ใครที่กำลังอยู่บนเส้นทางของการสร้างผลลัพธ์แล้วยังไม่เกิดผลลัพธ์บ้างครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องของการสร้างผลลัพธ์มาตั้งแต่สมัยผมวัยรุ่น ผมจึงทำงานประจำ ควบคู่กับการทำธุรกิจ
การทำธุรกิจของผมตลอดช่วงการทำงานประจำเกือบ 20ปี ธุรกิจของผมไม่เคยแตะคำว่าสำเร็จ อย่างมากที่ผมได้จากธุรกิจ ก็คือรายได้เล็กๆน้อยๆตลอดมา
ในช่วงระหว่างการทำงานประจำพร้อมกับการทำธุรกิจ ผมศึกษาหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองหลากหลายแนวทาง หลากหลายรูปแบบ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมสามารถออกไปสร้างผลลัพธ์ที่ผมต้องการได้
ในช่วงหลังของการพัฒนาตัวเองของผม ผมได้เอาตัวเองไปอยู่ในโครงสร้างของแลนมาร์คฟอรั่ม เป็นเวลาเกือบ 7 ปี ที่นี่ถือเป็นสถานที่พัฒนาศักยภาพ พัฒนาตัวเองที่หนึ่งที่ทำให้ผมได้เห็นว่ามนุษย์มีความสามารถ ในการเป็นอะไรก็ได้ ที่มนุษย์ต้องการ แต่ที่นี่ก็ยังไม่สามารถทำให้ผมเติมเต็ม ผลลัพธ์ที่ผมต้องการได้ และตัวผมเองก็เกิดเบรคดาวน์ บริษัทจ้างผมออกตอนอายุ 40
ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเป็นแบบผมบ้างครับ หรือถ้าให้ลองมาอยู่ในรองเท้าของผมคุณจะรู้สึกยังไงบ้างครับ?
สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับตัวผมเลยก็คือประสบการณ์ ของความพ่ายแพ้และความหวังที่มันดูริหรี่ลงไปเรื่อยๆ จนผมได้มาเจอเพื่อนของผมที่เขาเป็นคนที่ศึกษาและเชี่ยวชาญเรื่อง Human Design หรือเรียกในภาษาไทยว่าการออกแบบมนุษย์
สิ่งที่ผมได้ข้อมูลจากเพื่อนของผม มันทำให้ผมกลับมาอ่านมันซ้ำถึง 2-3 ครั้ง เพราะประโยคเดียวกันนี้ ถูกคนรอบตัวพูดแบบเดียวกันหลายคน
“คุณจะเป็นคนที่ทำอะไรหลายอย่างในชีวิต และคนรอบตัวคุณจะมีมุมมองว่า ทำหลายอย่าง ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง”
จากจุดนี้ ผมจึงเริ่มมาศึกษาในเรื่องของโลกภายใน และจิตวิญญาณอย่างจริงจัง
ในช่วงแรกที่ผมเริ่มตั้งสติกับตัวเองให้ช้าลง สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจผม มันพยายามจะพุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว คล้ายๆกับการที่ตัวผมกำลังจะออกตัวรถแต่ลืมใส่เกียร์แล้วเหยียบคันเร่งรถยังไม่ออกแต่ใจผมนำหน้ารถไปแล้ว
ผมเริ่มสังเกตตัวเองแล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรากำลังจะต้องรีบไปไหนจากจุดนี้
จากนั้นผมจึงเริ่มเข้ามาศึกษาศิลปะของการไตร่ตรอง หนึ่งในเรื่องสำคัญก็คือศิลปะของการหยุด
การหยุดจะทำให้เราสร้างพื้นที่ภายในตัวเราให้เกิดขึ้น
