เรื่องมันเริ่มขึ้นตั้งแต่ปี 56 ตอนเดือนธันวาคม เราเป็นคนที่ทำบุญทุกเช้า ใส่บาตร เวลากรวดน้ำก็จะกวดให้ตัวเองครอบครัว หรือญาติ เท่านั้น
วันที่ 5 มกราคมตอน 10:00 น เรากลับมา มานอนทุกวันเวลานี้ ปกติฉันไม่เคยรับโทรศัพท์ ไม่ว่าญาติหรือครอบครัวคนไหน เราฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนหน้าบ้านพ่อกับแม่เรา ใส่ชุดสีดำ ยืนมองเข้าไปในบ้าน เราตะโกนถามก็ไม่ตอบอะไร มองเฉยๆมองอยู่แบบนั้น ถึงเราตกใจตื่นเพราะโทรศัพท์มือถือมันสั่น สายนั้นที่โทรมาคือแม่ เสียงในสายแม่ตะโกนว่ามาแล้วพ่อเป็นอะไรไม่รู้ เราขี่รถไปบ้านเอาพ่อส่งโรงพยาบาล และพ่อก็จากไป
เราใช้ชีวิตตนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วมันก็เริ่มอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมปี 65
วันนั้นเราเข้านอนเวลาเดิมคือ 10:00 น เราฝันว่ามีผู้ชายใส่ชุดดำมายืนอยู่ปลายเท้าเราค่อยๆโน้มตัวลงมาเอาหน้ามาชนหน้าเรา มองแต่หน้า มองเฉยๆ แล้วตกใจตื่นร้องกรี๊ดเลยล่ะ แฟนเรากับลูกชายถามว่าแม่เป็นอะไรเราก็เล่าให้ฟัง แล้วเราก็เดินไปเล่าให้พี่สาวเราฟัง ที่อยู่อีกบ้านนึง พี่สาวเรามันกลับบอกว่า บ้านมีศาลพระภูมิจะกลัวอะไร เราตอบกลับไปว่าบ้านเราไม่มีศาลพระภูมิ
ในวันนั้นเราก็ไปงานศพญาติผู้ใหญ่เราคนนึง ซึ่งตอนกลับประมาณ 20:00 น มาแวะซื้อข้าวมันไก่ ตรงหน้าบิ๊กซี ซึ่งเราขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาคนเดียว เราบอกเจ้าของร้านข้าวมันไก่ว่าซื้อข้าวมันไก่กล่องนึง คนขายข้าวมันไก่บอกว่าพี่มา 2 คนทำไมซื้อข้าวมันไก่กล่องเดียวเราก็นึกว่าเขาทักคนข้างๆเราก็ไม่ได้สนใจอะไร เราขี่รถกลับบ้านปกติ
เป็นวันที่ 16 ธันวาคมปี 65 มันเป็นเวลาตอนเย็น ปกติเราจะไม่เคยเดินไปไหนวันนั้นเราเดินไปบ้านพี่สาวถึงอยู่ตรงข้าม ก่อนกลับมาบอกกับพี่สาวเราว่าไปแล้วนะไม่กลับมาแล้วซึ่งคำพวกนี้เราไม่เคยพูด ส่วนมากจะกลับก็เดินกลับเลยไม่บอกใคร เราเดินข้ามมาที่บ้านเราเห็นเชือกมันผูกไหล่ลงมาตรงถัง น้ำแข็ง เราเลยเป็นถังขึ้นไป เพื่อตวัดเชือก
เราตกลงมาจากถังหน้าฟาดพื้น ฟันหัก 4 ซีก กรามหักโหนกแก้มแตกละเอียด คางหัก แขนหัก และนิ้ว หัก เราถูกส่งโรงพยาบาลรักษาตัวอยู่ หลายวัน พอค่อยยังชั่วแล้วก็กลับไปทำงานปกติซึ่งต้องไปวัดหนึ่งซึ่งเป็นวัดดัง ของอำเภอท่าเรือ เดินไปไหว้พระข้างหลัง อยู่ดีๆก็มียายคนนึงเดินมา ข้างหลังเราพูดกับเราว่าเวลาใส่บาตรให้อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าที่เจ้าทางบ้างนะ เชื่อไหม ว่าขนมันลุก ก็เอื้อมมือไปลูบแขนไม่ได้หันกลับไปมองยาย พอหันหลังไปมองยายคนนี้ก็ไม่อยู่แล้ว เราเอามาเล่า เพื่อบอกให้รู้ว่าเวลาใส่บาตร เราต้องอุทิศส่วนกุศล ให้คนอื่นบ้าง ไม่ใช่แต่ตัวเอง ส่วนเรา ตอนนี้ก็ยังต้องรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป ทั้งๆที่ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ✌️
