





ทริปนี้เกิดจากคนเรื่องมากคนหนึ่ง มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะไปเสพธรรมชาติที่สวยงามของภูเขา Alps อย่างใกล้ชิด คนคนนั้นคือผมเองครับ
ผมมีอาการคล้ายคนติดยาครับ พอเสพไปสักระยะ เริ่มชิน อยากได้ยาที่แรงขึ้น หรือลองของใหม่ เรื่องเที่ยวของผมอาการประมาณนี้เลยครับ
พอเที่ยวแบบเดิมๆไปสักระยะ เริ่มเกิดความชิน อยากเห็นอะไรมากกว่าเดิม อยากได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่จะทำให้หัวใจกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง (นี่เรื่องความรักหรือเรื่องเที่ยวนี่)
ผมคุ้นเคยกับการท่องเที่ยวธรรมชาติแบบขับรถเที่ยวเองแล้วพักที่พัก "ปกติ" เช่น โรงแรม, Apartment หรือ airbnb ส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ผมมีปัญหากับตัวเองครับ... พอถึงจุดนึงแล้ว เรา "ไม่พอ" มีความรู้สึกติดค้าง อยากใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่านี้ มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าได้เดินไกลกว่านี้ ถ้าเดินขึ้นไปแล้วนอนบนนั้นเลย รสชาติจะประมาณไหน วิวจะสวยกว่ามั้ย... ครั้งนี้ เมื่อมีโอกาส จึงขอทำให้ตัวเองหายสงสัยโดยการลองเปลี่ยนมาพักที่พักแบบ "ไม่ปกติ" บ้าง ที่พักแบบที่ว่านี้ จะเรียก "กระท่อมบนเขา" "บ้านป่าไม้" "Refuge" "Mountain Huts" ก็คงจะไม่ผิดมาก แต่ในบทความนี้ผมขออนุญาตเรียกว่าโรงแรมละกันนะครับ
โรงแรมพิเศษเหล่านี้ มีสิ่งที่คล้ายกัน คือ
1. อยู่บนเขา บางที่เดินไกล บางที่เดินใกล้ แต่ต้องเดินไป เพราะสร้างมาเพื่อเป็นที่พักของนักเดินป่าปีนเขา
2. ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว มีแต่ห้องน้ำรวมใช้ร่วมกับแขกอื่น
3. บางที่มีแต่ห้องนอนรวมเหมือนค่ายทหาร แต่ที่ผมคัดมา 5 ที่นี้ มีห้องส่วนตัวทุกที่ครับ
4. มีอาหารเช้าและเย็นให้บริการ รวมอยู่ในราคาห้องพักแล้ว อาหารเย็นนี่ทีเด็ดครับ ลุ้นทุกเย็นว่าจะเสิร์ฟอะไร Omakase ครับผม
5. ส่วนใหญ่รับเฉพาะเงินสด Trip นี้ rate ต่ำสุด 1 คืนรวมอาหารเช้าเย็น 2 คน 170 Euro (ประมาณ 6,500 บาท) สูงสุด 220 CHF (ประมาณ 8,500 บาท)
6. ต้องจองกับโรงแรมโดยตรง (โทร / อีเมล / บางแห่งมีให้จองผ่านเว็บโรงแรม)
หลังจากที่คุยกับตัวเองรู้เรื่องและทำการบ้านอยู่นาน สรุปออกมาเป็น 5 โรงแรมที่จะไป โดยมีปัจจัยหลักในการเลือกคือระยะทางและความสูงสะสม
เนื่องจากกลุ่มผมที่ไป ร่างกายไม่ได้ฟิตมาก จึงเลือกที่คิดว่าพอเดินไหว เดินขานึงไม่เกิน 6-7 กม. ความสูงสะสม (Elevation Gain) ไม่เกิน 800 ม. ใช้เวลาในการเดินรวมหยุดถ่ายรูป บินโดรน พักเหนื่อย ไม่เกิน 5 ชั่วโมงครับ
อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ เวลา... ช่วงที่ไปคือต้น มิ.ย. โรงแรมเหล่านี้ยังไม่ได้เปิด 100% พวกที่อยู่สูงๆหลายที่ยังไม่เปิดเพราะทางเดินยังถูกปกคลุมด้วยหิมะ แม้จะมีตัวเลือกน้อยลง แต่สำหรับผม นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะ
1. อากาศไม่ร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 10-20 องศา ทั้งวัน
2. ว่าด้วยเรื่องความสวยงาม ดอกไม้กำลังออกสวย หญ้าเขียว แต่ยอดเขายังมีหิมะ ถ่ายรูปสวย (เว้นแต่อยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสี คงต้องเป็น ต.ค. ครับ)
3. จำนวนนักท่องเที่ยวในหลายๆที่แม้จะมากกว่าเดือน เม.ย. ที่เป็นช่วง Off Season แต่ยังพอรับได้ ไม่พลุกพล่านมากเหมือนกลาง Summer (ก.ค.-ก.ย.) การท่องเที่ยวจึงยังได้รับความสะดวกสบายบ้างพอสมควร ไม่ถึงกับแย่งกันกินแย่งกันอยู่
4. ถามว่าไปเร็วกว่านี้ได้มั้ย เช่น พ.ค. คำตอบคือได้ครับ ภูมิทัศน์น่าจะสวยใกล้เคียงกัน แต่โรงแรมแนวนี้ส่วนใหญ่จะยังไม่เปิดให้บริการ และยิ่งไปเร็ว โอกาสในการเดินเข้าถึงที่สูงๆก็จะยิ่งน้อยลงเพราะหิมะยังไม่ละลาย เว้นแต่คุณมีรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะและไม่กลัวหิมะครับ

