ตั้งรัฐบาลวุ่น! ‘พอล ภัทรพล’ ถามตรง ‘ประชาชน’ มีค่าแค่ตอนหาเสียง แค่นั้นหรือ?
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_4098369
ตั้งรัฐบาลวุ่น! ‘พอล ภัทรพล’ ถามตรง ‘ประชาชน’ มีค่าแค่ตอนหาเสียง แค่นั้นหรือ?
สถานการณ์การเมืองไทยยังคงเป็นที่น่าจับตา หลังก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งทางเพื่อไทยก็ยืนยันว่าไม่มีดีลลับ แต่จะพูดคุยกับทุกพรรค เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะไม่อยากประวิงเวลานั้น เช่นเดียวกับที่หลายพรรคยื่นคำขาดกับเพื่อไทยว่า จะจับมือกัน “ต้องไม่มีก้าวไกล” ขณะเดียวกัน มวลชนก็โต้แย้งแนวทางดังกล่าว และเสนอให้ทั้ง 8 พรรคร่วมฝั่งประชาธิปไตยจับมือให้แน่นจนกว่า ส.ว.จะหมดวาระ หมดอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น
พอล ภัทรพล นักแสดง นักธุรกิจ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว โดยส่งคำถามตรงๆ ไปถึงพรรคการเมืองว่า “ประชาชนมีค่ากับคุณแค่ตอนหาเสียง เท่านั้นเหรอ? #ประชาชนกินข้าว #จัดตั้งรัฐบาล2566 #เพื่อไทย #ก้าวไกล #โหวตนายกรอบ3 #8พรรคร่วม”
https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial/posts/pfbid02ek678V4CNhG7Bc5XcAoKQCSQttGowo1TUxUMYZnfwhAhWZfDoRQfwUtNAEgpxkRal
เพจดัง ถามคิดได้ไง! หลัง ครม.ประกาศวันหยุดเพิ่ม ชี้กระทบหมอ-ชีวิตคนไข้
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4098803
เพจดัง ถามคิดได้ไง! หลัง ครม.ประกาศวันหยุดเพิ่ม ชี้กระทบหมอ-ชีวิตคนไข้
หลังจากล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้วันที่ 31 กรกฎาคมเป็นวันหยุด ทำให้ข้าราชการได้หยุดยาว 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม-2 สิงหาคมนั้น
แม้หลายคนจะดีใจที่แต่หลายหน่วยงานอาจจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการทำงานใหม่ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จำนวนมาก
ล่าสุดเพจ “
หมอหนุ่ม” โพสต์ข้อความระบุ ว่า ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับการประกาศวันหยุดเพียง 6 วันก่อนที่จะถึงวันนั้น มันมีราคาที่ต้องจ่ายกับสิ่งนี้มากมายนะครับ ราคาที่ว่าไม่ใช่ราคาตัวเงินแต่มันเป็นราคาของชีวิตคนไข้ และราคาของชีวิตคนทำงานครับ
1.ผมมีนัดคนไข้ผ่าตัดไว้เรียบร้อยแล้วในวันที่ 31 และคนไข้เหล่านี้คือคนไข้มะเร็งที่ผมนัดผ่าตัดมาเดือนกว่าและตอนนี้คิวผ่าตัดมะเร็งผมอยู่ที่เดือนกว่าๆ นั่นหมายความว่าถ้าวันจันทร์นี้ผมผ่าตัดไม่ได้ผมก็ต้องเลื่อนการผ่าตัดไปอีกเดือนกว่า เพราะผมไม่สามารถเอาคนไข้คนนี้ไปแทรกคนไข้คนอื่นที่นัดผ่าตัดไว้แล้วได้ มันส่งผลเสียต่อคนไข้และระบบการนัดคนไข้อย่างมากนะครับ
ไม่รวมคนไข้โรคธรรมดาที่วันนั้นผมก็นัดผ่าตัดเช่นกัน ซึ่งก็นัดไว้ตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว เพราะคิวผมอยู่ที่ 3 เดือนโดยประมาณ ดังนั้นถ้าวันจันทร์นี้ผ่าตัดไม่ได้ ผมก็ต้องเลื่อนเขาออกไปอีก 3 เดือน นั่นคือเขาจะได้ผ่าตัดอีกทีเดือนตุลาคม เพราะจากนี้ถึงตุลาคม ผมก็มีคนไข้อยู่เต็มตารางอยู่แล้ว คุณไม่คิดถึงผลกระทบกันเลยครับ คิดจะหยุดก็หยุด แล้วมันจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือเปล่า
