สิ่งที่คนทั่วไป ไม่เคยรู้เกี่ยวกับ kex เลยนั่นก็คือ ชะตากรรมรายได้ของ kex ผูกกับ platform shopping online มีแต่คนขายที่รู้ และเราก็มองเห็นแนวโน้มที่ย่ำแย่ตั้งแต่ก่อน kex เข้าตลาด เราเข้าไปส่งของที่ kerry ทุกวัน เริ่มเห็นจำนวนคิวที่สั้นลง จนถึงวันที่ร้านอย่างโล่ง เกินครึ่งของสาขาที่เคยไปส่ง ปิดไปหมดแล้ว

จำนวนพัสดุส่วนมากของ kerry มาจากพัสดุ shopping online ซึ่งมีค่าส่งถูกกว่าหน้าร้าน ส่วนหลังบ้านเขาดีลกันเท่าไร ส่วนแบ่งยังไง แน่นอนว่า kex ได้ส่วนแบ่งน้อย จนอาจถึงขั้น ยิ่งส่งมาก ยิ่งขาดทุน ตามงบปีก่อนๆ ที่สะท้อน

ในขณะที่นักลงทุนรุ่นก่อนๆ คิดได้แค่ว่า มีโควิด คนสั่งออนไลน์เยอะ kex น่าจะเติบโต แต่เราก็คิดว่ามันผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ตั้งแต่ J&T flash best และ spx เข้ามากินส่วนแบ่ง ทาง shopee เริ่มจัดสรรขนส่งไปยังเจ้าอื่นๆ แต่ก่อนเราได้แต่ kerry และก็ค่อยๆ โดนแบ่งไปเจ้าอื่น จนสุดท้ายวันนี้ ร้านเราถูกถอด kerry ออกไปแล้ว โดยร้านค้า ไม่มีสิทธิ์เลือกขนส่ง shopee เป็นผู้จัดสรร (บังคับ) ให้ร้านต้องไปส่งเจ้าไหน

เคอรี่เคยโตมาก่อน จะปรับให้ slim เหมือนเจ้าอื่นก็ยาก ด้วยระบบภายในที่ซับซ้อน  เช่น การมีเครื่องคอมถึง 2 เครื่อง ไว้บริการลูกค้าที่สาขา มีบริการหลากหลาย เช่น SCL , fast lane, kerry club, vip member แต่บอกเลยว่าลูกค้า 99.99% ไม่เคยใช้ หรือไม่รู้จัก คอมเหล่านั้นใช้เพียงกดบัตรคิว นี่ก็เป็นแค่ตัวอย่างที่เคอรี่ดูท่าจะเหนื่อยในเรื่องต้นทุน

ภาพประกอบข่าว จาก แอพส้มชื่อดัง เปลี่ยนขนส่งให้ร้านก่อน แล้วค่อยมาแจ้งทีหลัง ไม่ถงไม่ถามความสะดวกสักคำ


เพิ่มเติม :
ถ้าเราตามอ่าน บทวิเคราะห์ต่างๆ ของหุ้นตัวนี้ นวค. ทุกราย มักอ้างอิง "ธุรกิจe-commerce" ที่เติบโต หรือชะลอตัว นี่คือพื้นฐานการวิเคราะห์หุ้นหรือธุรกิจ ที่พาพวกเราหลงทางกันไปไกล เพราะในแง่ความจริงการทำธุรกิจ มันมีอะไรหลายอย่างที่พวกเราไม่รู้ แนวโน้มธุรกิจดี พื้นฐานดี แต่ทำไม ทำไม
ธุรกิจ e-com ไม่มีชะลอตัวครับ มันโตทุกปี โตมาก โตน้อย ยอดส่งพัสดุมันก็ควรเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ไหง ขาดทุนเพิ่มทุกปี ต้องมีอะไรผิดพลาดตรงไหน..