เคยไปสมัครงาน3ที่ ที่3นี่แหละค่ะมาถามเราว่าเป็นซึมเศร้าไหม เราสมัครงานในครัวคาเฟ่นึงที่สยาม เขาเรียกไปสัมภาษณ์อยู่บางจาก ไกลมากก นั่งรถเป็นชม. สัมภาษณ์กับปกติแล้วก็
ถาม : เคยเป็นซึมเศร้าไหม
ตอบ : เราเลยว่าเป็นตั้งแต่เกิด(นางก็อึ้งสักพัก)
เราเลือกที่จะตอบความจริงน่ะค่ะก็เขาอยากรู้เองแต่ก็งงอยู่มันใช่เรื่องน่าถามหรอ เขาเลยถามตีอว่ายังกินยาอยู่ไหมเราว่าเลิกกินแล้ว(เราเคยไปหาหมอรักษาจิตใจจนดีขึ้นมากแล้ว) แล้วก็ถามเป็นหนักไหมบลาๆ (ดิฉันงงค่ะคุณจะถามทำไม) มันทำงานในครัวอย่างเดียวทำงานคือทำงานสิว่ะ เพื่อนร่วมงานเราสามารถเข้าได้เราเข้ากับมนุษย์ได้เคยเป็นซึมเศร้ามันจะกระทบกับงานยังไงคะ เราโตจน20เยอะแยะอะไรออกกว่าจะผ่านซึมเศร้ามามันก็หนักมากเรามีปัญหาครอบครัว แค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่ามาถาม
ถาม : อีกเครียดง่ายไหม
ตอบ: ง่ายค่ะ
ถาม : ขี้คิดเล็กคิดน้อยไหม
ตอบ : ไม่ค่ะ
ถาม : แล้วเครียดง่ายนี้ คิดเล็กคิดน้อยไหม
(เราก็ เอ้า! คำตอบเราไม่ไม่สมเหตุสมผลหรอ เข้าใจอะไรยาก)
ตอบ : เครียดง่ายแต่สามารถจัดการกับความเครียดได้ดีค่ะ ที่ว่าไปว่าเป็นซึมเศร้าโดนอะไรมาหนักเราสามารถจัดการกับมันได้ ส่วนเรื่องคิดเล็กคิดน้อยที่ว่าไม่กังวล คือเราไม่จำเป็นต้องเก็บทุกอย่างมาคิด คิดแค่คนที่เขาสอนหรือห่วงใยเรา คำคนอื่นที่ไม่มีสาระเราไม่เก็บมาคิด
ถามย้ำวนหลายรอบมากว่ามีอะไรสงสัยอีกไหม คือเราถามทุกอย่างไปตั้งแต่รอบแรกแล้ว (เราก็แบบดูคลิปสอนสัมภาษณ์งานมา เขาว่าเวลาโดนถามว่าสงสัยอะไรไหม อย่าบอกว่าไม่ แต่เขาถามเรา3-4รอบ เราก็แบบ จะเอาอะไรมาถามเพิ่มว่ะ เตรียมคำถามมาให้อย่างดี เราก็พูดไปแล้วไงรอบแล้ว
ส่วนตัวเราคิดว่าเราโดนอคติยังไงไม่รู้
ถาม : ข้อเสีย (ยกตัวอย่างอันเดียว)
ตอบ : ชอบและเรียนแฟชั่นเลยทำให้มีความเป็นตัวเองสูง
ถาม : หมายถึง " อีโก้ " หรอคะ
(ในใจเราแบบแม่เจ้าทำไมคิดว่ามีอีโก้ว่ะ บอกว่าเรียนแฟชั่น)
ตอบ : มีความเป็นตัวเองสูงหมายถึงเรื่องพวกเสื้อผ้าการแต่งตัวทรงผมน่ะค่ะ(ส่วนตัวคิดว่ามันอาจเป็นข้อเสีย แค่อยากบอกให้เรารู้ไว้ก่อน) แต่เราก็จะอยู่ในกฎอยู่แล้วล่ะค่ะ เหมือนตอนเราเป็นนักเรียนเราก็ต้องทำให้ถูกกฏ(เราเปรียบเทียบแบบฟิลการใส่เครื่องแบบอ่ะค่ะ)
ท้ายที่สุดก็มายืนเหนื่อยเมื่อยตัวบนBtsที่คนโครตมหาเยอะ ว่า ทำไมเราไม่ถามเขากลับไปว่ะ ว่าซึมเศร้ามันมีผมกับการทำงานยังไง เราโดตเป็นควายแล้วแบบแยกแยะได้ ถ้าเราจะเป็นซึมเศร้าอะไรคือร้องไห้คนเดียว มันจะไปมีปัญหากับร้ายังไงคะ