2.คราวนี้ความลำบากก็จะอยู่ที่ห้องฉุกเฉินแน่นอนครับ เพราะแค่วันธรรมดานอกเวลาราชการก็จะมีคนไข้ที่ไม่ฉุกเฉิน แต่มาฉุกเฉินมากพออยู่แล้ว คราวนี้มันก็จะมีคนไข้ที่ยาหมดที่วันนัดวันนั้นพอดี คนไข้ที่นัดไว้วันนั้น แต่ติดต่อเลื่อนนัดไม่ได้และก็มาโรงพยาบาลวันนั้นแล้ว เขาก็ต้องหาทางเพื่อจะได้รับการรักษา และห้องฉุกเฉินก็คือช่องทางนั้นครับ เว้นเสียแต่โรงพยาบาลสร้างช่องทางเพิ่มเพื่อ “วิกฤต” ในครั้งนี้ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่อีกเช่นกัน เพราะเจ้าหน้าที่ก็คนหนึ่งคนเหมือนกันเขาก็วางแผนชีวิตของเขาไว้เช่นกัน
3.ตอนนี้ผมเชื่อว่าคนที่หัวหมุนมากที่สุด คือคนที่โทรประสานงานเพื่อเลื่อนนัดคนไข้ครับ มันไม่ใช่คนไข้จำนวนน้อยๆนะครับ มันเป็นคนไข้นัดหลายร้อยคนในหนึ่งโรงพยาบาลและโรงพยาบาลในประเทศไทยก็มีเป็นพันโรงพยาบาล มันส่งผลกระทบมากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยละครับ
4.คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนไข้ครับ คนไข้ที่ต้องถูกเลื่อนผ่าตัด ก็ต้องได้รับการรักษาที่ช้ากว่าเดิน คนไข้ที่อยู่ในบ้านอยู่ในชนบทห่างไกลเมือง บางครั้งก็ติดต่อเขาไม่ได้ และเขาก็ต้องเหมารถมาเป็นเงินหลายพันบาท เพื่อมาพบว่า เขาไม่สามารถได้รับการตรวจกับหมอ เพราะวันนั้นเป็นวันหยุด คนไข้กลุ่มนี้มีอยู่จริงนะครับ แม้คุณจะบอกว่าเทคโนโลยีการสื่อสาร และข่าวคราวตามสื่อก็ออกข่าวเรื่องนี้มากมายแต่เขาก็ไม่รู้เรื่องนี้ครับ และก็จะมาโรงพยาบาลตามนัดหมายอยู่ดี อย่าคิดแต่จะสั่งให้หยุดก็หยุดครับ มันมีราคาที่ต้องจ่ายอีกมากมายครับ อาจจะมากมายกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของคุณอีก
คิดได้ไง!
นอกจากนี้
ไม่ใช่หมอบ่น-aggressivenotdoctor โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า
“เอาจริงๆไม่เห็นด้วยกับการประกาศ วันหยุดกะทันหันในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ทำให้ รพ. ไม่สามารถเคลียร์นัดและคิวผ่าตัดได้ทัน”
https://www.facebook.com/youngsurgeon35/posts/pfbid02kM6fnrnb3QrD2MuiogphV96pdUidkj7CQdWEtPkkXHT82fMaa2SU2jFyFaAZaXaWl
https://www.facebook.com/AggressiveNotDoctor/posts/pfbid02iNRmr4KEFf5GedTjJEnrbb6CfPaKnTVSM46AR221ZMUCvzYA61wSf59cq6ac43dcl
ก้าวไกล เตรียมยื่นวาระหารือ ปธ.สภา ทบทวนมติ ชงชื่อ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ซ้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4098921
ก้าวไกล เตรียมยื่นวาระหารือ ปธ.สภา ทบทวนมติ ชงชื่อ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ซ้ำ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ นาย
รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุม ส.ส.พรรค ก.ก. วันนี้จริงๆ แล้วต้องนำไปสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสภา แต่เมื่อได้มีการประกาศงดการประชุมสภาแล้วนั้น ทำให้ไม่สามารถพิจารณาวาระใดๆ ได้เลย พรรค ก.ก. จึงได้มีการถกเถียงกันในประเด็นต่างๆ และมีมติที่เกี่ยวพันกับการดำเนินของพรรค ก.ก. ในสภาต่อไป ประการแรก เดิมทีในวาระประชุม มีวาระหลักๆ อยู่ 2 วาระ คือวาระในการเลือกนายกรัฐมนตรี และการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. หากไปดูกรณีที่ทุกฝ่ายพูดตรงกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วน เป็นปัญหาที่ไม่สามารถรอคอยได้ พี่น้องประชาชนต้องการให้มีผู้นำในการแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นว่ามีการงดการประชุม ซึ่งทำให้การพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีล่าช้าออกไป และเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เป็นโอกาสที่เราจะได้พูดคุยและหาทางออก