เพื่อนเพื่อนลองจินตนาการจากการใช้ชีวิตของทุกคนดู สำหรับตัวผมสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นก็คือตัวผมสร้างตลอดเวลา เวลาสิ่งไหนไม่เกิดขึ้นผมจะตั้งคำถามว่าอะไรเป็นไปได้ แล้วผมก็จะลงมือทำมัน
ในการลงมือทำทั้งหมดนั้นทำให้ผมเห็นว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยให้พื้นที่กับตัวเองเลย สิ่งที่ผมเป็นคือผมใช้ชีวิตในโลกข้างนอกแบบที่ผมเร่งรีบ แล้วหลังจากการสร้างผมก็กลับมาใช้เวลาอยู่กับ Netflix หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพื่อหาโอกาสต่อๆไป
ผมสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในหัวผม มันมีไอเดียสิ่งที่ผมอยากทำสิ่งที่ผมอยากได้ตลอดเวลา และผมเห็นว่าสิ่งนี้ทำให้ผมไม่ได้สร้างพื้นที่กับตัวเองจากภายในเลย แต่สิ่งที่ผมเป็นผมพยายามพี่จะผลักทุกอย่างให้มันเกิดขึ้นจากการสร้างของผมเอง
ทั้งหมดที่ผมทำทำให้ผมเห็นว่าผมพยายามกับชีวิตมาก สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือมันไม่มีผลลัพธ์ ผมก็ยิ่งพยายามกับมันมากขึ้น มากกว่าที่จะกลับมานั่งพิจารณาไตร่ตรองให้ช่องว่างกับตัวเอง
หลังจากที่ผมได้เริ่มใช้ศิลปะของการหยุด มันเป็นวิธีที่เรียบง่ายใช้เวลาสั้นสั้น สำหรับผมในช่วงแรกผมใช้เวลาช่วงละ 3 นาทีวันนึงผมทำสามช่วงเวลา ขั้นตอนการทำคล้ายๆรูปแบบการทำสมาธิ ซึ่งคุณสามารถทำได้ทั้งหลับตาและลืมตาโดยให้พิจารณาที่ลมหายใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาสำหรับผมเลยหลังจากการลงมือทำไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ผมเริ่มเห็นความเป็นไปได้ที่มาจากความเป็นไปได้มากกว่าที่จะพยายามสร้างความเป็นไปได้
ผมเริ่มมีผลลัพธ์จากโลกภายนอกเกิดขึ้น โดยที่ตัวผมเองไม่ต้องที่จะพยายาม สิ่งสำคัญที่มันเกิดขึ้นกับตัวผมเลยก็คือตัวผมมีสติรับรู้กับการใช้ชีวิตประจำวัน ผมเริ่มเข้าถึงโครงสร้างบางอย่างในตัวที่ทำให้ผมมีจุดยืนกับการใช้ชีวิต โดยชัดเจนว่าไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างภายนอกเพื่อให้ความกลัวของผมหายไปเหมือนอดีตที่ผ่านมา
ที่สำคัญสำหรับผมสิ่งที่ผมได้จากการหยุดคือผมรู้ถึงจุดประสงค์ของการใช้ชีวิตของผม สิ่งนี้มันผุดขึ้นมาโดยที่ตัวผมไม่คาดคิด สิ่งที่ผมตั้งใจคือ
ผมต้องการสร้างสังคม ที่ผู้คนรู้จักว่าตัวเองเป็นใคร แล้วศักยภาพพี่พวกเขามีมีมากแค่ไหน ในอนาคตต่อไปสิ่งที่เป็นไปได้คือสังคมที่เป็นปัจเจกชน ผมต้องการเป็นใครคนหนึ่งที่ยืนหยัดให้กับสังคมแบบนี้ได้เกิดขึ้น
