ผมกับเเฟนมีชีวิตรักกันมา 6 ปี ทำงานอยู่ต่างอำเภอกันจึงอาศัยอยู่คนละที่ เเต่ในตอนนี้ผมเลิกกับเขาจากปัญหาที่เขาแอบไปคุยกับผู้ชายในที่ทำงานเดียวกันเเนวจีบกันไปมาเเละไปไหนด้วยกันสองคนโดยที่ไม่บอกผม เช่น ไปกินข้าวกันสองคน ไปเที่ยวอุทยานใกล้ๆกับที่ทำงานห่างจากที่ทำงานประมาณ 10 กิโล
ผมจับได้จากการค้นดูโทรศัพท์ที่ถูกลบประวัติการแชทไป และก็มีคนในที่ทำงานของแฟนมาบอกด้วยว่าแฟนผมกับผู้ชายคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ โดยเวลาที่ไปแฟนผมจะบอกเพียงเเค่ว่าไปกับคนที่ทำงาน เเต่ไม่เคยถ่ายรูปให้ดูผมเลยเเม้เเต่ครั้งเดียวว่าไปกับใคร ไปกันกี่คน ผมก็ถามแฟนผมว่าไปกับใครขอดูหน้าเพื่อนที่ไปด้วยหน่อยได้มั้ย แฟนผมก็อ้างว่าเสียมรรยาทที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายหน้าเขา
ผมก็ไม่พอใจก็เลยว่าเเฟนผมไปว่าทำไมจะถ่ายไม่ได้เราก็เลยทะเลาะกันบ่อยๆ หนำซ้ำเวลาเลิกงานปกติคือ 4 โมงเย็นเเต่แฟนผมชอบบอกว่างานเยอะเลยกลับช้าประมาณ 18.30 หรือช่วง 19.30 ทุกวัน ซึ่งผมว่ามันค่อนข้างแปลกตรงที่ว่างานมันไม่น่าจะเยอะทุกวัน ก็เลยมีชวนทะเลาะกันบ้าง เพราะเวลาเขากลับมาผมก็จะโทรหาได้เเค่ 5-10 นาทีเขาก็จะนอนไปเลยเเละบ่นง่วงทุกวันมาตลอด 2 เดือน ผมเลยไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เเละมันอาจกลายเป็นปัญหาที่ชวนทะเลาะเเละนำไปสู่การนอกใจ
เมื่อปัญหาเกิดเเล้วผมก็ไปถามเเฟนผมตรงๆ ผมก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าจริงบางเรื่อง เช่น เรื่องที่ไปกินข้าวด้วยกันสองต่อสองก็เป็นเรื่องจริง มีเเชทคุยกันบ้างเเต่บอกผมว่าไม่ได้จีบ ตอนเเรกผมก็ยอมเชื่อแฟนผม ต่อมาเมื่อผมเช็คโทรศัพท์แฟนผม ก็เกิดอาการหวงโทรศัพท์ขึ้นมาซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกันมา 6 ปีไม่เคยหวงโทรศัพท์ผมเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว เเต่คราวนี้เธอมานั่งประกบข้างเเล้วทุกๆการเลื่อน 3-4 ครั้งที่จอ เธอจะคอยถามว่าดูเสร็จเเล้วใช่มั้ย เเละพยายามจะคว้ามือถือคืน ซึ่งผมก็เลื่อนไปเจอเเชทของคู่กรณีผมมันเหลือเเชทคุยกันเพียงเเค่ประมาณ 5 วันเท่านั้น ซึ่งผมก็หันไปถามว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมานานเเค่ไหนเเล้วนะ เขาก็ตอบประมาณ 