เกริ่นมาพอสมควร ขออนุญาตเข้าเรื่องโรงแรมครับ
2 ที่แรกที่จะพูดถึง เป็น 2 โรงแรมลับท้ายหุบเขา Lauterbrunnen
1. Berggasthaus Tschingelhorn, Lauterbrunnen, Switzerland :
https://tschingelhorn.ch/
2. Hotel Obersteinberg, Lauterbrunnen, Switzerland :
https://goo.gl/maps/s1YrwbxmyqXYouiU9

(ภาพ Lauterbrunnen จาก Wikipedia)
หากพูดถึง Switzerland น่าจะมีภาพของหุบเขา Lauterbrunnen แว้บขึ้นมาบ้าง เพราะหุบเขานี้เป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หมู่บ้าน Wengen, Murren, Gimmelwald และ Jungfraujoch แต่ลึกเข้าไปในหุบเขานี้ ที่ที่รถทัวร์-รถไฟ-รถกระเช้าเข้าไม่ถึง คือสวรรค์ของนักเดินป่าปีนเขา มีโรงแรมยุค 1800 เปิดให้บริการอยู่ 2 โรงแรม ทั้ง 2 โรงแรมนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านใดๆ แต่เป็น Stand Alone ตั้งอยู่เกือบท้ายสุดของหุบเขา สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้น เส้นทางที่สั้นที่สุดคือเดินจากป้ายรถเมล์ Stechelberg ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายขึ้นเขาไป ประมาณ 3 ชั่วโมง

Berggasthaus Tschingelhorn

Hotel Obersteinberg
2 ที่นี้อยู่ห่างกันแค่ 15 นาที แต่ละที่ต่างก็มีจุดขาย จุดเด่นคนละอย่าง ผมนอนที่ละ 1 คืน พอจะสรุปความจากรสนิยมตัวเองได้ว่า
1. Berggasthaus Tschingelhorn มี Facility ทุกอย่างครบ แต่ความสวยและความ Classic อาจจะยังไม่เท่าอีกที่ ส่วน
2. Hotel Obersteinberg จุดเด่นคือ
ไม่มีไฟฟ้า กลางคืนใช้เทียน,
ไม่มี Shower ไม่ต้องอาบน้ำ แต่ความเรียบง่ายและความไม่มีอะไรนี้กลับเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้คนอยากมาสัมผัส ถึงกระนั้นก็ตาม ถ้าแบตหมด ไม่มีที่ให้ชาร์จก็อยู่ต่อไม่ได้เหมือนกันนะครับ ดังนั้นถ้ามีโอกาสกลับมาซ้ำ คงขอนอนทั้ง 2 ที่เหมือนเดิมครับ
3. การเดินไปโรงแรมก็คือการท่องเที่ยวไปในตัวแล้ว ตัวโรงแรมเองก็คือสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้หากมีแรง มีเวลา ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆที่เริ่มเดินจากโรงแรมไปได้อีก เช่น Oberhornsee, Tanzbodeli ซึ่งผมไม่มีเวลาและแรงพอที่จะเก็บหมดครับ หากท่านใดไปก็อย่าลืมนำมาแบ่งปันนะครับ