หากเพื่อนเพื่อนอ่านบทความนี้จบผมหวังว่าเพื่อนเพื่อนจะได้ประโยชน์และสามารถนำเอามุมมองที่ผมแบ่งปันไปใช้ในชีวิตได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนะครับ
ผมรักคุณทุกคน
ณชิตกวินพลอาสา
wealth.connect
พยายามมา 20 ปี กับศิลปะของการหยุด ที่ให้มากกว่าการเปลี่ยนแปลง มีใครที่เป็นแบบเดียวกันบ้างครับ
ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องของการสร้างผลลัพธ์มาตั้งแต่สมัยผมวัยรุ่น ผมจึงทำงานประจำ ควบคู่กับการทำธุรกิจ
การทำธุรกิจของผมตลอดช่วงการทำงานประจำเกือบ 20ปี ธุรกิจของผมไม่เคยแตะคำว่าสำเร็จ อย่างมากที่ผมได้จากธุรกิจ ก็คือรายได้เล็กๆน้อยๆตลอดมา
ในช่วงระหว่างการทำงานประจำพร้อมกับการทำธุรกิจ ผมศึกษาหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาตัวเองหลากหลายแนวทาง หลากหลายรูปแบบ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมสามารถออกไปสร้างผลลัพธ์ที่ผมต้องการได้
ในช่วงหลังของการพัฒนาตัวเองของผม ผมได้เอาตัวเองไปอยู่ในโครงสร้างของแลนมาร์คฟอรั่ม เป็นเวลาเกือบ 7 ปี ที่นี่ถือเป็นสถานที่พัฒนาศักยภาพ พัฒนาตัวเองที่หนึ่งที่ทำให้ผมได้เห็นว่ามนุษย์มีความสามารถ ในการเป็นอะไรก็ได้ ที่มนุษย์ต้องการ แต่ที่นี่ก็ยังไม่สามารถทำให้ผมเติมเต็ม ผลลัพธ์ที่ผมต้องการได้ และตัวผมเองก็เกิดเบรคดาวน์ บริษัทจ้างผมออกตอนอายุ 40
ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเป็นแบบผมบ้างครับ หรือถ้าให้ลองมาอยู่ในรองเท้าของผมคุณจะรู้สึกยังไงบ้างครับ?
สิ่งที่มันเกิดขึ้นกับตัวผมเลยก็คือประสบการณ์ ของความพ่ายแพ้และความหวังที่มันดูริหรี่ลงไปเรื่อยๆ จนผมได้มาเจอเพื่อนของผมที่เขาเป็นคนที่ศึกษาและเชี่ยวชาญเรื่อง Human Design หรือเรียกในภาษาไทยว่าการออกแบบมนุษย์
สิ่งที่ผมได้ข้อมูลจากเพื่อนของผม มันทำให้ผมกลับมาอ่านมันซ้ำถึง 2-3 ครั้ง เพราะประโยคเดียวกันนี้ ถูกคนรอบตัวพูดแบบเดียวกันหลายคน
“คุณจะเป็นคนที่ทำอะไรหลายอย่างในชีวิต และคนรอบตัวคุณจะมีมุมมองว่า ทำหลายอย่าง ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง”
จากจุดนี้ ผมจึงเริ่มมาศึกษาในเรื่องของโลกภายใน และจิตวิญญาณอย่างจริงจัง
ในช่วงแรกที่ผมเริ่มตั้งสติกับตัวเองให้ช้าลง สิ่งที่เกิดขึ้นกับใจผม มันพยายามจะพุ่งไปข้างหน้าอย่างเดียว คล้ายๆกับการที่ตัวผมกำลังจะออกตัวรถแต่ลืมใส่เกียร์แล้วเหยียบคันเร่งรถยังไม่ออกแต่ใจผมนำหน้ารถไปแล้ว
ผมเริ่มสังเกตตัวเองแล้วเริ่มตั้งคำถามกับตัวเองว่าเรากำลังจะต้องรีบไปไหนจากจุดนี้
จากนั้นผมจึงเริ่มเข้ามาศึกษาศิลปะของการไตร่ตรอง หนึ่งในเรื่องสำคัญก็คือศิลปะของการหยุด
การหยุดจะทำให้เราสร้างพื้นที่ภายในตัวเราให้เกิดขึ้น