6 เดือน เเต่คุยกันเเค่ 5 วันที่ผ่านมาอ่ะนะ? ผมเลยรู้เเละมั่นใจว่าลบเเชทไป ผมเลยบอกเค้าไปว่าขอกู้เเชทได้มั้ย เเฟนผมหน้าซีดทันทีรีบเเย่งมือถือไปแล้วลบแอพเมสเสชของเฟสบุ๊คทิ้งทันที ผมอึ้งมากทำตัวไม่ถูก ผมให้โอกาสเขาบอกว่า ถ้าให้ผมกู้เเชท ผมจะลืมทุกอย่างเเละเริ่มต้นใหม่กับเขาเเต่ถ้าไม่ผมถือว่าเขาเลือกมัน สรุปเขาตอบผมว่า เลือกผมเเต่ไม่ให้กู้เเชทเพราะถึงเห็นเเชทก็เลิกกันอยู่ดี ผมโกรธจนตัวสั่นเเละโมโหมากเเต่ผมไม่ได้ทำร้ายแฟนผมนะครับ ผมบอกเลิกกับเขาเเล้วเดินออกมาเเละกลับบ้านตัวเองทันที
หลังเลิกกันช่วงเเรกเราก็ยังติดต่อกันอยู่ เเต่ผมได้เอาเรื่องราวเหล่านี้ไปเล่าให้คนใกล้ตัวฟัง เช่น ครอบครัวผม เพื่อนๆ ซึ่งเสียงคนรอบตัวก็เชียร์บอกผมว่าดีเเล้วที่เลิกกันไปก่อนที่จะเเต่งงานหรือมีลูกกัน ซึ่งผมก็เล่าให้เรื่องนี้ให้ครอบครัวฝ่ายหญิงฟังด้วยเพราะผมกับครอบครัวฝ่ายหญิงก็รู้จักกันมานานผมคิดว่าถ้าผมจะเลิกจะไปผมก็ควรบอกสาเหตุของเรื่องนี้ด้วย ซึ่งมันจึงมีความเสียหายเป็นวงกว้าง เเละต่อมาเรื่องราวมันก็ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่เพราะอดีตเเฟนผมก็โกรธเรื่องนี้มากเราด่ากันไปมา สุดท้ายผมทนไม่ไหวผมเลยบล็อคการติดต่ออดีตแฟนผมไปทุกอย่าง เเต่ผมไม่ได้บล็อคเบอร์โทร เรื่องราวหลังเลิกกันประมาณ 1 เดือน
ต่อมาด้วยความฟุ้งซ่านผมก็เลยไปเล่นแอพทินเดอร์เพื่อหาคนคุยใหม่ๆในชีวิตเพื่อที่จะทำให้ผมเลิกฟุ้งซ่าน ผมก็ได้คนคุยมาคนนึงเราตกลงว่าจะคบหากันเเบบเพื่อนเเละพูดคุยดูใจกันไปเรื่อยๆก่อนค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ เเต่ด้วยความที่เราเข้ากันมากๆเลยสนิทกันไวมากๆ เราเริ่มมีการหยอดจีบกันไปมาเรื่อยๆความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้น ผมเชื่อว่าอีกฝั่งคิดจริงจังกับผมมากขึ้นอย่างมากถึงขั้นเรียกกันว่าที่รักเเล้ว(แต่พวกเรายังไม่ได้ตกลงกันว่าจะเป็นแฟนนะอันนี้เป็นข้อตกลงตั้งเเต่ต้น ) เเต่เเล้วแฟนผมก็โทรมาเพื่อขอคืนดีกับผม ผมก็เริ่มจะใจอ่อนขึ้นมาบ้างเเล้วในตอนนี้ ทำให้ผมเองก็อยากกลับไปเริ่มใหม่กับคนเก่า เเต่ผมเองก็ยังมีคนคุยอีกคนที่กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ด้วยดี ผมควรทำยังไงดีผมหาคำตอบไม่ได้ ผมอยากกลับไปคบกับคนเก่าก็กลัวแผลเดิม เเต่ก็รักคนเก่ามากๆ+กับคนรอบข้างก็ไม่สนับสนุนด้วย กับคนใหม่ที่เราเพิ่งเริ่มคุยกันเเละพัฒนาไปในทางที่ดีตลอดมา(ผมคุยกับคนใหม่ได้ 2 อาทิตย์กับอีก 5 วัน) เราจะไปทางไหนดี เพราะถ้านานไปมากกว่านี้จะเจ็บกันทุกฝั่งผมคิดเองนะ
