แนวร่วมมธ. พ้อเพื่อไทย ทิ้งฐานที่มั่น ไปชุบแป้งแดง ให้เผด็จการตั้งรบ. ย่ำยีหัวใจปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4129086
 
 
แนวร่วมมธ. พ้อ พท. ทิ้งฐานที่มั่นสุดท้าย ลืมไปแล้วหัวใจคือปชช. สรุปให้ ‘รบ.เผด็จการชุบแป้งแดง’
 
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ที่แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมายชุมนุม “ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย” โดยจะมีการเดินขบวนจากแยกปทุมวัน ไปยังแยกราชประสงค์ เพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์
 
บรรยากาศ เวลา 18.00 น. ประชาชน เยาวชน ตั้งขบวนก่อนเดินเท้าไปบนถนนพระรามที่ 1 มุ่งหน้าแยกปทุมวัน เพื่อไปทำกิจกรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ที่จุดหมายแรกคือ วัดปทุมวนาราม เพื่อแสดงความอาลัยผู้เสียชีวิต 6 ศพ จากเหตุการณ์สลายการชุมนุม 19 พฤษภาคม 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตภายในวัดดังกล่าว 6 ราย ซึ่งเป็นเขตอภัยทาน
 
เวลา 19.00 น. ผู้ชุมนุมร่วมร้องเพลงธุลีดิน โดยมีการเปิดเแฟลชจากโทรศัพท์มือถือ รวมถึงจุดเทียน และถือดอกกุหลาบ ส่องไฟฉายไปยังด้านบน หรือสถานีรถไฟฟ้าซึ่งเป็นจุดที่ทหารส่องกล้อง ยิงลงภายมาในวัดปทุมวนาราม กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 6 ราย ก่อนยืนสงบนิ่งไว้อาลัยให้กับดวงวิญญาณประชาชนที่เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง ในเหตุการณ์เมษายน-พฤษภาคม 2553
 
จากนั้นเวลา 19.05 น. ประชาชนนำดอกกุหลาบ และเทียนไปวางรำลึกใต้ต้นไม้ และหน้าป้ายวัดปทุมวนาราม ก่อนเคลื่อนขบวนต่อไปยังแยกราชประสงค์
เวลา 19.20 น. ที่แยกราชประสงค์ ประชาชนร่วมนั่งฟังการปราศรัย โดยใช้ถนนราชดำริ 3 เลน ในการทำกิจกรรม
 
เวลา 19.30 น. เยาวชนอดีตคนเสื้อแดง กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า ตอนนี้ชักไม่มั่นใจว่า พรรคเพื่อไทยหรือเพื่อใครกันแน่ ตอนหาเสียงเคาะประตูบ้านทุกซอย เพื่อขอเสียง วันนี้ประชาชนส่งเสียง ท่านไม่ฟัง บอกว่านี่คือการตัดสินใจของพรรคการเมือง ประชาชนไปหาถึงหน้าพรรค ท่านก็ไม่รับหนังสือ
 
“วันที่เราไปที่พรรคเพื่อไทย ไปยืนหนังสือ พอเลือกตั้งเสร็จได้เสียงเป็นที่ต้องการ เราไปยื่นหนังสือ เขายังปิดประตูใส่เรา มีแต่รั้วเหล็กกั้น ลืมไปแล้วว่าหัวใจคือประชาชน คุณได้ก็ทิ้งฐานที่มั่นสุดท้ายแล้ว เลือกที่จะทิ้งมันไปเพื่อหยิบอำนาจขึ้นมา” เยาวชนอดีตคนเสื้อแดง กล่าว
  
จากนั้น เวลา 19.40 น. นายเกียรติชัย ตั้งภรณ์พรรณ สมาชิกกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า กลัวว่าพรรคเพื่อไทยจะลืมว่าหาเสียงว่าอะไร จึงนำมาอ่าน
 
“หน้าแรก ไม่ทรยศประชาชน บอกแค่นี้ก็รู้แล้วว่า ตอแ** บอกว่าส่งพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จนสุดมือ จับมือแน่นปึกอะไร ไปจับกับเผด็จการ
วันนั้นคุณอุ๊งอิ๊งบอกว่า ถ้าดิฉันไม่สู้ ดิฉันจะมายืนอยู่ตรงนี้หรอคะ ต้องถามว่า วันนี้คุณอุ๊งอิ๊งไปรวมกับเผด็จการทำไมคะ” นายเกียรติชัยกล่าว
 
