ตามที่ชื่อกระทู้เลยครับ แต่คงต้องเล่าที่ไปที่มาก่อน ตั้งแต่เด็กคนในครอบครัวชอบพูดกันว่าผมเป็นที่เดื้อมาก เสียงดัง อยู่ไม่นิ่ง เล่นไปเรื่อยเลย แน่นอนว่าผมก็โดนป้าตีอยู่ค่อนข้างบ่อย ตอนอยู่โรงเรียนอนุบาลทั้งเพื่อนกับครูถามผมบ่อยมากว่า "เวลายืนต่อแถว ทำไมยืนนิ่งๆ ไม่ได้" ผมก็ทำแบบนั้นโดยไม่รู้ตัว ทุกคนก็คิดว่าผมไม่เป็นอะไรหรอก ก็แค่เด็กดื้อไม่ได้เลยไม่มีใครสนใจอะไรเกี่ยวกับผม (ผมเข้าข่ายสมาธิสั้นกลุ่มอยู่นิ่งไม่ได้)
ต่อมาพอเริ่มโตขึ้นมาประมาณประถม อาการข้างต้นดีขึ้นนิดหน่อย ไม่ส่งเสียงดังแล้ว อยู่นิ่งได้นิดหน่อย แต่บางทีก็วอกแวก บางทีก็เหมอลอย ครูกับเพื่อนบอกมาแบบนั้น จากที่อ่านมาข้างต้นเหมือนอาการดีนิดหน่อย พอโตขึ้นมาเข้าเรียนกศน. ตอนอายุ 12 - 16 (ม.ต้น - ม.ปลาย) เข้ามหาลัย เรียนสาขาภาษาอังกฤษตอน 17 จนก่อนจบมหาลัย หลายๆ คนรอบก็บอกว่าผมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง
ในช่วงฝึกงาน อาการสมาธิสั้นเหมือนมันจะแย่ลง ผมเข้าฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ปัญหาจริงๆ มันเริ่มขึ้นตรงนี้แหละ ผมได้เป็นพนักงานต้อนรับ (Receptionist) แผนกนี้เป็นจุดศูนย์กลางที่ต้องประสานงานกับทุกๆ แผนกในโรงแรม อาการที่ไม่เคยสังเกตก็เริ่มขึ้นระหว่างฝึกงาน การสื่อสารมีปัญหา พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง วอกแวกง่าย พอเห็นหรือได้ยินอะไรก็เสียสมาธิง่าย ทำให้ลืมขั้นตอนการทำงานบ่อยบางอย่าง เช่น มีขั้นตอน 1 2 3 4 ถ้ามีอะไรมากกวน ผมอาจจะลืมเป็น 1 3 4 หรือ 1 2 4 อะไรประมาณนี้ หลังจากนั้น 2 เดือนก็ได้แวนแผนกไปฝึกที่ห้องอาหาร (Food & Baverage) แน่นอนว่าอาการเดิมยังคงอยู่จนจบการฝึกงาน แต่ปัญหาหลักระหว่างที่ฝึกอยู่ห้องอาหารคือเรื่องบุคคลิก ผมพยายามอยู่นิ่งๆ แล้ว แต่บางทีขยับตัวไม่รู้ตัว เช่น การยืนกระดิกขา วอกแวก มองซ้ายมองขวา พี่ที่ห้องอาหารเขาสังเกตว่าผมเป็นแบบนั้น
หลังฝึกงานเสร็จได้คะแนนแบบกลางๆ แต่ที่ HR ที่โรงแรมเดิมเขายังเชิญผมอยู่ต่อ (พนักงานไม่พอ) เพราะภาพรวมเขาเห็นว่าผมมีความตั่งใจ ตั้งใจเรียนรู้งาน ขยัน ไม่เคยเข้างานสาย มารยาทดี แก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แม้จะทำงานผิดพลาดบ้าง แต่อยู่ในจุดที่ยังไม่ร้ายแรงแก้ไขได้ สุดท้ายผมก็เลือกไม่อยู่ต่อ
เข้าช่วงที่เป็นปัญหาหลักจริงๆ หลังเรียนจบตอนอายุ 21 ปี เพราะเรียนก่อนเกณฑ์ 1 ปี ได้ตัดสินใจสมัคงานที่โรงแรมใหม่ที่มาตราฐานสูงกว่าเดิม พอสมัคไปแล้ว 1 วัน HR กับหัวหน้าแผนกเรียกสัมภาษณ์งานทันทีเลย โดยตกลงกันเป็นการทดลองงานก่อน ทุกๆ เดือนหัวหน้างานจะมีการประเมินการทำงานในแต่ละเดือนและให้ feed back กับพนักงานแต่ละคน หลังจากที่ผมได้ทำงานครบ 1 เดือนแรก โดยอาการเดิมยังอยู่ ทุกคนคงเดาได้ว่ามันจะเป็นประมาณไหน แน่นอนได้คำชมคล้ายๆ เดิมจากที่เก่าบ้าง แต่คำติค่อนข้างเยอะ ที่นี่ต้องการการทำงานที่ค่อนข้างเป๊ะ ภาพรวมถือว่ายังไม่ผ่าน อาการต่างๆ ที่เป็นตอนฝึกงานโรงแรมเดิมก็ยังอยู่ โดย Feed Back จากทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ได้มามีตามนี้ครับ:
