ชวนดูหนังโรงน้ำดีจากทวีปเอเชีย 2 เรื่อง 2 รส (จีน+อินเดีย) ที่คุณจะไม่เสียดายเงินค่าตั๋วสักบาทเดียวเลย

วันนี้ผมขอแนะนำหนังเอเชียน้ำดี 2 เรื่อง 2 รส ที่ได้ไปดูมาเมื่อวันหยุดยาวที่ผ่านมา
หนังทั้ง 2 เรื่อง ต้องบอกว่าไม่เสียดายเงินค่าตั๋วที่จ่ายไปเลยสักบาทเดียว เพราะบทหนังดี ดูง่าย ได้ข้อคิด และสนุกแบบเกินความคาดหมายไปมากเลยทีเดียวครับ


เรื่องแรก OMG 2 หนังอินเดียภาคต่อจาก OMG ภาคแรก (2012) ที่ออกฉายห่างกันถึง 11 ปีด้วยกัน

ใครที่ไม่ได้ดูภาคแรก ก็สามารถดูภาค 2 ได้เลย เพราะเนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้องกัน มีเพียงพระเอก (ร่วม) คุณพี่ Akshay Kumar ที่กลับมาเล่นอีกครั้ง


หนังพูดถึงเรื่องราวของ Kanti พ่อผู้มีความศรัทธาอันแรงกล้าต่อความเชื่อในเทพเจ้าที่เขานับถือ แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อ Vivek ลูกชายสุดที่รัก ที่เขาได้ใช้ความพยายามจนสามารถส่งเข้าเรียนโรงเรียนหรูที่ดีที่สุดในเมืองที่เขาอยู่ได้ เพื่อหวังให้ลูกชายได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด กลับต้องพบกับเรื่องราวสุดเลวร้ายเกินกว่าที่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งจะรับไหว นั่นคือคลิปที่เขาได้แอบเข้าไปช่วยตัวเองในห้องน้ำของโรงเรียนถูกผู้ไม่หวังดีแอบถ่าย และปล่อยลงในสื่อ Social ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ เด็กชายถูกบังคับให้ออกจากโรงเรียน และถูกสังคมในเมืองที่ครอบครัวเขาอยู่ประนามในการกระทำของเขา ที่ทำให้ทุกคนในโรงเรียนและเมืองที่ตัวเองอาศัยอยู่ต้องอับอาย แม้กระทั่งศาสดาและวัดที่ Kanti พ่อของเขานับถือและทำงานให้ ก็ยังไล่ครอบครัวของพวกเขาออกจากบ้านซึ่งอยู่ในเขตการดูแลของวัด


และแล้วในวันที่ Kanti สิ้นหวัง ไม่รู้จะทำอย่างไร เขาได้เดินเข้าไปสวดอ้อนวอนต่อหน้าศิวลึงก์ สัญลักษณ์แห่งเทพเจ้าที่เขานับถืออย่างสุดหัวใจ ก็ได้ปรากฎร่างของชายหนุ่มที่ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน ชายหนุ่มลึกลับได้แนะนำให้ Kanti กู้ศักดิ์ศรีลูกชายของเขาและครอบครัวคืน ด้วยการฟ้องร้องผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด เหตุการณ์ในชีวิตครอบครัวของ Kanti และลูกชาย จะเป็นอย่างไร ใครอยากรู้ต้องไปดูเองในโรงภาพยนต์นะครับ


ความสนุกของ OMG 2 คือ บทหลัก ๆ ในการหาเหตุผลมาแก้ต่างกันในศาลระหว่างฝ่ายครอบครัวโจทย์ก็คือ Kanti กับ ฝ่ายจำเลยต่าง ๆ ที่มีส่วนทำให้ครอบครัวและลูกชายของเขาเกิดความเสียหาย ซึ่งได้ทนายสาวที่เก่งที่สุดคนหนึ่งมาทำคดีให้ สิ่งที่ Kanti ใช้เพื่อการเอาชนะ คือ ปัญญาและความรักที่เขามีต่อลูกชายและครอบครัว หนังนำเสนอมุมมองเรื่องเพศศึกษาต่อวัยรุ่นและระบบการเรียนการสอนในปัจจุบันของโรงเรียนต่อเรื่องนี้ แนะนำครับ พ่อแม่คนไหนมีลูกวัยพรีทีนเข้าสู่วัยรุ่น และใจกว้างพอที่จะยอมรับเรื่องเหล่านี้ พาลูกของคุณไปดูครับ ผมเชื่อว่าหนังจะมีประโยชน์ต่อชีวิตของเขาและครอบครัวมาก ๆ 

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เรื่องที่ 2 หนังจีน สเต็ปกล้าท้าฝัน One And Only หนังของคุณน้อง Wang Yibo ผู้โด่งดัง 