นายเกียรติชัย กล่าวต่อว่า ใครหน้าไหนที่ล้มรัฐธรรมนูญประชาชน เป็นอาชญากร วันนี้คุณเป็นเพื่อนกับอาชญากรหรือ บอกว่าไม่จับมือ 2 ป. 3 ป. สรุปคือหาเสียงใช่หรือไม่
 
“เพื่อไทย ใจไม่แข็งพอ ทำเพื่อคนแดนไกล สุดท้ายทำแบบนี้ไง เขาถึงต้องมาด่าเพื่อไทย สมัยก่อนตอนหาเสียง คนเขาก็ล้อกันว่า ‘แลนด์สไลด์เพื่อคนแดนไกล’ ตอนนั้นเขาก็โกรธมาก ด่าเพื่อไทยทำไม ตอนนี้คำตอบชัด สรุปแลนด์สไลด์เพื่อคนแดนไกล เพื่อใคร เพื่อประชาชน หรือเพื่อเจ้านาย” นายเกียรติชัยกล่าว
 
นายเกียรติชัยชี้ว่า เราไม่เคยแก้ปัญหาที่ต้นตอ บอกให้ลืมๆ กันไป
 
“กองทัพยิงประชาชน บอกให้แก้ไข ไม่แก้แค้น แล้วจะก้าวไปสู่ประชาธิปไตยได้อย่างไร ถ้ามัวกราบ ผมพูดได้เลยว่า รัฐบาลที่จะมาในอนาคต คือรัฐบาลชุดเดิม แต่ชุบแป้งแดง ไม่รู้แดงแบบไหน แดงแบบเพื่อไทย หรือแดงแบบเหยียบย่ำศพประชาชนที่ตายแล้วตายอีก สรุปแล้ว รัฐบาลเพื่อไทย ก็แค่เผด็จการชุบแป้งสีแดง” นายเกียรติชัยกล่าว
 
นายเกียรติชัย กล่าวอีกว่า คุณไปรวม 188 เสียง + 250 เสียง เขามีมากกว่า สุดท้ายทำเพื่ออะไร เพื่อให้คนแดนไกลได้กลับบ้าน ตนไม่มีปัญหากับการกลับบ้าน แต่ต้องไม่ใช่วิธีดีลมาแล้วข้ามศพ ข้ามหัวประชาชน
 
“พายเรือยังไง พายเรือแบบทิ้งศพประชาชนไว้ข้างหลังใช่หรือไม่ อนาคตอาจจะมีงูเห่ามากมาย แต่สิ่งที่เขาจะไม่มีวันเอากลับมาได้ คือความชอบธรรม เพราะประชาชนตาสว่างกันหมดแล้ว ทางสุดท้ายของเราคือลงถนน ไม่อยากเลือกทางนี้ แต่ชนะเลือกตั้ง ยังโขมยเสียงไปอีก
 
“ผมเชื่อว่าสาเหตุหนึ่งที่เพื่อไทย ไม่อยู่ข้างเรา เพราะพลังเรายังไม่แข็งแกร่งพอ ออกมาช่วยกันคนละไม้ละมือ ให้เขารู้ว่า ไม่ทนอีกแล้ว” นายเกียรติชัยกล่าว

---

พิชาย ชี้ 4 สัญญาณชัด เพื่อไทยตั้งรบ.ไม่ราบรื่น เจอต่อรองหนัก-ส.ว.ตั้งแง่-มวลชนกดดัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4129029

พิชาย ชี้ 4 สัญญาณชัด เพื่อไทยตั้งรบ.ไม่ราบรื่น เจอต่อรองหนัก-ส.ว.ตั้งแง่-มวลชนกดดัน
 
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมือง และยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒน บริหารศาสตร์  (NIDA) ได้โพสต์ข้อเขียนแสดงความคิดเห็นถึงสถานการณ์การจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย โดยมีเนื้อหาดังนี้

“สถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยดูไม่ค่อยราบรื่นนักในการเลือกนายกรัฐมนตรี และการจัดตั้งรัฐบาล
 
1.มีการต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีอย่างเข้มข้นเพื่อแลกกับการโหวตสนับสนุนของพรรคขั้วอำนาจเดิม อันเป็นธรรมชาติของพรรคเหล่านั้น
การที่พรรคเพื่อไทยขอโหวตก่อนแล้วค่อยมาเจรจาตำแหน่งทีหลัง ดังความต้องการฝ่ายเดียวกันของพรรคเพื่อไทย ดูเหมือนจะถูกปฏิเสธเสียแล้ว

