“ในช่วงที่เริ่มกังวลว่าทิศทางที่ตัวเองต้องการคืออะไร สิ่งที่อยากทำคืออะไร กระทั่งฉันอยากทำเพลงจริงๆไหมเป็นครั้งแรกในชีวิต ทั้งหาคำตอบไม่ได้รวมถึงน่าจะเสียความมั่นใจไปเยอะ มีอยู่วันนึง พี่เขามาหาฉันที่บ้านแล้วคุยกันอยู่ตั้ง2ชั่วโมงค่ะ รู้สึกได้เลยว่าพี่เป็นห่วงฉันมาก”
🥺🤍
“พี่เป็นคนให้ความกล้ากับฉันค่ะ บอกว่า คราวนี้จะทำเพลงที่เธอร้องอย่างสนุกได้ให้ หวังว่าจะรู้สึกถึงความสนุกความสุขระหว่างที่ร้องเพลง ระหว่างที่โปรโมทนะ ฉันก็เลยมีความกล้าในการทำสิ่งต่างๆในคัมแบครอบนี้ค่ะ รู้สึกได้รับพลังงานดีๆเต็มเปี่ยมในรอบปีจริงๆ เลยคิดว่าดีจังที่คัมแบคค่ะ”
Q. สิ่งที่อยากพูดถึงพี่/น้อง
“จากคัมแบคนี้ก็หวังว่าจะได้ร้องเพลงทำเพลงดีๆด้วยกันอีกเยอะๆ อย่างมีความสุขไปนานๆ แค่นี้ครับ”
“เพราะในช่วงเวลาแบบนี้คนที่กำลังช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดีก็คือพี่ ฉันเลยนึกขอบคุณอยู่เสมอ จะพยายามเพื่อจะได้ทำเพลงร้องเพลงด้วยกันอย่างมีความสุขมากขึ้นค่ะ”
ซูฮยอน “คิดว่าการปล่อยซิงเกิล Love Lee เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งค่ะ เพราะเป็นเพลงที่ปรับเข้าหาตัวฉันเป็นหลัก ระหว่างทำเพลงนี้พี่ชานฮยอกถามความเห็นของฉันเยอะเลย รวมถึงตอนไปทริปกับครอบครัวก็ยังทำท่อนฮุคอยู่ตลอด เป็นเพลงที่ออกมาด้วยความทุ่มเทพยายามของพี่เลยค่ะ” 🥺💖
👦🏻 “ที่ซูฮยอนมีความกังวลกับเพลงมากขึ้น เพราะสิ่งที่ผมพยายามอยากให้ใส่ลงในเพลงมันยากด้วย ช่วงที่น้องหมดไฟก็เป็นความรับผิดชอบของผมเหมือนกัน”
👧🏻 “2ปีก่อนที่เล่าเรื่องนี้ ก็ลังเลว่าควรเล่าแค่ไหน แต่คิดว่าพูดตรงๆคงดีกว่า ตอนนี้ก็ยังพยายามเอาชนะอยู่ พี่ก็คอยช่วย ให้คำแนะนำอยู่ข้างๆ” 🥺
Q. ตอนที่ซูฮยอนได้ฟัง Love Lee ครั้งแรกรู้สึกยังไง
“โล่งใจมากเลยค่ะ พอบอกพี่ว่าอยากร้องเพลงแบบ 200% อีกทีไร พี่เขาก็บอกว่าเขียนเพลงแบบนั้นไม่ได้แล้ว ต่อให้อยากทำฟีลนั้นก็ไม่ออกมาแล้ว แต่ฟีลนั้นก็มาเฉยเลยค่ะ ฉันก็เลยบอก ยังได้อยู่นี่นา พยายามหน่อยก็ทำได้อยู่หรอก ดีใจมากเลยค่ะ”
Q. ส่วนที่ชานฮยอกใส่ใจเป็นหลักระหว่างทำเพลง Love Lee
🐸 “พวกพ้อยท์วิธีการร้องของซูฮยอนที่เค้าถนัดและทำได้ดีที่สุดครับ ผมแต่งแบบคิดถึงจุดนั้น คิดว่าพอร้องแบบนี้คนฟังคงชอบนะ”
