองจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง แต่ความจริงที่ไม่อาจหนีพ้นไปได้ ชื่อของผู้รับสนองพระบรมราชโองการในครั้งนี้ที่มีนามว่า "พลเอก ประยุทธ์
จันทร์โอชา"
ดร.ศุภณัฐ
2 กันยายน พ.ศ. 2566