สิทธิรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของผู้ประกันตน มาตรา 33

พบผู้ป่วยหญิงอายุ 56 ปี เป็นพนักงานบริษัทเอกชนและเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 นอนอยู่บนเตียงโรงพยาบาลอย่างดี ปรับระดับได้ รอบข้างเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์การแพทย์เหมือนไอซียู มีถังออกซิเจนพร้อมสายต่อ เครื่องดูดเสมหะ อุปกรณ์ทำแผล อุปกรณ์สำหรับเปลี่ยนสายต่าง ๆ และให้อาหารเหลวทางสายยาง รวมทั้งยาอีกหลายชนิด ตัวผู้ป่วยเอง นอนไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถตอบสนองหรือสื่อสารกับผู้อื่นได้ ได้รับการเจาะคอ ใส่สายยางเข้ากระเพาะอาหาร ใส่สายสวนปัสสาวะ ตามลำตัวไม่มีแผลกดทับ ผู้ป่วยไม่มีไข้ และไม่พบการติดเชื้อที่บริเวณใด ลูกสาวคนโตของผู้ป่วยมีสีหน้ากังวล ดูค่อนข้างเหนื่อย เพราะแพทย์แจ้งให้นำผู้ป่วยกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ทางโรงพยาบาลและแพทย์สิ้นสุดการรักษาแล้ว

สิทธิรักษาพยาบาลในโรงพยาบาลของผู้ประกันตน มาตรา 33

ระเบียบสำนักงานประกันสังคมว่าด้วยรายละเอียดและเงื่อนไขเกี่ยวกับการรับบริการทางการแพทย์ของผู้ประกันตนหรือคู่สมรสของผู้ประกันตน พ.ศ. ๒๕๓๔
ข้อ ๖  ผู้ประกันตนจะได้รับบริการทางการแพทย์และการรักษาพยาบาลจนสิ้นสุดการรักษาจากสถานพยาบาล..ฯ

ข้อ ๗  บริการทางการแพทย์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับมีดังนี้
          ๗.๑ ได้รับการตรวจวินิจฉัยโรคและการบำบัดทางการแพทย์ จนสิ้นสุดการรักษา
          ๗.๒ ได้รับบริการการกินอยู่และการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล สำหรับคนไข้ใน
          ๗.๓ ได้รับยาและเวชภัณฑ์ที่มีมาตรฐานไม่ต่ำกว่ามาตรฐานบัญชียาหลักแห่งชาติ
          ๗.๔ ได้รับการจัดส่งต่อเพื่อการรักษาระหว่างสถานพยาบาล
          ๗.๕ ได้รับการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยมีการให้สุขศึกษาและภูมิคุ้มกันโรคตามโครงการแห่งชาติ

ถามว่า 1) การสิ้นสุดการรักษา ที่ สปส. ระบุไว้มีคำนิยาม ความหมาย แค่ไหนเพียงไร? 
2) กรณีผู้ประกันตนประสบอุบัติเหตุจราจร แพทย์ทำการเจาะคอ ใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้อาหารและดูดเสมหะทางสายยาง แพทย์แจ้งญาติให้นำผู้ประกันตนไปรักษาตัวที่บ้าน อ้างว่าสิ้นสุดการรักษาแล้ว แพทย์ทำโดยชอบหรือไม่อย่างไร?
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่