นาย
รังสิมันต์กล่าวว่า ประการที่สอง ถึงแม้จะมีการอ้างในกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีการตีความข้อบังคับที่ประชุม ข้อที่ 41 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น แต่ในวาระการประชุมรัฐสภาไม่ได้มีวาระเพียงแค่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเหตุใด ทำไมถึงไม่เอาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่พรรค ก.ก.ต้องการจะยกเลิก หยิบขึ้นมาพิจารณา เราไม่จำเป็นต้องปล่อยเวลาเอาไว้เฉยๆ สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ แล้วก็หาทางออกให้กับ ส.ว.ที่ต้องการปิดสวิตช์ตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะได้เดินหน้าออกจากความขัดแย้งที่เรื้อรัง เป็นชนักติดหลังทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้
ประการที่สาม การที่เรารอคอยว่าสุดท้ายแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรต่อไป ทำให้การพิจารณาเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรี อยู่บนความไม่แน่นอน เพราะสุดท้ายเราไม่มีทางรู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร ซึ่งส่งผลให้การเลือกนายกรัฐมนตรีช้าออกไป โดยที่สภาไม่สามารถหาทางออกให้กับสังคมได้ พรรคก้าวไกลเราเชื่อมั่นในการทำงานของสภา และในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ควรจะเป็นครั้งที่ 2 ในการเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายรัฐสภามีมติตามขัอบังคับที่ 41 ประกอบข้อ 151 ว่าการจะเสนอชื่อนายพิธาซ้ำไม่สามารถทำได้
“
วันนี้ทุกฝ่ายกระจ่างอย่างชัดเจนว่าการตีความเหล่านั้นไม่ถูกต้อง ดังที่ปรากฏหน้าสื่อ แต่ก็มีสังคมบางส่วนที่บอกกับพรรคก้าวไกล ว่า เราควรจะร้องศาลรัฐธรรมนูญ เรียนตามตรง เราไม่อยากเห็นการเข้ามาแทรกแซงอำนาจของรัฐสภาด้วยศาลรัฐธรรมนูญอีกแล้ว พรรคก้าวไกลมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราสามารถจัดการกันเองได้ในสภา” นาย
รังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เห็นว่า การตีความข้อบังคับดังกล่าวเป็นการตีความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พรรค ก.ก. จึงเสนอทางออกให้สังคมเพื่อฝ่าด่านนี้ หากเราพิจารณาข้อบังคับการประชุมในข้อต่างๆ เราสามารถยื่นญัตติขอให้สภาทบทวน
ดังนั้น ในการประชุมครั้งต่อไป เราจะหารือกับประธานรัฐสภา และยื่นญัตติต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาทบทวน ซึ่งหากสภาเห็นด้วยกับข้อเสนอจะทำให้การเสนอนายกรัฐมนตรีไม่ต้องผูกพันกับข้อมติเดิมอีกต่อไป ทำให้สามารถเสนอบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซ้ำได้
JJNY : ‘พอล ภัทรพล’ ถามตรง│เพจดัง ถามคิดได้ไง!│ก้าวไกล เตรียมยื่นวาระหารือ ปธ.สภา│‘บิ๊กแสนสิริ’ หวังตั้งรัฐบาลได้เร็ว
https://www.matichon.co.th/entertainment/news_4098369
ตั้งรัฐบาลวุ่น! ‘พอล ภัทรพล’ ถามตรง ‘ประชาชน’ มีค่าแค่ตอนหาเสียง แค่นั้นหรือ?
