JJNY : 'หมอธีระ' หวั่น 'ฝีดาษลิง'│นันทนา ชื่นชมอธิการ มธ. เชิญ ‘พิธา’│ธุรกิจเซ็ง ตั้งรบ.ยืดเยื้อ│รัสเซียกร้าวตอบโต้กลับ

'หมอธีระ' เปิดข้อมูล หวั่น 'ฝีดาษลิง' ในไทยอาจหนักกว่าทั่วโลก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_7801774
 
 
‘หมอธีระ’ เปิดสถิติข้อมูล หวั่น ‘ฝีดาษลิง’ ในประเทศไทยอาจหนักกว่าทั่วโลก ชี้หากปล่อยปละละเลย เวลาเกิดการระบาดขึ้นมา จะคุมได้ยาก
 
6 ส.ค. 2566 – นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับเรื่องโรคฝีดาษลิง โดยมีใจความว่า 

“ฝีดาษลิงในไทยอาจหนักกว่าทั่วโลก…”
 
ข้อมูลจาก TNN เมื่อวานนี้ชี้ให้เห็นว่าจำนวนเคสในไทยจนถึงปัจจุบันมีถึง 170 รายแล้ว หากวิเคราะห์ตาม Ourworldindata ซึ่งใช้ข้อมูลของไทยจนถึง 12 ก.ค. ซึ่งมีรายงานอยู่ 119 ราย (น้อยกว่าตัวเลขปัจจุบัน) พบว่า ตั้งแต่เมษายนปีนี้เป็นต้นมา ค่าเฉลี่ยรายสัปดาห์ของจำนวนเคสต่อประชากรล้านคนของไทยเรานั้นสูงมากกว่าทวีปอื่น ๆ ทั่วโลก รวมถึงมากกว่าค่าเฉลี่ยของโลกด้วย
 
ยิ่งหากจำนวนเคสใหม่ที่เกิดขึ้นในไทย เป็นไปในลักษณะเช่นนี้ต่อไปอีกระยะ อาจมีแนวโน้มที่จะเกิดการระบาดที่ขยายวงมากขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าเดิมได้
เคยวิเคราะห์และเตือนไว้ตั้งแต่ต้นว่า ลักษณะธรรมชาติของโรคของฝีดาษลิงนั้นมีความคล้ายคลึงกับเอชไอวี ทั้งในเรื่องเพศสัมพันธ์ การสัมผัสใกล้ชิดทางร่างกาย สิ่งคัดหลั่ง ละอองฝอยน้ำมูกน้ำลาย รวมถึงมีโอกาสแพร่จากมารดาสู่ทารกในครรภ์ดังรายงานที่พบในแอฟริกาด้วย นอกจากนี้ กลุ่มเสี่ยงหลักยังมีความคล้ายคลึงกับเอชไอวีตอนระบาดแรก ๆ ด้วย
 
ณ จุดนี้ จึงยังประเมินได้ว่า ควรมีมาตรการควบคุมป้องกันโรคฝีดาษลิงที่เข้มข้นจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความรู้ กระตุ้นเตือน ในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กลุ่มชายรักชาย คนที่มีอาชีพในอุตสาหกรรมบริการ แหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ผับ บาร์ คาราโอเกะ ฯลฯ เพื่อให้เกิดความระมัดระวังในการใช้ชีวิต ป้องกันตัว และคอยสังเกตสังกาอาการผิดปกติที่เกิดจากการติดเชื้อฝีดาษลิง ทั้งตนเอง คนใกล้ชิด หรือคนที่มาใช้บริการ
 
ยิ่งในช่วงเวลาของการโปรโมตการท่องเที่ยวและบริการ สถานประกอบกิจการต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญในเรื่องสุขภาพมากขึ้นกว่าในอดีต เพราะภัยคุกคามสุขภาพมีความหลากหลาย ทั้งโควิด ฝีดาษลิง และอื่น ๆ หากปล่อยปละละเลย เวลาระบาดขึ้นมา จะคุมได้ยาก

https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02q8VseAQehHoabyuQmTWgTvBqAaUK7y2XmYUhPGePHRoLh2LhMYKuThW2hKeBLE26l



นันทนา ชื่นชมอธิการ มธ. เชิญ ‘พิธา’ ปาฐกถารับปี 1 ชี้มีคุณสมบัติเหมาะสม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4116614

นันทนา ชื่นชมอธิการ มธ. เชิญ ‘พิธา’ ปาฐกถารับปี 1 ชี้มีคุณสมบัติเหมาะสม เป็น idol ของคนรุ่นใหม่

เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า รศ.ดร.นันทนา นันทวโรภาส คณบดีวิทยาลัยสื่อสารการเมือง มหาวิทยาลัยเกริก โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ดร.นันทนา นันทวโรภาส” ระบุว่า

“ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ 3 ปริญญา
ปริญญาตรี : ศิลปศาสตรบัณฑิต (ประวัติศาสตร์)
ปริญญาโท : รัฐศาสตรมหาบัณฑิต (การเมืองการปกครอง)
ปริญญาเอก : ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต ( สื่อสารมวลชน)
 
ขอสนับสนุนและยกย่อง ท่านอธิการบดีและคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ได้เชิญคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ มาปาฐกถาต้อนรับนักศึกษาใหม่ ปีการศึกษา 2566 นี้
 
คุณพิธา เป็นลูกแม่โดม จากคณะบัญชี ที่เรียนเก่งจนต่อยอดไปจบปริญญาโทจาก มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก อย่าง Harvard และ MIT  มีจิตวิญญานธรรมศาสตร์ ยึดมั่นในอุดมการประชาธิปไตย อุทิศตนรับใช้ประชาชน จนประสบความสำเร็จในทางการเมือง เป็นหัวหน้าพรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยคะแนนเสียงบริสุทธิ์กว่า 14 ล้านเสียง และหากเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยแบบอารยะ คุณพิธา ก็คือนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทยแล้ว !
 