เคยเชื่อเรื่องเจ้าที่ เจ้าทางใหม
วันที่ 5 มกราคมตอน 10:00 น เรากลับมา มานอนทุกวันเวลานี้ ปกติฉันไม่เคยรับโทรศัพท์ ไม่ว่าญาติหรือครอบครัวคนไหน เราฝันเห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนหน้าบ้านพ่อกับแม่เรา ใส่ชุดสีดำ ยืนมองเข้าไปในบ้าน เราตะโกนถามก็ไม่ตอบอะไร มองเฉยๆมองอยู่แบบนั้น ถึงเราตกใจตื่นเพราะโทรศัพท์มือถือมันสั่น สายนั้นที่โทรมาคือแม่ เสียงในสายแม่ตะโกนว่ามาแล้วพ่อเป็นอะไรไม่รู้ เราขี่รถไปบ้านเอาพ่อส่งโรงพยาบาล และพ่อก็จากไป
เราใช้ชีวิตตนปกติไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วมันก็เริ่มอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 15 ธันวาคมปี 65
วันนั้นเราเข้านอนเวลาเดิมคือ 10:00 น เราฝันว่ามีผู้ชายใส่ชุดดำมายืนอยู่ปลายเท้าเราค่อยๆโน้มตัวลงมาเอาหน้ามาชนหน้าเรา มองแต่หน้า มองเฉยๆ แล้วตกใจตื่นร้องกรี๊ดเลยล่ะ แฟนเรากับลูกชายถามว่าแม่เป็นอะไรเราก็เล่าให้ฟัง แล้วเราก็เดินไปเล่าให้พี่สาวเราฟัง ที่อยู่อีกบ้านนึง พี่สาวเรามันกลับบอกว่า บ้านมีศาลพระภูมิจะกลัวอะไร เราตอบกลับไปว่าบ้านเราไม่มีศาลพระภูมิ
ในวันนั้นเราก็ไปงานศพญาติผู้ใหญ่เราคนนึง ซึ่งตอนกลับประมาณ 20:00 น มาแวะซื้อข้าวมันไก่ ตรงหน้าบิ๊กซี ซึ่งเราขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาคนเดียว เราบอกเจ้าของร้านข้าวมันไก่ว่าซื้อข้าวมันไก่กล่องนึง คนขายข้าวมันไก่บอกว่าพี่มา 2 คนทำไมซื้อข้าวมันไก่กล่องเดียวเราก็นึกว่าเขาทักคนข้างๆเราก็ไม่ได้สนใจอะไร เราขี่รถกลับบ้านปกติ
เป็นวันที่ 16 ธันวาคมปี 65 มันเป็นเวลาตอนเย็น ปกติเราจะไม่เคยเดินไปไหนวันนั้นเราเดินไปบ้านพี่สาวถึงอยู่ตรงข้าม ก่อนกลับมาบอกกับพี่สาวเราว่าไปแล้วนะไม่กลับมาแล้วซึ่งคำพวกนี้เราไม่เคยพูด ส่วนมากจะกลับก็เดินกลับเลยไม่บอกใคร เราเดินข้ามมาที่บ้านเราเห็นเชือกมันผูกไหล่ลงมาตรงถัง น้ำแข็ง เราเลยเป็นถังขึ้นไป เพื่อตวัดเชือก
เราตกลงมาจากถังหน้าฟาดพื้น ฟันหัก 4 ซีก กรามหักโหนกแก้มแตกละเอียด คางหัก แขนหัก และนิ้ว หัก เราถูกส่งโรงพยาบาลรักษาตัวอยู่ หลายวัน พอค่อยยังชั่วแล้วก็กลับไปทำงานปกติซึ่งต้องไปวัดหนึ่งซึ่งเป็นวัดดัง ของอำเภอท่าเรือ เดินไปไหว้พระข้างหลัง อยู่ดีๆก็มียายคนนึงเดินมา ข้างหลังเราพูดกับเราว่าเวลาใส่บาตรให้อุทิศส่วนกุศลให้เจ้าที่เจ้าทางบ้างนะ เชื่อไหม ว่าขนมันลุก ก็เอื้อมมือไปลูบแขนไม่ได้หันกลับไปมองยาย พอหันหลังไปมองยายคนนี้ก็ไม่อยู่แล้ว เราเอามาเล่า เพื่อบอกให้รู้ว่าเวลาใส่บาตร เราต้องอุทิศส่วนกุศล ให้คนอื่นบ้าง ไม่ใช่แต่ตัวเอง ส่วนเรา ตอนนี้ก็ยังต้องรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป ทั้งๆที่ผ่านมาครึ่งปีแล้ว แต่ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ✌️