- เรียงลำดับความสำคัญไม่ถูก
- เวลามีคนพูดอะไร ผมได้ยินชัดเจน แต่ไม่เข้าใจ เลยต้องถามซ้ำหลายรอบ
- จดจ่ออะไรนานๆ ไม่ได้ สมาธิหยุดง่าย (วอกแวก)
- ใจลอย เหมอลอย
- ทำงานขาดความรอบคอบ
- ลืมกิจวัตรหรือหน้าที่ที่ต้องทำในวันนั้นๆ
- ทำงานไม่เสร็จเป็นอย่างๆ
จาก Feed Back ที่ได้มา มันตรงกับกลุ่มสมาธิสั้นแบบขาดสมาธิ อย่างที่เคยเล่าไปว่ามีอาการอยู่ไม่นิ่งด้วย พอประเมินตัวเองคราวๆ แล้ว ผมเป็นโรคสมาธิสั้นแบบที่มีอาการของทั้ง 2 กลุ่มเลย ผมรู้สึกอึดอัดและรู้สึกแย่ที่เป็นภาระในที่ทำงาน และมันทำให้ผมรู้สึกเสียความมั้นใจ บางอย่างผมรู้ตัว แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
ผมอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดว่าควรทำยังไง หรือควรไปพบจิตแพทย์เลย รู้สึกว่าตัวเองอาการหนักจริงๆ เพราะเป็นตั้งแต่เด็กแล้วไม่ได้บำบัดรักษาเลย พึ่งมารู้ตัวจริงๆ ตอนโต
ทั้งนี้ยังไงก็ขอบคุณร่วงหน้าที่เข้ามาอ่าน ผมเขียนก็ซะยาวเลย ในตอนที่กำลังเขียนกระทู้นี้ ผมก็ยังวอกแวกอยู่ เขียนยังไม่เสร็จผมลุกเดินไปเดินมาอยู่เลย คิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต ผมคงใช้ชีวิตลำบากแน่ๆ 555 ยังไงก็ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านครับ
ปล. นี้เป็นแหล่งข้อมูลที่ใช้ประเมินตัวผมเองเบื้องต้น
https://m.youtube.com/watch?v=m4XX2Eow43k
https://www.manarom.com/test/adhd_thai.html
เป็นโรคสมาธิสั้นตั้งแต่เด็กยันโต ไม่ได้บำบัดรักษา มีปัญหาในการทำงาน พอจะมีวิธีรักษาให้หายมั้ยครับ
ต่อมาพอเริ่มโตขึ้นมาประมาณประถม อาการข้างต้นดีขึ้นนิดหน่อย ไม่ส่งเสียงดังแล้ว อยู่นิ่งได้นิดหน่อย แต่บางทีก็วอกแวก บางทีก็เหมอลอย ครูกับเพื่อนบอกมาแบบนั้น จากที่อ่านมาข้างต้นเหมือนอาการดีนิดหน่อย พอโตขึ้นมาเข้าเรียนกศน. ตอนอายุ 12 - 16 (ม.ต้น - ม.ปลาย) เข้ามหาลัย เรียนสาขาภาษาอังกฤษตอน 17 จนก่อนจบมหาลัย หลายๆ คนรอบก็บอกว่าผมเป็นคนพูดไม่รู้เรื่อง
ในช่วงฝึกงาน อาการสมาธิสั้นเหมือนมันจะแย่ลง ผมเข้าฝึกงานที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ปัญหาจริงๆ มันเริ่มขึ้นตรงนี้แหละ ผมได้เป็นพนักงานต้อนรับ (Receptionist) แผนกนี้เป็นจุดศูนย์กลางที่ต้องประสานงานกับทุกๆ แผนกในโรงแรม อาการที่ไม่เคยสังเกตก็เริ่มขึ้นระหว่างฝึกงาน การสื่อสารมีปัญหา พูดรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง วอกแวกง่าย พอเห็นหรือได้ยินอะไรก็เสียสมาธิง่าย ทำให้ลืมขั้นตอนการทำงานบ่อยบางอย่าง เช่น มีขั้นตอน 1 2 3 4 ถ้ามีอะไรมากกวน ผมอาจจะลืมเป็น 1 3 4 หรือ 1 2 4 อะไรประมาณนี้ หลังจากนั้น 2 เดือนก็ได้แวนแผนกไปฝึกที่ห้องอาหาร (Food & Baverage) แน่นอนว่าอาการเดิมยังคงอยู่จนจบการฝึกงาน แต่ปัญหาหลักระหว่างที่ฝึกอยู่ห้องอาหารคือเรื่องบุคคลิก ผมพยายามอยู่นิ่งๆ แล้ว แต่บางทีขยับตัวไม่รู้ตัว เช่น การยืนกระดิกขา วอกแวก มองซ้ายมองขวา พี่ที่ห้องอาหารเขาสังเกตว่าผมเป็นแบบนั้น
