ตั้งความเพียรสม่ำเสมอเทียบเสียงพิณ3สาย สามารถเป็นพระอรหันต์ได้

กระทู้คำถาม
วามเพียรสม่ำเสมอเทียบเสียงพิณ

             พระผู้มีพระภาค ได้ตรัสถามท่านพระโสณะผู้นั่งเฝ้าอยู่ว่า ดูกรโสณะ เธอไปในที่สงัดหลีกเร้นอยู่ ได้มีความปรีวิตกแห่งจิตเกิดขึ้น อย่างนี้ว่า บรรดาพระ สาวกของพระผู้มีพระภาค ที่ปรารภความเพียรอยู่ เราก็เป็นรูปหนึ่ง แต่ไฉน จิตของเรา จึงยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายเพราะไม่ถือมั่นเล่า สมบัติในตระกูลของเรา ก็ยังมีอยู่ เราอาจบริโภคสมบัติและบำเพ็ญกุศลถ้ากระไร เราพึงสึกเป็นคฤหัสถ์ แล้วบริโภค สมบัติ และบำเพ็ญกุศล ดังนี้ มิใช่หรือ?
        ท่านพระโสณะทูลรับว่า อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า

        ภ. ดูกรโสณะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เมื่อครั้งเธอยังเป็นคฤหัสถ์ เธอฉลาดในเสียงสายพิณ มิใช่หรือ?

        โส. อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.

        ภ. ดูกรโสณะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คราวใดสายพิณของเธอ ตึงเกินไป คราวนั้นพิณของเธอมีเสียง หรือใช้การได้บ้างไหม?

        โส. หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระพุทธเจ้าข้า.

        ภ. ดูกรโสณะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน คราวใดสายพิณของเธอ หย่อนเกินไป คราวนั้นพิณของเธอมีเสียง หรือใช้การได้บ้างไหม?

        โส. หาเป็นเช่นนั้นไม่ พระพุทธเจ้าข้า.

        ภ. ดูกรโสณะ เธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน
 คราวใดสายพิณของเธอไม่ตึง นักไม่หย่อนนัก
 ตั้งอยู่ในคุณภาพสม่ำเสมอ คราวนั้น พิณของเธอมีเสียง หรือใช้การ ได้บ้างไหม?

        โส. เป็นอย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า.

        ภ. ดูกรโสณะ เหมือนกันนั่นแล 
ความเพียรที่ปรารภเกินไปนัก ย่อมเป็นไปเพื่อ ความฟุ้งซ่าน
 ความเพียรที่ย่อหย่อนนัก ก็เป็นไปเพื่อเกียจคร้าน เพราะเหตุนั้นแล 
เธอจงตั้งความเพียรแต่พอเหมาะ จงทราบข้อที่อินทรีย์ทั้งหลายเสมอกัน 
และจงถือ นิมิตในความสม่ำเสมอนั้น

 ท่านพระโสณะ ทูลรับสนองพระพุทธพจน์ว่า จะปฏิบัติตาม พระพุทธโอวาท อย่างนั้น พระพุทธเจ้าข้า 

        ครั้นพระผู้มีพระภาค ทรงสั่งสอนท่านพระโสณะ ด้วยพระโอวาท ข้อนี้แล้ว ทรงอันตธาน ที่ป่าสีตวันต่อหน้าท่านพระโสณะ แล้วมาปรากฏพระองค์ ณ คิชฌกูฏ บรรพต เปรียบเหมือนบุรุษมีกำลัง เหยียดแขนที่คู้ หรือคู้แขนที่เหยียด ฉะนั้น.

พระโสณะสำเร็จพระอรหัตผล

        ครั้นกาลต่อมา ท่านพระโสณะ ได้ตั้งความเพียรแต่พอเหมาะ ทราบข้อ ที่อินทรีย์ ทั้งหลายเสมอกัน และ
ได้ถือนิมิตในความสม่ำเสมอ ครั้นแล้วได้หลีกออก อยู่แต่ผู้เดียว ไม่ประมาทมีเพียร มีตนส่งไป ไม่นานเท่าไรนัก ได้ทำให้แจ้งซึ่งคุณ พิเศษ อันยอดเยี่ยม เป็นที่สุดพรหมจรรย์ ที่กุลบุตรทั้งหลายออกจากเรือน บวชเป็น บรรพชิต โดยชอบ ต้องประสงค์ ด้วยปัญญาอันยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบันนี้แหละ เข้าถึงอยู่แล้ว ได้รู้ชัดแล้วว่า ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์เราได้อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ได้ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นอีกเพื่อความเป็นอย่างนี้มิได้มี ก็แลบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลาย ท่านพระโสณะ ได้เป็นพระอรหันต์รูปหนึ่งแล้ว

คัดลอกจากเวป http://www.anakame.com/page/1_Sutas/1500/1558.htm
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่