เพื่อนเพื่อนลองจินตนาการจากการใช้ชีวิตของทุกคนดู สำหรับตัวผมสิ่งหนึ่งที่ผมเห็นก็คือตัวผมสร้างตลอดเวลา เวลาสิ่งไหนไม่เกิดขึ้นผมจะตั้งคำถามว่าอะไรเป็นไปได้ แล้วผมก็จะลงมือทำมัน
ในการลงมือทำทั้งหมดนั้นทำให้ผมเห็นว่าที่ผ่านมาผมไม่เคยให้พื้นที่กับตัวเองเลย สิ่งที่ผมเป็นคือผมใช้ชีวิตในโลกข้างนอกแบบที่ผมเร่งรีบ แล้วหลังจากการสร้างผมก็กลับมาใช้เวลาอยู่กับ Netflix หรือโซเชียลเน็ตเวิร์ค เพื่อหาโอกาสต่อๆไป
ผมสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ในหัวผม มันมีไอเดียสิ่งที่ผมอยากทำสิ่งที่ผมอยากได้ตลอดเวลา และผมเห็นว่าสิ่งนี้ทำให้ผมไม่ได้สร้างพื้นที่กับตัวเองจากภายในเลย แต่สิ่งที่ผมเป็นผมพยายามพี่จะผลักทุกอย่างให้มันเกิดขึ้นจากการสร้างของผมเอง
ทั้งหมดที่ผมทำทำให้ผมเห็นว่าผมพยายามกับชีวิตมาก สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือมันไม่มีผลลัพธ์ ผมก็ยิ่งพยายามกับมันมากขึ้น มากกว่าที่จะกลับมานั่งพิจารณาไตร่ตรองให้ช่องว่างกับตัวเอง
หลังจากที่ผมได้เริ่มใช้ศิลปะของการหยุด มันเป็นวิธีที่เรียบง่ายใช้เวลาสั้นสั้น สำหรับผมในช่วงแรกผมใช้เวลาช่วงละ 3 นาทีวันนึงผมทำสามช่วงเวลา ขั้นตอนการทำคล้ายๆรูปแบบการทำสมาธิ ซึ่งคุณสามารถทำได้ทั้งหลับตาและลืมตาโดยให้พิจารณาที่ลมหายใจ
สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาสำหรับผมเลยหลังจากการลงมือทำไปประมาณหนึ่งสัปดาห์ผมเริ่มเห็นความเป็นไปได้ที่มาจากความเป็นไปได้มากกว่าที่จะพยายามสร้างความเป็นไปได้
ผมเริ่มมีผลลัพธ์จากโลกภายนอกเกิดขึ้น โดยที่ตัวผมเองไม่ต้องที่จะพยายาม สิ่งสำคัญที่มันเกิดขึ้นกับตัวผมเลยก็คือตัวผมมีสติรับรู้กับการใช้ชีวิตประจำวัน ผมเริ่มเข้าถึงโครงสร้างบางอย่างในตัวที่ทำให้ผมมีจุดยืนกับการใช้ชีวิต โดยชัดเจนว่าไม่ต้องพึ่งพาโครงสร้างภายนอกเพื่อให้ความกลัวของผมหายไปเหมือนอดีตที่ผ่านมา
ที่สำคัญสำหรับผมสิ่งที่ผมได้จากการหยุดคือผมรู้ถึงจุดประสงค์ของการใช้ชีวิตของผม สิ่งนี้มันผุดขึ้นมาโดยที่ตัวผมไม่คาดคิด สิ่งที่ผมตั้งใจคือ
ผมต้องการสร้างสังคม ที่ผู้คนรู้จักว่าตัวเองเป็นใคร แล้วศักยภาพพี่พวกเขามีมีมากแค่ไหน ในอนาคตต่อไปสิ่งที่เป็นไปได้คือสังคมที่เป็นปัจเจกชน ผมต้องการเป็นใครคนหนึ่งที่ยืนหยัดให้กับสังคมแบบนี้ได้เกิดขึ้น
หากเพื่อนเพื่อนอ่านบทความนี้จบผมหวังว่าเพื่อนเพื่อนจะได้ประโยชน์และสามารถนำเอามุมมองที่ผมแบ่งปันไปใช้ในชีวิตได้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่งนะครับ
ผมรักคุณทุกคน
ณชิตกวินพลอาสา
wealth.connect