นี่คือผลผลิต อันน่าภาคภูมิใจ ของชาวธรรมศาสตร์มิใช่หรือนี่คือแบบอย่าง ที่จุดประกายความคิด ให้แก่คนรุ่นใหม่ของธรรมศาสตร์  มิใช่หรือ
เช่นนี้แล้ว พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คือองค์ปาฐกฯ ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และสอดคล้องกับบริบท ในการปฐมนิเทศนี้
พิธานับเป็น idol ของคนรุ่นใหม่ การปรากฎตัวบนเวทีหอประชุมธรรมศาสตร์ เรียกเสียงกรี๊ดตบมือดังสนั่นตลอดเวลา ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันว่ามหาวิทยาลัยเชิญรุ่นพี่มาถูกใจยิ่งนัก
 
พิธา เป็นผู้ที่มีความมั่นใจในตนเองสูง มีบุคลิกผู้นำ แต่งกายถูกกาละเทศะ  กิริยาท่าทางสุภาพ อ่อนโยน ลีลาการนำเสนอเร้าใจ น้ำเสียงมีพลัง จังหวะการพูดกระชับ ฉับไว เนื้อหาการพูด เรียบเรียงมาอย่างเป็นระบบ
 
“สาร” สำคัญ ที่นำเสนอคือ การกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่ กล้าคิดใหญ่ กล้าฝันใหญ่ และให้คิดนอกกรอบ พลังของคนรุ่นใหม่ จะเปลี่ยนสังคม การเมืองได้อย่างสมบูรณ์แบบ
 
สุดท้ายพิธาได้ทำหน้าที่ถ่ายทอดจิตวิญญานธรรมศาสตร์ ให้รุ่นต่อไป ยืนหยัดต่อสู้ เพื่อประชาธิปไตย เสรีภาพ และ ความยุติธรรมในสังคม ดังปณิธานของชาวธรรมศาสตร์ที่ว่า
 
“เหลืองของเราคือธรรมประจำจิต แดงของเราคือโลหิตอุทิศให้”
การกล่าวปฐมนิเทศที่น่าประทับใจนี้  ย่อมสร้างแรงบันดาลใจให้แก่เมล็ดพันธุ์รุ่นใหม่ของธรรมศาสตร์ ที่จะผลิดอก ออกผล แห่งการเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ต่อไป”

https://www.facebook.com/dr.nantana/posts/6468667976559992?ref=embed_post


 
ธุรกิจ เซ็ง ตั้งรบ.ยืดเยื้อ แวดวงหุ้นทำใจ ลากถึง ก.ย.
https://www.matichon.co.th/economy/news_4116510

ธุรกิจ เซ็ง ตั้งรบ.ยืดเยื้อ แวดวงหุ้นทำใจ ลากถึง ก.ย.
 
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ให้สัมภาษณ์ปัญหาผลกระทบจากปัญหาการเมือง ที่ยังไม่มีความชัดเจนในการเลือกนายกรัฐมนตรีและการจัดตั้งรัฐบาล ว่า สิ่งที่ต้องจับตาคือ หากการตั้งรัฐบาลไม่เป็นที่พอใจของประชาชน อาจก่อให้เกิดการชุมนุมประท้วงกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวช่วงปลายปีนี้ หรือตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป หากยืดเยื้อกว่า 6 เดือน คาดว่านักท่องเที่ยวจะหายไปครึ่งหนึ่ง หรือรายได้เฉลี่ยต่อหัวจะหายไปราว 10 ล้านคน สร้างความเสียหายสูญเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจกว่า 5 แสนล้านบาท จะกระทบจีดีพีประมาณ 1% ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจในภาพรวมชะงัก
 
อย่างไรก็ตาม หอการค้าฯยังคงการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ที่ 3.-3.5% โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวต่อเนื่อง และอาจขยายตัวได้ 3.5-4% หากได้รับรัฐบาลภายในเดือนสิงหาคมนี้ แต่หากเกิดการเมืองไม่จบเกิดเหตุรุนแรงจริงก็จะประเมินใหม่อีกครั้ง

ด้านนายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจัยกดดันตลาดหุ้นไทยขณะนี้เป็นประเด็นการเมืองมากที่สุด การจัดตั้งรัฐบาลต้องเลื่อนออกไปจากเดือนสิงหาคมนี้แน่นอนแล้ว และประเมินว่าการจัดตั้งรัฐบาลเร็วที่สุดอาจเป็นช่วงปลายเดือนกันยายน หรืออาจยืดเยื้อต่อไปอีกระยะหนึ่ง
 
ขณะนี้ประชาชนมองว่าเรากำลังจะมีนายกฯ แต่คำถามคือแล้วจะเป็นใคร ตอนนี้จะใช่คุณเศรษฐา (ทวีสิน แคนดิเดทนายกฯจากพรรคเพื่อไทย) หรือไม่ ตัวแปรที่เหลืออยู่จะเป็นใคร อาจไม่ใช่คุณเศรษฐาก็ได้ หากปลายเดือนสิงหาคมหรือกันยายนนี้ยังไม่มีนายกฯ ตั้งรัฐบาลไม่ได้ ปัญหาเรื่องงบประมาณปี 2567 จะตามมา ขณะนี้นักลงทุนต่างชาติเริ่มทยอยขายสุทธิอีกครั้ง หลังจากเพิ่งกลับมาซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยได้ไม่นาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่