ด้านล่างเป็นภาพบางส่วนจากการเดินทางครับ
ถึง Lauterbrunnen เกือบ 5 โมง ฝนตก


จอดรถที่ Stechelberg แล้วเริ่มเดิน





หันหลังกลับไปมอง Lauterbrunnen



Schmadribachfall



ป้ายบอก Tschingelhorn 1 ชั่วโมง เดินจริงประมาณ 2 ชั่วโมง จากจุดนี้ทางเริ่มเป็นบันไดชันๆในป่า กว่าจะหลุดช่วงนี้เกือบชั่วโมง

ออกมาจากป่ายังคงมีบันไดชันๆ แต่วิวเปิด มีอะไรให้มองแก้เครียด





ถึงโรงแรมราวๆ 2 ทุ่ม ใช้เวลาในการเดิน 3 ชั่วโมงกว่าครับ





จากระเบียง

จาก Berggasthaus Tschingelhorn ไป Obersteinberg เดิน 15 นาที

















[CR] 5 Mountain Huts in the Alps
ทริปนี้เกิดจากคนเรื่องมากคนหนึ่ง มีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะไปเสพธรรมชาติที่สวยงามของภูเขา Alps อย่างใกล้ชิด คนคนนั้นคือผมเองครับ
ผมมีอาการคล้ายคนติดยาครับ พอเสพไปสักระยะ เริ่มชิน อยากได้ยาที่แรงขึ้น หรือลองของใหม่ เรื่องเที่ยวของผมอาการประมาณนี้เลยครับ
พอเที่ยวแบบเดิมๆไปสักระยะ เริ่มเกิดความชิน อยากเห็นอะไรมากกว่าเดิม อยากได้รับประสบการณ์ใหม่ๆที่จะทำให้หัวใจกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง (นี่เรื่องความรักหรือเรื่องเที่ยวนี่)
ผมคุ้นเคยกับการท่องเที่ยวธรรมชาติแบบขับรถเที่ยวเองแล้วพักที่พัก "ปกติ" เช่น โรงแรม, Apartment หรือ airbnb ส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ผมมีปัญหากับตัวเองครับ... พอถึงจุดนึงแล้ว เรา "ไม่พอ" มีความรู้สึกติดค้าง อยากใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่านี้ มันจะดีกว่ามั้ย ถ้าได้เดินไกลกว่านี้ ถ้าเดินขึ้นไปแล้วนอนบนนั้นเลย รสชาติจะประมาณไหน วิวจะสวยกว่ามั้ย... ครั้งนี้ เมื่อมีโอกาส จึงขอทำให้ตัวเองหายสงสัยโดยการลองเปลี่ยนมาพักที่พักแบบ "ไม่ปกติ" บ้าง ที่พักแบบที่ว่านี้ จะเรียก "กระท่อมบนเขา" "บ้านป่าไม้" "Refuge" "Mountain Huts" ก็คงจะไม่ผิดมาก แต่ในบทความนี้ผมขออนุญาตเรียกว่าโรงแรมละกันนะครับ
โรงแรมพิเศษเหล่านี้ มีสิ่งที่คล้ายกัน คือ
1. อยู่บนเขา บางที่เดินไกล บางที่เดินใกล้ แต่ต้องเดินไป เพราะสร้างมาเพื่อเป็นที่พักของนักเดินป่าปีนเขา
2. ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว มีแต่ห้องน้ำรวมใช้ร่วมกับแขกอื่น
3. บางที่มีแต่ห้องนอนรวมเหมือนค่ายทหาร แต่ที่ผมคัดมา 5 ที่นี้ มีห้องส่วนตัวทุกที่ครับ
4. มีอาหารเช้าและเย็นให้บริการ รวมอยู่ในราคาห้องพักแล้ว อาหารเย็นนี่ทีเด็ดครับ ลุ้นทุกเย็นว่าจะเสิร์ฟอะไร Omakase ครับผม