หลังฝึกงานเสร็จได้คะแนนแบบกลางๆ แต่ที่ HR ที่โรงแรมเดิมเขายังเชิญผมอยู่ต่อ (พนักงานไม่พอ) เพราะภาพรวมเขาเห็นว่าผมมีความตั่งใจ ตั้งใจเรียนรู้งาน ขยัน ไม่เคยเข้างานสาย มารยาทดี แก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แม้จะทำงานผิดพลาดบ้าง แต่อยู่ในจุดที่ยังไม่ร้ายแรงแก้ไขได้ สุดท้ายผมก็เลือกไม่อยู่ต่อ
เข้าช่วงที่เป็นปัญหาหลักจริงๆ หลังเรียนจบตอนอายุ 21 ปี เพราะเรียนก่อนเกณฑ์ 1 ปี ได้ตัดสินใจสมัคงานที่โรงแรมใหม่ที่มาตราฐานสูงกว่าเดิม พอสมัคไปแล้ว 1 วัน HR กับหัวหน้าแผนกเรียกสัมภาษณ์งานทันทีเลย โดยตกลงกันเป็นการทดลองงานก่อน ทุกๆ เดือนหัวหน้างานจะมีการประเมินการทำงานในแต่ละเดือนและให้ feed back กับพนักงานแต่ละคน หลังจากที่ผมได้ทำงานครบ 1 เดือนแรก โดยอาการเดิมยังอยู่ ทุกคนคงเดาได้ว่ามันจะเป็นประมาณไหน แน่นอนได้คำชมคล้ายๆ เดิมจากที่เก่าบ้าง แต่คำติค่อนข้างเยอะ ที่นี่ต้องการการทำงานที่ค่อนข้างเป๊ะ ภาพรวมถือว่ายังไม่ผ่าน อาการต่างๆ ที่เป็นตอนฝึกงานโรงแรมเดิมก็ยังอยู่ โดย Feed Back จากทั้งหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานที่ได้มามีตามนี้ครับ:
- เรียงลำดับความสำคัญไม่ถูก
- เวลามีคนพูดอะไร ผมได้ยินชัดเจน แต่ไม่เข้าใจ เลยต้องถามซ้ำหลายรอบ
- จดจ่ออะไรนานๆ ไม่ได้ สมาธิหยุดง่าย (วอกแวก)
- ใจลอย เหมอลอย
- ทำงานขาดความรอบคอบ
- ลืมกิจวัตรหรือหน้าที่ที่ต้องทำในวันนั้นๆ
- ทำงานไม่เสร็จเป็นอย่างๆ
จาก Feed Back ที่ได้มา มันตรงกับกลุ่มสมาธิสั้นแบบขาดสมาธิ อย่างที่เคยเล่าไปว่ามีอาการอยู่ไม่นิ่งด้วย พอประเมินตัวเองคราวๆ แล้ว ผมเป็นโรคสมาธิสั้นแบบที่มีอาการของทั้ง 2 กลุ่มเลย ผมรู้สึกอึดอัดและรู้สึกแย่ที่เป็นภาระในที่ทำงาน และมันทำให้ผมรู้สึกเสียความมั้นใจ บางอย่างผมรู้ตัว แต่มันทำไม่ได้จริงๆ
ผมอยากได้คำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดว่าควรทำยังไง หรือควรไปพบจิตแพทย์เลย รู้สึกว่าตัวเองอาการหนักจริงๆ เพราะเป็นตั้งแต่เด็กแล้วไม่ได้บำบัดรักษาเลย พึ่งมารู้ตัวจริงๆ ตอนโต
ทั้งนี้ยังไงก็ขอบคุณร่วงหน้าที่เข้ามาอ่าน ผมเขียนก็ซะยาวเลย ในตอนที่กำลังเขียนกระทู้นี้ ผมก็ยังวอกแวกอยู่ เขียนยังไม่เสร็จผมลุกเดินไปเดินมาอยู่เลย คิดว่าถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปในอนาคต ผมคงใช้ชีวิตลำบากแน่ๆ 555 ยังไงก็ขอบคุณทุกๆ คนที่เข้ามาอ่านครับ
ปล. นี้เป็นแหล่งข้อมูลที่ใช้ประเมินตัวผมเองเบื้องต้น
https://m.youtube.com/watch?v=m4XX2Eow43k
https://www.manarom.com/test/adhd_thai.html