ทำยังไงต่อไปกับชีวิตความรักดี เพิ่งเลิกกันหาทางออกไม่ได้
ผมจับได้จากการค้นดูโทรศัพท์ที่ถูกลบประวัติการแชทไป และก็มีคนในที่ทำงานของแฟนมาบอกด้วยว่าแฟนผมกับผู้ชายคนนี้ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ โดยเวลาที่ไปแฟนผมจะบอกเพียงเเค่ว่าไปกับคนที่ทำงาน เเต่ไม่เคยถ่ายรูปให้ดูผมเลยเเม้เเต่ครั้งเดียวว่าไปกับใคร ไปกันกี่คน ผมก็ถามแฟนผมว่าไปกับใครขอดูหน้าเพื่อนที่ไปด้วยหน่อยได้มั้ย แฟนผมก็อ้างว่าเสียมรรยาทที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายหน้าเขา
ผมก็ไม่พอใจก็เลยว่าเเฟนผมไปว่าทำไมจะถ่ายไม่ได้เราก็เลยทะเลาะกันบ่อยๆ หนำซ้ำเวลาเลิกงานปกติคือ 4 โมงเย็นเเต่แฟนผมชอบบอกว่างานเยอะเลยกลับช้าประมาณ 18.30 หรือช่วง 19.30 ทุกวัน ซึ่งผมว่ามันค่อนข้างแปลกตรงที่ว่างานมันไม่น่าจะเยอะทุกวัน ก็เลยมีชวนทะเลาะกันบ้าง เพราะเวลาเขากลับมาผมก็จะโทรหาได้เเค่ 5-10 นาทีเขาก็จะนอนไปเลยเเละบ่นง่วงทุกวันมาตลอด 2 เดือน ผมเลยไม่โอเคกับสิ่งที่เกิดขึ้น เเละมันอาจกลายเป็นปัญหาที่ชวนทะเลาะเเละนำไปสู่การนอกใจ
เมื่อปัญหาเกิดเเล้วผมก็ไปถามเเฟนผมตรงๆ ผมก็ได้รับคำตอบกลับมาว่าจริงบางเรื่อง เช่น เรื่องที่ไปกินข้าวด้วยกันสองต่อสองก็เป็นเรื่องจริง มีเเชทคุยกันบ้างเเต่บอกผมว่าไม่ได้จีบ ตอนเเรกผมก็ยอมเชื่อแฟนผม ต่อมาเมื่อผมเช็คโทรศัพท์แฟนผม ก็เกิดอาการหวงโทรศัพท์ขึ้นมาซึ่งตลอดระยะเวลาที่คบกันมา 6 ปีไม่เคยหวงโทรศัพท์ผมเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว เเต่คราวนี้เธอมานั่งประกบข้างเเล้วทุกๆการเลื่อน 3-4 ครั้งที่จอ เธอจะคอยถามว่าดูเสร็จเเล้วใช่มั้ย เเละพยายามจะคว้ามือถือคืน ซึ่งผมก็เลื่อนไปเจอเเชทของคู่กรณีผมมันเหลือเเชทคุยกันเพียงเเค่ประมาณ 5 วันเท่านั้น ซึ่งผมก็หันไปถามว่าเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมานานเเค่ไหนเเล้วนะ เขาก็ตอบประมาณ 6 เดือน เเต่คุยกันเเค่ 5 วันที่ผ่านมาอ่ะนะ? ผมเลยรู้เเละมั่นใจว่าลบเเชทไป