วันอาสาฬหบูชา "วันพระสงฆ์"คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า

วันอาสาฬหบูชา เป็นวันที่ท่านโกณฑัญญะได้บรรลุธรรมสำเร็จพระโสดาบันเป็นพระอริยบุคคลคนแรก และได้รับประทานเอหิภิกขุอุปสมบทเป็นภิกษุองค์แรกในพระศาสนา และด้วยการที่ท่านเป็นพระอริยสงฆ์องค์แรกในโลกดังกล่าว พระรัตนตรัยจึงครบองค์สามบริบูรณ์เป็นครั้งแรกในโลก ด้วยเหตุนี้วันอาสาฬหบูชาจึงมีชื่อเรียกว่า "วันพระสงฆ์"
-----------------------------------------
ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐปุริสปุคคะลา, เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ,
ท่องจำมาตั้งแต่เด็ก    แปลว่า
ได้แก่ บุคคลเหล่านี้คือ คู่แห่งบุรุษ ๔ คู่ นับเรียงตัวบุรุษได้ ๘ บุรุษ นั่นแหละพระสงฆ์สาวกของพระผู้มีพระภาคเจ้า

-------------------------------------------------
อัฏฐปุคคลสูตรที่ ๑
             [๑๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้ เป็นผู้ควรของคำนับ
ฯลฯ เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ๘ จำพวกเป็นไฉน คือ
พระโสดาบัน ๑
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งโสดาปัตติผล ๑
พระสกทาคามี ๑
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งสกทาคามิผล ๑ พระอนาคามี ๑
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งอนาคามิผล ๑ พระอรหันต์ ๑
ท่านผู้ปฏิบัติเพื่ออรหัตตผล ๑
           ดูกรภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๘ จำพวกนี้แล เป็นผู้ควรของ
        คำนับ ฯลฯ เป็นนาบุญของโลก ไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า ฯ
                          บุคคลผู้ปฏิบัติ ๔ จำพวก ผู้ตั้งอยู่ในผล ๔ จำพวกนี้เป็นสงฆ์
                          ผู้ปฏิบัติตรง มีปัญญา มีศีล และจิตมั่นคง ย่อมกระทำบุญ
                          ของมนุษย์ผู้เพ่งบุญบูชาอยู่ให้มีผลมาก ทานที่ให้ในสงฆ์
                          ย่อมมีผลมาก ฯ
จบสูตรที่ ๙
             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  บรรทัดที่ ๖๑๓๐ - ๖๑๔๒.  หน้าที่  ๒๖๕.
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=6130&Z=6142&pagebreak=0

----------------------------------------------------

8 บุรุษ พระอริยะ คือ
1. บุคคลย่อมถวายทานในพระสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์
                           นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๓
                          2. บุคคลย่อมถวายทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งอรหัตตผล
                           นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๔
                          3. บุคคลย่อมถวายทานในพระอนาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก
                           ประการที่ ๕
                          4. บุคคลย่อมถวายทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งอนาคามิผล
                           นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๖
                          5. บุคคลย่อมถวายทานในพระสกทาคามี นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก
                           ประการที่ ๗
                          6. บุคคลย่อมถวายทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งสกทาคามิผล
                           นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๘
                          7. บุคคลย่อมถวายทานในพระโสดาบัน นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิก
                           ประการที่ ๙
                          8. บุคคลย่อมถวายทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำให้แจ้งโสดาปัตติผล
                           นี้เป็นทักษิณาปาฏิปุคคลิกประการที่ ๑๐

             อ้างอิงจาก เนื้อความพระไตรปิฎกฉบับมหาจุฬาฯ เล่มที่ ๑๔ หน้าที่ ๔๒๔-๔๓๒.
http://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=14&siri=42
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่