ผลการควบรวม true-dtac ตอนนี้เป็นไงบ้าง ดีหรือไม่ดีอย่างไร

กระทู้คำถาม
ตอนนี้ก็มาถึงขั้นตอนที่ทรัพย์สินของ dtac ตกเป็นของ true แล้ว รอวันที่แบรนด์ dtac หมดไปเท่านั้น ก็เท่ากับว่า dtac ลาจากถาวร ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกของธุรกิจ ทำแล้วไม่คุ้มก็เลิกก็ลาไป

   บ้านเรามันไม่เหมาะต่อการลงทุนระยะยาวอยู่แล้ว มีแต่จะประมูลคลื่นความถี่หาเงินเข้ารัฐ ไม่ได้ดูว่าผู้ประกอบการจะอยู่อย่างไรในระยะยาว ไม่ได้คำนึงว่าประชาชนผู้ใช้บริการจะได้รับประโยชน์อย่างไรในระยะยาว สุดท้ายก็จบแบบนี้ ดูแล้วก็เป็นบทจบบทสรุปที่ยุติธรรม มีความเป็นธรรมดี เพราะภาครัฐและประชาชนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มาคิดถึงความเป็นอยู่ของผู้ประกอบการอยู่แล้ว ต่อไปสถานการณ์ก็บังคับให้ภาครัฐได้เงินประมูลน้อยลง และประชาชนก็ส่อแววใช้บริการมือถือที่แพงขึ้น รับกรรมกันไป
  
จริงๆถ้ามามองว่า ช่วงนี้ค่าโทร+เน็ตแพงขึ้นหลังจากควบรวม ก่อนหน้านี้ที่มีกันอยู่ 3 ค่ายมาเป็น 10-20 ปีก็มีทั้งช่วงช่วงค่าโทรถูก ค่าโทรแพงอยู่แล้ว บางช่วงลดราคา บางช่วงขึ้นราคา ไม่ใช่จะมีแต่ถูกลงอย่างเดียว น่าจะให้ผ่านไปซักปีนึงว่า เหตุการณ์จะเป็นยังไง

  ในอนาคต ถ้าดูแล้ว มี 2 เจ้าแล้วทิศทางไม่ดี ก็เปิดให้มีเจ้าที่ 3 เจ้าใหม่ประมูลคลื่นก็ได้ เปิดให้เจ้าเดียวเข้ามาประมูล ตั้งราคาถูกๆไว้ ทำยังไงก็ได้ให้เกิดเจ้าใหม่ เจ้าที่ 3 มาแข่งขันกับ 2 เจ้าเดิม

   สถานการณ์ตอนนี้มันบังคับแล้วว่า ถ้าอยากให้เกิดเจ้าใหม่มาแข่งขันกับเจ้าเดิม จะมาประมูลแพงไม่ได้ เผลอๆต้องยกคลื่นให้ฟรีอีกต่างหาก เพราะการลงทุนโครงข่ายในยุค 5G/6G ต้องใช้เงินลงทุนสูงมาก ถ้าประมูลคลื่นแพงก็ไม่มีใครอยากลงทุนกัน ลงทุนแล้วต้องได้คืนต้องอยู่รอดได้

  ถ้าจะมีเจ้าใหม่เกิดขึ้นในไทยยุค 5G/6G ได้ ก็คงเป็น เจ้าในไทย 3bb เท่านั้นแหละ ต่างชาติคงไม่อยากมาลงทุนเท่าไร 3bb นี่พอมีฐานในไทยอยู่ระดับนึง การต่อยอดจากของเดิมคงง่ายกว่าต่างชาติเข้ามาทำใหม่ ดูเหตุการณ์ซักพักนึง ยังไม่น่าให้ไปควบรวมกับ ais หรอก น่าจะให้มาเป็นเจ้าที่ 3 มากกว่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่