สัมภาษณ์งาน ถามว่าเป็นซึมเศร้าไหมนี้เรื่องปกติไหมคะ
ถาม : เคยเป็นซึมเศร้าไหม
ตอบ : เราเลยว่าเป็นตั้งแต่เกิด(นางก็อึ้งสักพัก)
เราเลือกที่จะตอบความจริงน่ะค่ะก็เขาอยากรู้เองแต่ก็งงอยู่มันใช่เรื่องน่าถามหรอ เขาเลยถามตีอว่ายังกินยาอยู่ไหมเราว่าเลิกกินแล้ว(เราเคยไปหาหมอรักษาจิตใจจนดีขึ้นมากแล้ว) แล้วก็ถามเป็นหนักไหมบลาๆ (ดิฉันงงค่ะคุณจะถามทำไม) มันทำงานในครัวอย่างเดียวทำงานคือทำงานสิว่ะ เพื่อนร่วมงานเราสามารถเข้าได้เราเข้ากับมนุษย์ได้เคยเป็นซึมเศร้ามันจะกระทบกับงานยังไงคะ เราโตจน20เยอะแยะอะไรออกกว่าจะผ่านซึมเศร้ามามันก็หนักมากเรามีปัญหาครอบครัว แค่คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องน่ามาถาม
ถาม : อีกเครียดง่ายไหม
ตอบ: ง่ายค่ะ
ถาม : ขี้คิดเล็กคิดน้อยไหม
ตอบ : ไม่ค่ะ
ถาม : แล้วเครียดง่ายนี้ คิดเล็กคิดน้อยไหม
(เราก็ เอ้า! คำตอบเราไม่ไม่สมเหตุสมผลหรอ เข้าใจอะไรยาก)
ตอบ : เครียดง่ายแต่สามารถจัดการกับความเครียดได้ดีค่ะ ที่ว่าไปว่าเป็นซึมเศร้าโดนอะไรมาหนักเราสามารถจัดการกับมันได้ ส่วนเรื่องคิดเล็กคิดน้อยที่ว่าไม่กังวล คือเราไม่จำเป็นต้องเก็บทุกอย่างมาคิด คิดแค่คนที่เขาสอนหรือห่วงใยเรา คำคนอื่นที่ไม่มีสาระเราไม่เก็บมาคิด
ถามย้ำวนหลายรอบมากว่ามีอะไรสงสัยอีกไหม คือเราถามทุกอย่างไปตั้งแต่รอบแรกแล้ว (เราก็แบบดูคลิปสอนสัมภาษณ์งานมา เขาว่าเวลาโดนถามว่าสงสัยอะไรไหม อย่าบอกว่าไม่ แต่เขาถามเรา3-4รอบ เราก็แบบ จะเอาอะไรมาถามเพิ่มว่ะ เตรียมคำถามมาให้อย่างดี เราก็พูดไปแล้วไงรอบแล้ว
ส่วนตัวเราคิดว่าเราโดนอคติยังไงไม่รู้
ถาม : ข้อเสีย (ยกตัวอย่างอันเดียว)
ตอบ : ชอบและเรียนแฟชั่นเลยทำให้มีความเป็นตัวเองสูง
ถาม : หมายถึง " อีโก้ " หรอคะ
(ในใจเราแบบแม่เจ้าทำไมคิดว่ามีอีโก้ว่ะ บอกว่าเรียนแฟชั่น)
ตอบ : มีความเป็นตัวเองสูงหมายถึงเรื่องพวกเสื้อผ้าการแต่งตัวทรงผมน่ะค่ะ(ส่วนตัวคิดว่ามันอาจเป็นข้อเสีย แค่อยากบอกให้เรารู้ไว้ก่อน) แต่เราก็จะอยู่ในกฎอยู่แล้วล่ะค่ะ เหมือนตอนเราเป็นนักเรียนเราก็ต้องทำให้ถูกกฏ(เราเปรียบเทียบแบบฟิลการใส่เครื่องแบบอ่ะค่ะ)
ท้ายที่สุดก็มายืนเหนื่อยเมื่อยตัวบนBtsที่คนโครตมหาเยอะ ว่า ทำไมเราไม่ถามเขากลับไปว่ะ ว่าซึมเศร้ามันมีผมกับการทำงานยังไง เราโดตเป็นควายแล้วแบบแยกแยะได้ ถ้าเราจะเป็นซึมเศร้าอะไรคือร้องไห้คนเดียว มันจะไปมีปัญหากับร้ายังไงคะ