โดนแจ้งข้อหาค้ามนุษย์ep2

หลังจากเหตุการณ์นั้นดิฉันจึงลาออกจากงานแล้วจดทะเบียนสมรสกับสามีคนปัจจุบัน ยังเดินทางเข้าออกประเทศไทยทุกปี จนประทั่งปี2561 ดิฉันได้ตั้งครรภ์ลูกคนที่3ทำให้ไม่ได้เดินทางกลับประเทศไทย ประกอบกับเหตุการณ์โควิท ทำให้ไม่สามารถเดินทางได้ ปลายปี2565ดิฉันเดินทางกลับประเทศไทย ตอนขาเข้าเจ้าหน้าที่บอกว่าพาสปอร์ตของเิฉันถูกแคนเซิล ดิฉันก็ไม่ทราบสาเหตุ เลยไปติดต่อทำพาสใหม่วันที่9มกราคม2566เนื่องจากดิฉันกับครอบครัวมีแพลนกลับญี่ปุ่นวันที่8มกราคม2566 ดิฉันจึงต้องส่งทุกคนกลับก่อนแล้ววันที่9จะไปทำพาสด่วนเพื่อเดินทางกลับวันที่9กลางคืน แต่เรื่องไม่คาดฝันเมื่อวันที่8 มกราคม2566ดิฉันโดนจับข้อหาค้ามนุษย์ที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อหน้าครอบครัว ซึ่งวันนั้นเป็นครั้งแรกที่ดิฉันทราบว่าตัวเองมีหมายจับ ตอนแรกตกใจมาก เมื่อส่งครอบครัวกลับดิฉันถูกพาตัวมาที่สอบสวนกลางถึงทราบว่าลูกพี่ลูกน้องของตัวเองแจ้งจับดิฉัน ดิฉันได้ประกันตัวกับศาลในวงเงิน150,000บาท  ดิฉันมาให้ปากคำและสวบรวมเอกสารทุกอย่างด้วยตนเอง เคยยื่นคำร้องขอออกนอกประเทศเพื่อไปดำเนินการเรื่องเอกสารจากประเทศญี่ปุ่นทางศาลก็ไม่อนุญาต ดิฉันจึงไปติดต่อสถานทูตให้ดำเนินการแทนเรื่องเอกสาร ทางสถานทูตให้ไปทำหนังสือถึงอัยการให้มีคำสั่งให้สถานทูตดำเนินการเรื่องเอกสารแทนดิฉัน แต่ทางอียการก็ปัดตกคำร้องของดิฉันโดยให้เหตุผลว่าหลักฐานที่มีเพียงพอแล้ว แต่ดิฉันก็ยังต้องการเอกสารจากกรมตำรวจที่ญี่ปุ่นอยู่ดีเนื่องการที่ญี่ปุ่น ตำรวจทำการสอบสวนและสืบสวนแล้วไม่มีความผิดตามที่ลูกพี่ลูกน้องดิฉันแจ้งความไว้  
ตอนนี้เรื่องถึงศาลมีนัดสืบพยานวันที่27-30พ.ยกับ1ธ.คนี้ ดิฉันกับทนายความจึงทำหนังสือถึงศาลให้มีคำสั่งให้สถานทูตดำเนินการตามคำร้องขอของดิฉัน 
แต่วันนี้ศาลได้สั่งยกคำร้องของดิฉัน โดยให้เหตุผลว่าให้ดิฉันไม่มอบอำนาจให้สถานทูตดำเนินการณ์ให้เอง 
ดิฉันควรทำยังไงดีคะ ขอคำแนะนำจากผู้มีความรู้ในกลุ่มทีค่ะ รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมเลย 
ตอนที่น้องเดินทางกลับมามีกลุ่มพัฒนาสังคมมนุษย์เข้าช่วยเหลือ ญาติบางคนบอกว่าน้องได้รับเงินช่วยเหลือตอนที่กลับมา ตอนนี้ในสำนวนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ยื่นเรียกร้องค่าสินไหมให้น้อง6ล้านบาท ซึ่งเอกสารพวกนี้นวมถึงหมายจับได้ออกมาตอนปี2560ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่