2.แม้ว่ามี ส.ว.บางคนบอกว่าจะโหวตให้นายเศรษฐา แต่ก็มี ส.ว. อีกกลุ่มหนึ่งที่เป็นตัวแทนกลุ่มอำนาจเดิมแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ต้องการโหวตให้นายเศรษฐา และมีข่าวบางกระแสออกมาว่า ส.ว.สายประยุทธ์จำนวนไม่น้อยไม่ค่อยปลื้มกับนายเศรษฐาเท่าไรนัก 

3.นายเศรษฐามีความเสี่ยงมากขึ้นในการที่จะชวดตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และมีความเป็นไปได้ที่ น.ส.แพทองธารจะถูกเสนอชื่อแทน ตามความต้องการของกลุ่มอำนาจบางกลุ่ม
 
4.มีมวลชนออกมาต่อต้านพรรคเพื่อไทยและพรรคภูมิใจอย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ว่ามวลชนขยายออกไปในวงกว้าง และมีการปฏิบัติการต่อต้านอย่างเข้มข้นทั้งด้านรูปแบบและเนื้อหา หากมีความชัดเจนเกี่ยวกับตัวนายกรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาล
 
https://www.facebook.com/PhichainaBhuket/posts/pfbid0oJgNxb1JmjhL6UYVxbSWuo7Px8cQ9J4USk3HHXGyDqrT7ru7JsZwXd3RWJafjcUSl
 

---

 
ปัจจัยการเมืองกดดัน ‘บาทอ่อนค่า’ ตลาดลุ้นเพื่อไทยตั้งรัฐบาล หนุนฟันด์โฟลว์ต่างชาติเข้าไทย
https://www.matichon.co.th/economy/news_4129249

ปัจจัยการเมืองกดดัน ‘บาทอ่อนค่า’ ตลาดลุ้นเพื่อไทยตั้งรัฐบาล หนุนฟันด์โฟลว์ต่างชาติเข้าไทย
 
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 35.25 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 35.07 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 34.75-35.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.15-35.35 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า รวมถึงคืนวันจันทร์ก่อน (วันหยุดของตลาดการเงินไทย) เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แกว่งตัวในกรอบ 35.03-35.34 บาทต่อดอลลาร์ กดดันโดยการปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ ตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงตลาดผันผวนและการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐ ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เริ่มกลับมามองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อได้ นอกจากนี้ โฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวลงก็มีส่วนกดดันให้เงินบาทอ่อนค่าลงเช่นกัน
 
สัปดาห์ที่ผ่านมาเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นต่อเนื่องตามความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยและการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์สหรัฐหลังตลาดเพิ่มโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ย ในสัปดาห์นี้ควรรอลุ้นรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน รวมถึงจับตารายงานการประชุมล่าสุดของเฟด และติดตามความชัดเจนของการจัดตั้งรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคเพื่อไทย
 
“สำหรับเศรษฐกิจฝั่งไทย การจัดตั้งรัฐบาลผสมอาจเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจเริ่มชะลอลงบ้าง อย่างไรก็ดี ฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติจะยังมีความผันผวนอยู่ จนกว่าการจัดตั้งรัฐบาลใหม่จะเสร็จสิ้น” นายพูนกล่าว

นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท แม้ว่าปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงอยู่ แต่โมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มแผ่วลง โดยหากการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้น เงินบาทก็สามารถกลับมาแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องได้ตามฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนจากฝั่งตลาดการเงินจีนที่อาจกดดันให้เงินหยวนอ่อนค่าลง กระทบค่าเงินบาทได้ ในกรณีที่ตลาดปิดรับความเสี่ยง อนึ่ง ประเมินแนวต้านแรกของเงินบาทแถวโซน 35.20-35.30 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวรับแรกจะอยู่ในช่วง 34.90-35.00 บาทต่อดอลลาร์
 
ในส่วนเงินดอลลาร์นั้นอาจแข็งค่าขึ้นต่อได้หากตลาดยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หรือตลาดเพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ จากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีกว่าคาด หรือรายงานการประชุมเฟดที่ย้ำจุดยืนเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย
 
“ช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและบรรยากาศในตลาดการเงินโลก ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน” นายพูนกล่าว