จขกท.อายุ 30+ มีแฟนที่คบกันมาสักพักใหญ่แล้ว คุยๆกันว่าจะไม่มีการสู่ขอและการแต่งงานโดยมีเหตุผลด้วยกันหลายประการ เช่น
จขกท.ไม่ได้มีญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือพอที่จะมาเป็นผู้ใหญ่ให้ได้ ฝั่งพ่อมีปัญหากันเรื่องแย่งที่ดินมรดก ฝั่งแม่ก็ไม่ได้ผูกพันเป็นพิเศษ
พ่อแท้ๆของจขกท.เสียไปแล้วตั้งแต่เด็กๆ
ส่วนแม่อารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้ ล่าสุดทะเลาะกับพี่สาวจขกท.เพราะเรื่องสินสอด พี่สาวจะให้แฟนที่คบมาเป็นสิบปีพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ แม่จะเรียกสินสอดห้าแสนบาท พี่สาวบ่นกับแม่ว่าเยอะไป แม่เลยด่าพี่สาวและทะเลาะกันรุนแรงมาก
แต่ก่อนหน้านี้แม่เคยพูดกับพี่สาวว่าอยากให้แฟนพี่สาวพาผู้ใหญ่มาสู่ขอพอเป็นพิธีไม่ได้จะเรียกอะไร แต่พอถึงเวลาพี่สาวจะให้แฟนมาสู่ขอจริงๆ แม่กลับคำพูดตัวเอง
จขกท.เลยคุยกับแฟนว่า เพื่อตัดปัญหาทุกอย่างจะไม่มีการสู่ขอและพิธีแต่งงาน แต่อยากให้แม่มาเป็นพยาน คุยครั้งแรกแม่ก็รับปากว่าจะมาเป็นพยาน พอวันรุ่งขึ้นก็กลับคำ มีการทวงบุญคุณ และใชเคำหยาบคายด่าไปถึงแฟน และพ่อแม่แฟนจขกท.
บ้านจขกท.ไม่ได้มีฐานะ ที่บ้านเป็นเกตรกร ไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคมที่ต้องจัดงานใหญ่โต
จขกท.รับราชการ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในบ้าน และล่าสุดได้กู้เงินมาปรับปรุงบ้านให้แม่ด้วย ถ้าต้องเก็บเงินกับแฟนหรือช่วยกันกู้เงินกับเแฟนเพื่อเป็นค่าสินสอดและจัดงานคงจะหนัก
แฟนเป็นคนดีมาก พ่อและแม่แฟนใจดีมาก เรื่องจะจดทะเบียนแฟนยังไม่ได้คุยกับพ่อแม่แฟน เป็นการคุยกันระหว่างจขกท.กับแฟน
จขกท.จบกฎหมาย ทำงานด้านกฎหมาย การคิดจะจดทะเบียนได้ผ่านการคิดวิเคราพห์มาอย่างรอบคอบแล้ว
จขกท.มองว่าถ้าชีวิตมีความสุขดีแล้ว ทำไมไม่ใช่ชีวิตง่ายๆ จะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ จัดงานแต่งเพื่ออะไร ไม่เห็นความสำคัญและประโยชน์ของเรื่องนี้เลย และคิดว่าอาจจะจดทะเบียนสมรสโดยการให้คนอื่นไปเป็นพยานแทน เพราะจขกท.ไม่ได้ต้องขอความยินยอมจากแม่เพื่อจดทะเบียนสมรส แต่เหมือนแม่จะโฟกัสแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เลยอยากทราบว่าคนอื่นๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ?
ความสำคัญของการสู่ขอและการแต่งงานคืออะไร?
จขกท.ไม่ได้มีญาติผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือพอที่จะมาเป็นผู้ใหญ่ให้ได้ ฝั่งพ่อมีปัญหากันเรื่องแย่งที่ดินมรดก ฝั่งแม่ก็ไม่ได้ผูกพันเป็นพิเศษ
พ่อแท้ๆของจขกท.เสียไปแล้วตั้งแต่เด็กๆ
ส่วนแม่อารมณ์เอาแน่เอานอนไม่ได้ ล่าสุดทะเลาะกับพี่สาวจขกท.เพราะเรื่องสินสอด พี่สาวจะให้แฟนที่คบมาเป็นสิบปีพาผู้ใหญ่มาสู่ขอ แม่จะเรียกสินสอดห้าแสนบาท พี่สาวบ่นกับแม่ว่าเยอะไป แม่เลยด่าพี่สาวและทะเลาะกันรุนแรงมาก
แต่ก่อนหน้านี้แม่เคยพูดกับพี่สาวว่าอยากให้แฟนพี่สาวพาผู้ใหญ่มาสู่ขอพอเป็นพิธีไม่ได้จะเรียกอะไร แต่พอถึงเวลาพี่สาวจะให้แฟนมาสู่ขอจริงๆ แม่กลับคำพูดตัวเอง
จขกท.เลยคุยกับแฟนว่า เพื่อตัดปัญหาทุกอย่างจะไม่มีการสู่ขอและพิธีแต่งงาน แต่อยากให้แม่มาเป็นพยาน คุยครั้งแรกแม่ก็รับปากว่าจะมาเป็นพยาน พอวันรุ่งขึ้นก็กลับคำ มีการทวงบุญคุณ และใชเคำหยาบคายด่าไปถึงแฟน และพ่อแม่แฟนจขกท.
บ้านจขกท.ไม่ได้มีฐานะ ที่บ้านเป็นเกตรกร ไม่ได้มีหน้ามีตาในสังคมที่ต้องจัดงานใหญ่โต
จขกท.รับราชการ รับผิดชอบค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ในบ้าน และล่าสุดได้กู้เงินมาปรับปรุงบ้านให้แม่ด้วย ถ้าต้องเก็บเงินกับแฟนหรือช่วยกันกู้เงินกับเแฟนเพื่อเป็นค่าสินสอดและจัดงานคงจะหนัก
แฟนเป็นคนดีมาก พ่อและแม่แฟนใจดีมาก เรื่องจะจดทะเบียนแฟนยังไม่ได้คุยกับพ่อแม่แฟน เป็นการคุยกันระหว่างจขกท.กับแฟน
จขกท.จบกฎหมาย ทำงานด้านกฎหมาย การคิดจะจดทะเบียนได้ผ่านการคิดวิเคราพห์มาอย่างรอบคอบแล้ว
จขกท.มองว่าถ้าชีวิตมีความสุขดีแล้ว ทำไมไม่ใช่ชีวิตง่ายๆ จะให้ผู้ใหญ่มาสู่ขอ จัดงานแต่งเพื่ออะไร ไม่เห็นความสำคัญและประโยชน์ของเรื่องนี้เลย และคิดว่าอาจจะจดทะเบียนสมรสโดยการให้คนอื่นไปเป็นพยานแทน เพราะจขกท.ไม่ได้ต้องขอความยินยอมจากแม่เพื่อจดทะเบียนสมรส แต่เหมือนแม่จะโฟกัสแค่เรื่องนี้เรื่องเดียว เลยอยากทราบว่าคนอื่นๆมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างคะ?