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ จขกท อยากดูที่สุดในสัปดาห์ และเลือกดูเป็นเรื่องสุดท้าย แล้วก็ไม่ผิดหวัง มี 10 ให้ 10 มี 100 ให้ 100 มี 1,000 ให้ 1,000 ไปเลยครับ


เรื่องราวของ ติงเหล่ย นักเต้นข้างถนนจอมเก๋า ได้ชักชวนให้นักเต้นรุ่นใหม่ (เฉินซั่ว แสดงโดย หวังอี้ป๋อ) มาเข้าร่วมกลุ่มกับเขา อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องพบเจอกับความท้าทายไม่หยุดหย่อน แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นสะท้อนให้เห็นถึงชีวิตของคนหนุ่มสาวในสังคมปัจจุบัน ที่มีความฝัน อยากประสบความสำเร็จ พยายามต่อสู้ จนกว่าจะถึงฝั่งฝัน

One and Only เป็นหนังที่เกี่ยวกับการเต้นสมัยใหม่ที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งของฝั่งเอเชียที่ผมเคยดูมาเลยครับ 

Part เต้นไม่ต้องพูดถึง มันส์ส์ส์แบบไม่มีอะไรยั้ง การถ่ายทำ มุมกล้องดีมาก ดูแล้วเหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์ อยากตะโกนเชียร์ไปด้วยเลยถ้าทำได้ โดยเฉพาะ 20 นาทีสุดท้าย ยอมรับว่าผมไม่สามารถจะกระพริบตาได้เลย แบบถ้าโรงหนังอนุญาตให้ลุกขึ้นได้ ผมจะลุกขึ้นเชียร์อย่างแน่นอนเลยครับ

ส่วน Part บท ทำได้ดีครับ ตัวละครทุกตัวมีบทบาท บางตัวละครออกมาไม่มาก แต่ก็รู้สึกว่าพวกเขามีตัวตน มีความสำคัญ บทนำเราไปสู่ความรู้สึกของคนที่มีความตั้งใจ คนที่ใช้ความพยายาม ความรักและความกตัญญูที่มีต่อครอบครัว ครูบาอาจารย์ การมองไปที่จิตใจเหนือกว่าผลประโยชน์แห่งความสำเร็จ รวมทั้งการทำงานเป็นทีม และที่ชอบอีกอย่างหนึ่งเลย คือ One and Only เป็นหนังเต้นที่มีความคลีนสูงมาก ดูแล้วไม่รู้สึกถึงความรุนแรงหรือบทที่ไม่เหมาะสมเลย 


สรุปแล้ว สเต็ปกล้าท้าฝัน One And Only เป็นหนังอีกเรื่องที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถพาลูกหลานไปดูได้ หนังสนุก แถมให้ข้อคิดดี ๆ น้อง ๆ วัยรุ่นวัยเรียนยิ่งดูดีครับ หนังสามารถสอนเราถึงการใช้ชีวิตและความคิดได้เป็นอย่างดีเลย เป็นหนังที่เหมาะสำหรับทุก ๆ คนจริง ๆ


สุดท้ายผมอยากพูดถึง Wang Yibo เสียหน่อย คือ ผมยอมรับว่ารู้จักน้องเขามานานตั้งแต่ ปรมาจารย์ลัทธิมาร เพราะเขาเป็นชื่นชอบในหมู่วัยรุ่นอย่างมาก น้องที่ออฟฟิศผมก็ชอบเขามาก แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรสักเท่าไหร่ จนได้มาดูหนัง 2 เรื่องของเขาในปีนี้ คือ โค่นคมพยัคฆ์ กับ Born to Fly จากนั้นผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงโด่งดังเป็นที่ชื่นชอบไปทั่ว เรื่องการแสดงไม่ต้องพูดถึง ยอมรับว่าเก่งมาก เขารับบทอะไรก็เชื่อว่าเขาเป็นคนนั้นจริง ๆ แต่สิ่งที่เขาแตกต่างจากดาราจีน ฮ่องกง ไต้หวัน คนอื่น ๆ ในสมัยนี้ ตามความคิดของผมเลย คือ เสน่ห์ และ Charisma ของเขา ซึ่งผมว่าสิ่งนี้มันไม่ค่อยมีในดาราสมัยใหม่ ไม่เหมือนสมัย 4 จตุรเทพ หรือ ดาราในสมัยยุค 80's 90's หรือ 2000 ต้น ๆ แต่น้องป๋อมีสิ่งนี้ และตอนนี้ผมว่าผมโดน Wang Yibo ตกเป็นที่เรียบร้อยแล้วแน่นอน 555
ยิ้ม

ใครได้ไปดูมาแล้ว มาแสดงความคิดเห็นต่อหนังทั้ง 2 เรื่องนี้กันนะครับ ชอบ ไม่ชอบ อย่างไรแชร์กันได้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่