👤 “ถึงจะตอบดูนิ่งๆแต่รู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่พี่มีต่อน้องเลยค่ะ”
“Fry’s Dream กลายเป็นเหมือนเพลงธีมของชีวิตฉันตอนนี้เลยค่ะ ก็มีคิดว่าถ้าร้องเพลงนี้แล้วคนอาจจะเข้าใจฉันมากขึ้นไหมนะ อยากจะให้มีคนเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตแบบนี้มากขึ้น และความที่พี่เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตคนละแบบกับในเนื้อเพลงนี้ด้วย ก็เลยอยากจะปล่อยพี่ไว้แล้วร้องเองน่ะค่ะ😆”
AKMU ตกลงกันไว้อย่างจริงจังก่อนคัมแบคว่าคราวนี้อยากจะดูเป็นพี่น้องที่สนิทกลมเกลียว ทั้งคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะโตๆกันแล้วดูแลกันดีๆกว่ามาเถียงกัน ตกลงกันไว้ว่ามาพยายามกันแต่ก็ยังไม่ง่าย พยายามแล้วแต่ก็ยังออกมาไม่ธรรมชาติเลย หรือกลับไปเถียงกันดีกว่า ถึงอย่างนั้นก็ได้พยายามแล้วค่ะ🤣
ในความพยายามกับเป้าหมายของคัมแบคที่ตั้งมั่นว่าจะโชว์ภาพลักษณ์พี่น้องที่อยู่กันอย่างสงบสุขไม่ตีกัน แต่ให้สนิทกันหน้ากล้องยังออกจะเกร็งๆหน่อย เป็นกำลังใจให้นะคะ~😆✌🏻✨
Cr: @AkMu_TH

ชวนดู 2 พี่น้อง AKMU ร้องสดในรายการ Dingo Killing Voice
“ในช่วงที่เริ่มกังวลว่าทิศทางที่ตัวเองต้องการคืออะไร สิ่งที่อยากทำคืออะไร กระทั่งฉันอยากทำเพลงจริงๆไหมเป็นครั้งแรกในชีวิต ทั้งหาคำตอบไม่ได้รวมถึงน่าจะเสียความมั่นใจไปเยอะ มีอยู่วันนึง พี่เขามาหาฉันที่บ้านแล้วคุยกันอยู่ตั้ง2ชั่วโมงค่ะ รู้สึกได้เลยว่าพี่เป็นห่วงฉันมาก”
🥺🤍
“พี่เป็นคนให้ความกล้ากับฉันค่ะ บอกว่า คราวนี้จะทำเพลงที่เธอร้องอย่างสนุกได้ให้ หวังว่าจะรู้สึกถึงความสนุกความสุขระหว่างที่ร้องเพลง ระหว่างที่โปรโมทนะ ฉันก็เลยมีความกล้าในการทำสิ่งต่างๆในคัมแบครอบนี้ค่ะ รู้สึกได้รับพลังงานดีๆเต็มเปี่ยมในรอบปีจริงๆ เลยคิดว่าดีจังที่คัมแบคค่ะ”
Q. สิ่งที่อยากพูดถึงพี่/น้อง
“จากคัมแบคนี้ก็หวังว่าจะได้ร้องเพลงทำเพลงดีๆด้วยกันอีกเยอะๆ อย่างมีความสุขไปนานๆ แค่นี้ครับ”
“เพราะในช่วงเวลาแบบนี้คนที่กำลังช่วยให้ผ่านไปได้ด้วยดีก็คือพี่ ฉันเลยนึกขอบคุณอยู่เสมอ จะพยายามเพื่อจะได้ทำเพลงร้องเพลงด้วยกันอย่างมีความสุขมากขึ้นค่ะ”