สถานการณ์การเมืองไทยยังคงเป็นที่น่าจับตา หลังก้าวไกลส่งไม้ต่อให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งทางเพื่อไทยก็ยืนยันว่าไม่มีดีลลับ แต่จะพูดคุยกับทุกพรรค เพื่อเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ เพราะไม่อยากประวิงเวลานั้น เช่นเดียวกับที่หลายพรรคยื่นคำขาดกับเพื่อไทยว่า จะจับมือกัน “ต้องไม่มีก้าวไกล” ขณะเดียวกัน มวลชนก็โต้แย้งแนวทางดังกล่าว และเสนอให้ทั้ง 8 พรรคร่วมฝั่งประชาธิปไตยจับมือให้แน่นจนกว่า ส.ว.จะหมดวาระ หมดอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น
พอล ภัทรพล นักแสดง นักธุรกิจ ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อประเด็นดังกล่าว โดยส่งคำถามตรงๆ ไปถึงพรรคการเมืองว่า “ประชาชนมีค่ากับคุณแค่ตอนหาเสียง เท่านั้นเหรอ? #ประชาชนกินข้าว #จัดตั้งรัฐบาล2566 #เพื่อไทย #ก้าวไกล #โหวตนายกรอบ3 #8พรรคร่วม”
https://www.facebook.com/paulpattaraponofficial/posts/pfbid02ek678V4CNhG7Bc5XcAoKQCSQttGowo1TUxUMYZnfwhAhWZfDoRQfwUtNAEgpxkRal
เพจดัง ถามคิดได้ไง! หลัง ครม.ประกาศวันหยุดเพิ่ม ชี้กระทบหมอ-ชีวิตคนไข้
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_4098803
เพจดัง ถามคิดได้ไง! หลัง ครม.ประกาศวันหยุดเพิ่ม ชี้กระทบหมอ-ชีวิตคนไข้
หลังจากล่าสุด คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้วันที่ 31 กรกฎาคมเป็นวันหยุด ทำให้ข้าราชการได้หยุดยาว 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม-2 สิงหาคมนั้น
แม้หลายคนจะดีใจที่แต่หลายหน่วยงานอาจจะต้องปรับเปลี่ยนแผนการทำงานใหม่ จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์จำนวนมาก
ล่าสุดเพจ “หมอหนุ่ม” โพสต์ข้อความระบุ ว่า ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง กับการประกาศวันหยุดเพียง 6 วันก่อนที่จะถึงวันนั้น มันมีราคาที่ต้องจ่ายกับสิ่งนี้มากมายนะครับ ราคาที่ว่าไม่ใช่ราคาตัวเงินแต่มันเป็นราคาของชีวิตคนไข้ และราคาของชีวิตคนทำงานครับ
1.ผมมีนัดคนไข้ผ่าตัดไว้เรียบร้อยแล้วในวันที่ 31 และคนไข้เหล่านี้คือคนไข้มะเร็งที่ผมนัดผ่าตัดมาเดือนกว่าและตอนนี้คิวผ่าตัดมะเร็งผมอยู่ที่เดือนกว่าๆ นั่นหมายความว่าถ้าวันจันทร์นี้ผมผ่าตัดไม่ได้ผมก็ต้องเลื่อนการผ่าตัดไปอีกเดือนกว่า เพราะผมไม่สามารถเอาคนไข้คนนี้ไปแทรกคนไข้คนอื่นที่นัดผ่าตัดไว้แล้วได้ มันส่งผลเสียต่อคนไข้และระบบการนัดคนไข้อย่างมากนะครับ
ไม่รวมคนไข้โรคธรรมดาที่วันนั้นผมก็นัดผ่าตัดเช่นกัน ซึ่งก็นัดไว้ตั้งแต่ 3 เดือนที่แล้ว เพราะคิวผมอยู่ที่ 3 เดือนโดยประมาณ ดังนั้นถ้าวันจันทร์นี้ผ่าตัดไม่ได้ ผมก็ต้องเลื่อนเขาออกไปอีก 3 เดือน นั่นคือเขาจะได้ผ่าตัดอีกทีเดือนตุลาคม เพราะจากนี้ถึงตุลาคม ผมก็มีคนไข้อยู่เต็มตารางอยู่แล้ว คุณไม่คิดถึงผลกระทบกันเลยครับ คิดจะหยุดก็หยุด แล้วมันจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงหรือเปล่า
