https://thebuddh.com/?p=72674
วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เพจ Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คส่วนตัวของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. บรรจบ บรรณรุจิ ราชบัณฑิต ป.ธ. 9 อดีตสามเณรนาคหลวง ได้โพสต์ข้อความว่า ..ขอเวลานอกให้หลวงพ่อพยอมหน่อย
หลวงพ่อพยอม หรือ พระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เป็นพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่เสียสละเพื่อสังคมไทยมายาวนานเกือบ ๕๐ ปี นอกจากเทศน์โดนใจสังคมด้วยลีลาธรรมะหรรษาแล้ว ยังเอาธรรมะที่เทศน์มาทำเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้พื้นที่วัดเป็นที่ตั้งโครงการ ให้สังคมคนมีเงินมีรายได้กระจายเงินกระจายรายได้ออกมา
จุนเจือคนด้อยกว่าแบบเต็มใจ คนยากจนมีรายได้ คนไม่มีงาน มีงานทำ คนติดสาเสพย์ติด บรรเทายาเสพยติดได้ คนไม่มีที่อยู่อาศัย มีที่ซุกหัวนอน
อย่าว่าแต่คนเลย สุนัขจรจัดพลัดเข้าไปในวัดสวนแก้วยังมีที่นอนมีที่กินอย่างอิ่มหมีพีมัน
ความสียสละเพื่อสังคมของท่าน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดบวรนิเวศวิหาร จึงทรงพระเมตตาบริจาคเงินช่วยเหลือ ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ (หนึ่งล้านบาท) ถึงกับทำให้ท่านอุทานว่า ฟ้ามีตา
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนชั้นพระธรรมดาให้เป็นเจ้าคุณ ไม่ต้องผ่านเป็นมหา พระครู เหมือนกับว่าให้ขึ้นลิฟต์ขึ้นตึกสูงเลย ด้วยเหตุผลว่า จะได้ทำงานได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นบันไดทีละขั้น
ท่านอดีตประธานองคมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็เคยรับพระกระแสพระราชดำรัสของ รัชกาลที่ ๙ ให้เข้ามาช่วยดูแลงานพัฒนาที่วัดของท่าน
ซึ่งทั่งหมดน่าจะเป็นความภูมิใจของคณะสงฆ์ไทยและชาวพุทธไทยได้ รวมทั้งของคนทั่วไปในสังคม
ท่านเป็นพระ ประเภท socially engaged คือสัมพันธ์กับสังคมมาก ทั้งยังเป็นที่พึ่งทางความคิดความเห็นของสังคม จึงอาจมีคำพูดที่พลาดได้ แต่ก็เชื่อว่าคงจะไม่ได้ออกมาจากเจตนาร้ายใด ๆ
@ พระปุถุชนอย่างท่าน เมื่อเอาความดีกับความพลาดพลั้งทางคำพูด ที่อาจมีได้ แต่ไม่ถึงขั้นขาดจากความเป็นพระมาชั่งดูกันแล้ว ยังกราบไหว้ได้สนิทใจ ใครหรืองค์กรไหนจะยื่นฟ้องหรือสอบสวนท่านก็ให้ทำไป
แต่ขอว่า ควรต้องเริ่มต้นสอบสวนด้วยพระธรรมวินัยก่อน จึงจะสอบตามมาด้วยกระบวนการทางกฏหมายแบบโลก
เพราะพระธรรมวินัยเท่านั้นจึงจะชี้ขาดว่าท่านยังคงความเป็นพระหรือไม่
สังคมไทยพุทธเป็นสังคมปัญญา อย่าปล่อยให้พระดีโดดเดี่ยว.
ราชบัณฑิต” ออกโรง “วอนชาวพุทธ” อย่าปล่อยให้พระดีโดดเดี่ยว!!
วันที่ 1 สิงหาคม 2566 เพจ Banjob Bannaruji – บ้านบรรณรุจิ ซึ่งเป็นเฟชบุ๊คส่วนตัวของ ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. บรรจบ บรรณรุจิ ราชบัณฑิต ป.ธ. 9 อดีตสามเณรนาคหลวง ได้โพสต์ข้อความว่า ..ขอเวลานอกให้หลวงพ่อพยอมหน่อย
หลวงพ่อพยอม หรือ พระราชธรรมนิเทศ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เป็นพระสงฆ์ไทยรูปหนึ่งที่เสียสละเพื่อสังคมไทยมายาวนานเกือบ ๕๐ ปี นอกจากเทศน์โดนใจสังคมด้วยลีลาธรรมะหรรษาแล้ว ยังเอาธรรมะที่เทศน์มาทำเป็นโครงการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้พื้นที่วัดเป็นที่ตั้งโครงการ ให้สังคมคนมีเงินมีรายได้กระจายเงินกระจายรายได้ออกมา
จุนเจือคนด้อยกว่าแบบเต็มใจ คนยากจนมีรายได้ คนไม่มีงาน มีงานทำ คนติดสาเสพย์ติด บรรเทายาเสพยติดได้ คนไม่มีที่อยู่อาศัย มีที่ซุกหัวนอน
อย่าว่าแต่คนเลย สุนัขจรจัดพลัดเข้าไปในวัดสวนแก้วยังมีที่นอนมีที่กินอย่างอิ่มหมีพีมัน
ความสียสละเพื่อสังคมของท่าน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดบวรนิเวศวิหาร จึงทรงพระเมตตาบริจาคเงินช่วยเหลือ ๑,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ (หนึ่งล้านบาท) ถึงกับทำให้ท่านอุทานว่า ฟ้ามีตา
พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ทรงพระกรุณาพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนชั้นพระธรรมดาให้เป็นเจ้าคุณ ไม่ต้องผ่านเป็นมหา พระครู เหมือนกับว่าให้ขึ้นลิฟต์ขึ้นตึกสูงเลย ด้วยเหตุผลว่า จะได้ทำงานได้เร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาขึ้นบันไดทีละขั้น
ท่านอดีตประธานองคมนตรี พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ก็เคยรับพระกระแสพระราชดำรัสของ รัชกาลที่ ๙ ให้เข้ามาช่วยดูแลงานพัฒนาที่วัดของท่าน
ซึ่งทั่งหมดน่าจะเป็นความภูมิใจของคณะสงฆ์ไทยและชาวพุทธไทยได้ รวมทั้งของคนทั่วไปในสังคม
ท่านเป็นพระ ประเภท socially engaged คือสัมพันธ์กับสังคมมาก ทั้งยังเป็นที่พึ่งทางความคิดความเห็นของสังคม จึงอาจมีคำพูดที่พลาดได้ แต่ก็เชื่อว่าคงจะไม่ได้ออกมาจากเจตนาร้ายใด ๆ
@ พระปุถุชนอย่างท่าน เมื่อเอาความดีกับความพลาดพลั้งทางคำพูด ที่อาจมีได้ แต่ไม่ถึงขั้นขาดจากความเป็นพระมาชั่งดูกันแล้ว ยังกราบไหว้ได้สนิทใจ ใครหรืองค์กรไหนจะยื่นฟ้องหรือสอบสวนท่านก็ให้ทำไป
แต่ขอว่า ควรต้องเริ่มต้นสอบสวนด้วยพระธรรมวินัยก่อน จึงจะสอบตามมาด้วยกระบวนการทางกฏหมายแบบโลก
เพราะพระธรรมวินัยเท่านั้นจึงจะชี้ขาดว่าท่านยังคงความเป็นพระหรือไม่
สังคมไทยพุทธเป็นสังคมปัญญา อย่าปล่อยให้พระดีโดดเดี่ยว.