ผมเลยบอกเค้าไปว่าขอกู้เเชทได้มั้ย เเฟนผมหน้าซีดทันทีรีบเเย่งมือถือไปแล้วลบแอพเมสเสชของเฟสบุ๊คทิ้งทันที ผมอึ้งมากทำตัวไม่ถูก ผมให้โอกาสเขาบอกว่า ถ้าให้ผมกู้เเชท ผมจะลืมทุกอย่างเเละเริ่มต้นใหม่กับเขาเเต่ถ้าไม่ผมถือว่าเขาเลือกมัน สรุปเขาตอบผมว่า เลือกผมเเต่ไม่ให้กู้เเชทเพราะถึงเห็นเเชทก็เลิกกันอยู่ดี ผมโกรธจนตัวสั่นเเละโมโหมากเเต่ผมไม่ได้ทำร้ายแฟนผมนะครับ ผมบอกเลิกกับเขาเเล้วเดินออกมาเเละกลับบ้านตัวเองทันที
หลังเลิกกันช่วงเเรกเราก็ยังติดต่อกันอยู่ เเต่ผมได้เอาเรื่องราวเหล่านี้ไปเล่าให้คนใกล้ตัวฟัง เช่น ครอบครัวผม เพื่อนๆ ซึ่งเสียงคนรอบตัวก็เชียร์บอกผมว่าดีเเล้วที่เลิกกันไปก่อนที่จะเเต่งงานหรือมีลูกกัน ซึ่งผมก็เล่าให้เรื่องนี้ให้ครอบครัวฝ่ายหญิงฟังด้วยเพราะผมกับครอบครัวฝ่ายหญิงก็รู้จักกันมานานผมคิดว่าถ้าผมจะเลิกจะไปผมก็ควรบอกสาเหตุของเรื่องนี้ด้วย ซึ่งมันจึงมีความเสียหายเป็นวงกว้าง เเละต่อมาเรื่องราวมันก็ยุ่งเหยิงไปกันใหญ่เพราะอดีตเเฟนผมก็โกรธเรื่องนี้มากเราด่ากันไปมา สุดท้ายผมทนไม่ไหวผมเลยบล็อคการติดต่ออดีตแฟนผมไปทุกอย่าง เเต่ผมไม่ได้บล็อคเบอร์โทร เรื่องราวหลังเลิกกันประมาณ 1 เดือน
ต่อมาด้วยความฟุ้งซ่านผมก็เลยไปเล่นแอพทินเดอร์เพื่อหาคนคุยใหม่ๆในชีวิตเพื่อที่จะทำให้ผมเลิกฟุ้งซ่าน ผมก็ได้คนคุยมาคนนึงเราตกลงว่าจะคบหากันเเบบเพื่อนเเละพูดคุยดูใจกันไปเรื่อยๆก่อนค่อยพัฒนาความสัมพันธ์ เเต่ด้วยความที่เราเข้ากันมากๆเลยสนิทกันไวมากๆ เราเริ่มมีการหยอดจีบกันไปมาเรื่อยๆความสัมพันธ์เริ่มดีขึ้น ผมเชื่อว่าอีกฝั่งคิดจริงจังกับผมมากขึ้นอย่างมากถึงขั้นเรียกกันว่าที่รักเเล้ว(แต่พวกเรายังไม่ได้ตกลงกันว่าจะเป็นแฟนนะอันนี้เป็นข้อตกลงตั้งเเต่ต้น ) เเต่เเล้วแฟนผมก็โทรมาเพื่อขอคืนดีกับผม ผมก็เริ่มจะใจอ่อนขึ้นมาบ้างเเล้วในตอนนี้ ทำให้ผมเองก็อยากกลับไปเริ่มใหม่กับคนเก่า เเต่ผมเองก็ยังมีคนคุยอีกคนที่กำลังพัฒนาความสัมพันธ์ไปได้ด้วยดี ผมควรทำยังไงดีผมหาคำตอบไม่ได้ ผมอยากกลับไปคบกับคนเก่าก็กลัวแผลเดิม เเต่ก็รักคนเก่ามากๆ+กับคนรอบข้างก็ไม่สนับสนุนด้วย กับคนใหม่ที่เราเพิ่งเริ่มคุยกันเเละพัฒนาไปในทางที่ดีตลอดมา(ผมคุยกับคนใหม่ได้ 2 อาทิตย์กับอีก 5 วัน) เราจะไปทางไหนดี เพราะถ้านานไปมากกว่านี้จะเจ็บกันทุกฝั่งผมคิดเองนะ