2.คราวนี้ความลำบากก็จะอยู่ที่ห้องฉุกเฉินแน่นอนครับ เพราะแค่วันธรรมดานอกเวลาราชการก็จะมีคนไข้ที่ไม่ฉุกเฉิน แต่มาฉุกเฉินมากพออยู่แล้ว คราวนี้มันก็จะมีคนไข้ที่ยาหมดที่วันนัดวันนั้นพอดี คนไข้ที่นัดไว้วันนั้น แต่ติดต่อเลื่อนนัดไม่ได้และก็มาโรงพยาบาลวันนั้นแล้ว เขาก็ต้องหาทางเพื่อจะได้รับการรักษา และห้องฉุกเฉินก็คือช่องทางนั้นครับ เว้นเสียแต่โรงพยาบาลสร้างช่องทางเพิ่มเพื่อ “วิกฤต” ในครั้งนี้ ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่อีกเช่นกัน เพราะเจ้าหน้าที่ก็คนหนึ่งคนเหมือนกันเขาก็วางแผนชีวิตของเขาไว้เช่นกัน
3.ตอนนี้ผมเชื่อว่าคนที่หัวหมุนมากที่สุด คือคนที่โทรประสานงานเพื่อเลื่อนนัดคนไข้ครับ มันไม่ใช่คนไข้จำนวนน้อยๆนะครับ มันเป็นคนไข้นัดหลายร้อยคนในหนึ่งโรงพยาบาลและโรงพยาบาลในประเทศไทยก็มีเป็นพันโรงพยาบาล มันส่งผลกระทบมากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลยละครับ
4.คนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือคนไข้ครับ คนไข้ที่ต้องถูกเลื่อนผ่าตัด ก็ต้องได้รับการรักษาที่ช้ากว่าเดิน คนไข้ที่อยู่ในบ้านอยู่ในชนบทห่างไกลเมือง บางครั้งก็ติดต่อเขาไม่ได้ และเขาก็ต้องเหมารถมาเป็นเงินหลายพันบาท เพื่อมาพบว่า เขาไม่สามารถได้รับการตรวจกับหมอ เพราะวันนั้นเป็นวันหยุด คนไข้กลุ่มนี้มีอยู่จริงนะครับ แม้คุณจะบอกว่าเทคโนโลยีการสื่อสาร และข่าวคราวตามสื่อก็ออกข่าวเรื่องนี้มากมายแต่เขาก็ไม่รู้เรื่องนี้ครับ และก็จะมาโรงพยาบาลตามนัดหมายอยู่ดี อย่าคิดแต่จะสั่งให้หยุดก็หยุดครับ มันมีราคาที่ต้องจ่ายอีกมากมายครับ อาจจะมากมายกว่าการกระตุ้นเศรษฐกิจของคุณอีก
คิดได้ไง!
นอกจากนี้ ไม่ใช่หมอบ่น-aggressivenotdoctor โพสต์ภาพและข้อความระบุว่า
“เอาจริงๆไม่เห็นด้วยกับการประกาศ วันหยุดกะทันหันในเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ทำให้ รพ. ไม่สามารถเคลียร์นัดและคิวผ่าตัดได้ทัน”
https://www.facebook.com/youngsurgeon35/posts/pfbid02kM6fnrnb3QrD2MuiogphV96pdUidkj7CQdWEtPkkXHT82fMaa2SU2jFyFaAZaXaWl
https://www.facebook.com/AggressiveNotDoctor/posts/pfbid02iNRmr4KEFf5GedTjJEnrbb6CfPaKnTVSM46AR221ZMUCvzYA61wSf59cq6ac43dcl
ก้าวไกล เตรียมยื่นวาระหารือ ปธ.สภา ทบทวนมติ ชงชื่อ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ซ้ำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4098921
ก้าวไกล เตรียมยื่นวาระหารือ ปธ.สภา ทบทวนมติ ชงชื่อ ‘พิธา’ นั่งนายกฯ ซ้ำ
เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่อาคารไทยซัมมิท ทาวเวอร์ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ในการประชุม ส.ส.พรรค ก.ก. วันนี้จริงๆ แล้วต้องนำไปสู่การเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสภา แต่เมื่อได้มีการประกาศงดการประชุมสภาแล้วนั้น ทำให้ไม่สามารถพิจารณาวาระใดๆ ได้เลย พรรค ก.ก. จึงได้มีการถกเถียงกันในประเด็นต่างๆ และมีมติที่เกี่ยวพันกับการดำเนินของพรรค ก.ก. ในสภาต่อไป ประการแรก เดิมทีในวาระประชุม มีวาระหลักๆ อยู่ 2 วาระ คือวาระในการเลือกนายกรัฐมนตรี และการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. หากไปดูกรณีที่ทุกฝ่ายพูดตรงกันว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเลือกนายกรัฐมนตรีอย่างเร่งด่วน เป็นปัญหาที่ไม่สามารถรอคอยได้ พี่น้องประชาชนต้องการให้มีผู้นำในการแก้ไขปัญหา แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับกลายเป็นว่ามีการงดการประชุม ซึ่งทำให้การพิจารณาเลือกนายกรัฐมนตรีล่าช้าออกไป และเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เป็นโอกาสที่เราจะได้พูดคุยและหาทางออก
