วิบากกรรมเพื่อไทย จากมังกรสู่หนอนชาเขียว

ตอนนี้การเมืองบ้านเรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคเพื่อไทย จากเดิมที่จับมือกับก้าวไกล ซึ่งสถานะของก้าวไกลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจับมือกับเพื่อไทยเท่านั้น ดังนั้นตอนจับมือกับก้าวไกล ฝั่งเพื่อไทยเป็นต่อทุกอย่าง แทบจะขอได้ทุกอย่างจากก้าวไกล ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม ต่อรองรัฐมนตรีได้เต็มที่ ตำแหน่งประธานสภาจริงๆ ก็เป็นไปตามเกมของเพื่อไทย จนมาถึงกลายมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ทุกอย่างอยู่ในมือเพื่อไทยทั้งหมด แต่แล้วความเป็นพญามังกรมันก็ไม่จีรังยั่งยืน น่าจะเรียกได้ว่าเดินเกมผิดพลาดในการขอหย่ากับก้าวไกล จากที่คิดว่าจะมีมติศาลรัฐธรรมนูญออกในวันที่ 3 ส.ค. และเลือกนายกในวันที่ 4 ส.ค. เพื่อเดินเกมเร็วในการปิดโหวตนายก แต่แล้วทุกอย่างเริ่มส่งสัญญาณไม่สู้ดีกับเพื่อไทยเมื่อศาลรัฐธรรมนูญยังไม่วินิจฉัยกรณีโหวตนายกเป็นญัตติซ้ำ เกิดช่องว่างถึง 2 สัปดาห์ ทำให้สถานการณ์ในตอนนี้เพื่อไทยกลายเป็นฝั่งหลังพิงฝา เพราะไม่มีทางเลือกอื่นในการตั้งรัฐบาลนอกจากต้องจับมือกับขั้วรัฐบาลเดิม ทำให้ตอนนี้จากเดิมที่เพื่อไทยต่อรองได้ทุกอย่าง แถมยังมีการกลับบ้านของทักษิณเป็นตัวประกันอีก กลับกลายเป็นพรรคขั้วรัฐบาลเดิมกุมความได้เปรียบไว้อย่างมากจนตอนนี้พรรคขั้วรัฐบาลเดิมต่อรองเก้าอี้กันอุตลุต แถมยังมีเวลาต่อรองกันอีกตั้ง 2 สัปดาห์ แล้วพอทิ้งก้าวไกลปุ๊บ ฝั่งประชาธิปัตย์ที่ตอนแรกคุยกันไว้ว่าจะเสียง ส.ส. ส่วนใหญ่ในพรรคไว้แล้ว ก็เริ่มมีปัญหาภายในจากกลุ่มที่ไม่อยากให้ร่วมรัฐบาล ไม่รู้ว่าบทสรุปจะออกมายังไง ไอ้ครั้นจะไปจับมือกับ 2 พรรคลุงแทนก็สุ่มเสี่ยงเกินไป เพราะกระแสทางลบน่าจะหนักหนาเอาการ สิ่งที่เพื่อไทยแสดงออกชัดเจนที่สุดว่าการตั้งรัฐบาลมีปัญหา คือ การเลื่อนแถลงพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจริงๆ ถ้าการจับมือลุล่วงก็ไม่มีความจำเป็นต้องเลื่อนการแถลงอะไรเลย แต่นี่กลับเลื่อนไปด้วยแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จนถึงตอนนี้ผมฟันธงได้เลยว่าทักษิณเลื่อนการกลับมาประเทศไทยแน่นอน ไม่งั้นขั้วอำนาจเดิมจะยิ่งมีอำนาจต่อรองจากการจับทักษิณเพิ่มเข้าไปอีก