ซูฮยอน “คิดว่าการปล่อยซิงเกิล Love Lee เป็นเหมือนการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งค่ะ เพราะเป็นเพลงที่ปรับเข้าหาตัวฉันเป็นหลัก ระหว่างทำเพลงนี้พี่ชานฮยอกถามความเห็นของฉันเยอะเลย รวมถึงตอนไปทริปกับครอบครัวก็ยังทำท่อนฮุคอยู่ตลอด เป็นเพลงที่ออกมาด้วยความทุ่มเทพยายามของพี่เลยค่ะ” 🥺💖
👦🏻 “ที่ซูฮยอนมีความกังวลกับเพลงมากขึ้น เพราะสิ่งที่ผมพยายามอยากให้ใส่ลงในเพลงมันยากด้วย ช่วงที่น้องหมดไฟก็เป็นความรับผิดชอบของผมเหมือนกัน”
👧🏻 “2ปีก่อนที่เล่าเรื่องนี้ ก็ลังเลว่าควรเล่าแค่ไหน แต่คิดว่าพูดตรงๆคงดีกว่า ตอนนี้ก็ยังพยายามเอาชนะอยู่ พี่ก็คอยช่วย ให้คำแนะนำอยู่ข้างๆ” 🥺
Q. ตอนที่ซูฮยอนได้ฟัง Love Lee ครั้งแรกรู้สึกยังไง
“โล่งใจมากเลยค่ะ พอบอกพี่ว่าอยากร้องเพลงแบบ 200% อีกทีไร พี่เขาก็บอกว่าเขียนเพลงแบบนั้นไม่ได้แล้ว ต่อให้อยากทำฟีลนั้นก็ไม่ออกมาแล้ว แต่ฟีลนั้นก็มาเฉยเลยค่ะ ฉันก็เลยบอก ยังได้อยู่นี่นา พยายามหน่อยก็ทำได้อยู่หรอก ดีใจมากเลยค่ะ”
Q. ส่วนที่ชานฮยอกใส่ใจเป็นหลักระหว่างทำเพลง Love Lee
🐸 “พวกพ้อยท์วิธีการร้องของซูฮยอนที่เค้าถนัดและทำได้ดีที่สุดครับ ผมแต่งแบบคิดถึงจุดนั้น คิดว่าพอร้องแบบนี้คนฟังคงชอบนะ”
👤 “ถึงจะตอบดูนิ่งๆแต่รู้สึกได้ถึงความใส่ใจที่พี่มีต่อน้องเลยค่ะ”
“Fry’s Dream กลายเป็นเหมือนเพลงธีมของชีวิตฉันตอนนี้เลยค่ะ ก็มีคิดว่าถ้าร้องเพลงนี้แล้วคนอาจจะเข้าใจฉันมากขึ้นไหมนะ อยากจะให้มีคนเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตแบบนี้มากขึ้น และความที่พี่เขาเป็นคนที่ใช้ชีวิตคนละแบบกับในเนื้อเพลงนี้ด้วย ก็เลยอยากจะปล่อยพี่ไว้แล้วร้องเองน่ะค่ะ😆”
AKMU ตกลงกันไว้อย่างจริงจังก่อนคัมแบคว่าคราวนี้อยากจะดูเป็นพี่น้องที่สนิทกลมเกลียว ทั้งคิดว่าถึงเวลาที่ควรจะโตๆกันแล้วดูแลกันดีๆกว่ามาเถียงกัน ตกลงกันไว้ว่ามาพยายามกันแต่ก็ยังไม่ง่าย พยายามแล้วแต่ก็ยังออกมาไม่ธรรมชาติเลย หรือกลับไปเถียงกันดีกว่า ถึงอย่างนั้นก็ได้พยายามแล้วค่ะ🤣
ในความพยายามกับเป้าหมายของคัมแบคที่ตั้งมั่นว่าจะโชว์ภาพลักษณ์พี่น้องที่อยู่กันอย่างสงบสุขไม่ตีกัน แต่ให้สนิทกันหน้ากล้องยังออกจะเกร็งๆหน่อย เป็นกำลังใจให้นะคะ~😆✌🏻✨
Cr: @AkMu_TH