นายรังสิมันต์กล่าวว่า ประการที่สอง ถึงแม้จะมีการอ้างในกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีการตีความข้อบังคับที่ประชุม ข้อที่ 41 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้น แต่ในวาระการประชุมรัฐสภาไม่ได้มีวาระเพียงแค่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเหตุใด ทำไมถึงไม่เอาวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่พรรค ก.ก.ต้องการจะยกเลิก หยิบขึ้นมาพิจารณา เราไม่จำเป็นต้องปล่อยเวลาเอาไว้เฉยๆ สามารถพิจารณาเรื่องนี้ได้ แล้วก็หาทางออกให้กับ ส.ว.ที่ต้องการปิดสวิตช์ตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่เราจะได้เดินหน้าออกจากความขัดแย้งที่เรื้อรัง เป็นชนักติดหลังทำให้ประเทศเดินต่อไปไม่ได้
ประการที่สาม การที่เรารอคอยว่าสุดท้ายแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยอย่างไรต่อไป ทำให้การพิจารณาเรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรี อยู่บนความไม่แน่นอน เพราะสุดท้ายเราไม่มีทางรู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร ซึ่งส่งผลให้การเลือกนายกรัฐมนตรีช้าออกไป โดยที่สภาไม่สามารถหาทางออกให้กับสังคมได้ พรรคก้าวไกลเราเชื่อมั่นในการทำงานของสภา และในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่ควรจะเป็นครั้งที่ 2 ในการเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายรัฐสภามีมติตามขัอบังคับที่ 41 ประกอบข้อ 151 ว่าการจะเสนอชื่อนายพิธาซ้ำไม่สามารถทำได้
“วันนี้ทุกฝ่ายกระจ่างอย่างชัดเจนว่าการตีความเหล่านั้นไม่ถูกต้อง ดังที่ปรากฏหน้าสื่อ แต่ก็มีสังคมบางส่วนที่บอกกับพรรคก้าวไกล ว่า เราควรจะร้องศาลรัฐธรรมนูญ เรียนตามตรง เราไม่อยากเห็นการเข้ามาแทรกแซงอำนาจของรัฐสภาด้วยศาลรัฐธรรมนูญอีกแล้ว พรรคก้าวไกลมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราสามารถจัดการกันเองได้ในสภา” นายรังสิมันต์กล่าว
นายรังสิมันต์กล่าวอีกว่า วันนี้ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เห็นว่า การตีความข้อบังคับดังกล่าวเป็นการตีความที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พรรค ก.ก. จึงเสนอทางออกให้สังคมเพื่อฝ่าด่านนี้ หากเราพิจารณาข้อบังคับการประชุมในข้อต่างๆ เราสามารถยื่นญัตติขอให้สภาทบทวน
ดังนั้น ในการประชุมครั้งต่อไป เราจะหารือกับประธานรัฐสภา และยื่นญัตติต่อรัฐสภา เพื่อพิจารณาทบทวน ซึ่งหากสภาเห็นด้วยกับข้อเสนอจะทำให้การเสนอนายกรัฐมนตรีไม่ต้องผูกพันกับข้อมติเดิมอีกต่อไป ทำให้สามารถเสนอบุคคลที่สมควรดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีซ้ำได้