5. ส่วนใหญ่รับเฉพาะเงินสด Trip นี้ rate ต่ำสุด 1 คืนรวมอาหารเช้าเย็น 2 คน 170 Euro (ประมาณ 6,500 บาท) สูงสุด 220 CHF (ประมาณ 8,500 บาท)
6. ต้องจองกับโรงแรมโดยตรง (โทร / อีเมล / บางแห่งมีให้จองผ่านเว็บโรงแรม)
หลังจากที่คุยกับตัวเองรู้เรื่องและทำการบ้านอยู่นาน สรุปออกมาเป็น 5 โรงแรมที่จะไป โดยมีปัจจัยหลักในการเลือกคือระยะทางและความสูงสะสม
เนื่องจากกลุ่มผมที่ไป ร่างกายไม่ได้ฟิตมาก จึงเลือกที่คิดว่าพอเดินไหว เดินขานึงไม่เกิน 6-7 กม. ความสูงสะสม (Elevation Gain) ไม่เกิน 800 ม. ใช้เวลาในการเดินรวมหยุดถ่ายรูป บินโดรน พักเหนื่อย ไม่เกิน 5 ชั่วโมงครับ
อีกเรื่องที่สำคัญมากคือ เวลา... ช่วงที่ไปคือต้น มิ.ย. โรงแรมเหล่านี้ยังไม่ได้เปิด 100% พวกที่อยู่สูงๆหลายที่ยังไม่เปิดเพราะทางเดินยังถูกปกคลุมด้วยหิมะ แม้จะมีตัวเลือกน้อยลง แต่สำหรับผม นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวแบบนี้ เพราะ
1. อากาศไม่ร้อนมาก อุณหภูมิประมาณ 10-20 องศา ทั้งวัน
2. ว่าด้วยเรื่องความสวยงาม ดอกไม้กำลังออกสวย หญ้าเขียว แต่ยอดเขายังมีหิมะ ถ่ายรูปสวย (เว้นแต่อยากเห็นใบไม้เปลี่ยนสี คงต้องเป็น ต.ค. ครับ)
3. จำนวนนักท่องเที่ยวในหลายๆที่แม้จะมากกว่าเดือน เม.ย. ที่เป็นช่วง Off Season แต่ยังพอรับได้ ไม่พลุกพล่านมากเหมือนกลาง Summer (ก.ค.-ก.ย.) การท่องเที่ยวจึงยังได้รับความสะดวกสบายบ้างพอสมควร ไม่ถึงกับแย่งกันกินแย่งกันอยู่
4. ถามว่าไปเร็วกว่านี้ได้มั้ย เช่น พ.ค. คำตอบคือได้ครับ ภูมิทัศน์น่าจะสวยใกล้เคียงกัน แต่โรงแรมแนวนี้ส่วนใหญ่จะยังไม่เปิดให้บริการ และยิ่งไปเร็ว โอกาสในการเดินเข้าถึงที่สูงๆก็จะยิ่งน้อยลงเพราะหิมะยังไม่ละลาย เว้นแต่คุณมีรองเท้าสำหรับเดินบนหิมะและไม่กลัวหิมะครับ
เกริ่นมาพอสมควร ขออนุญาตเข้าเรื่องโรงแรมครับ
2 ที่แรกที่จะพูดถึง เป็น 2 โรงแรมลับท้ายหุบเขา Lauterbrunnen
1. Berggasthaus Tschingelhorn, Lauterbrunnen, Switzerland : https://tschingelhorn.ch/
2. Hotel Obersteinberg, Lauterbrunnen, Switzerland : https://goo.gl/maps/s1YrwbxmyqXYouiU9
(ภาพ Lauterbrunnen จาก Wikipedia)
หากพูดถึง Switzerland น่าจะมีภาพของหุบเขา Lauterbrunnen แว้บขึ้นมาบ้าง เพราะหุบเขานี้เป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญมากมาย เช่น หมู่บ้าน Wengen, Murren, Gimmelwald และ Jungfraujoch แต่ลึกเข้าไปในหุบเขานี้ ที่ที่รถทัวร์-รถไฟ-รถกระเช้าเข้าไม่ถึง คือสวรรค์ของนักเดินป่าปีนเขา มีโรงแรมยุค 1800 เปิดให้บริการอยู่ 2 โรงแรม ทั้ง 2 โรงแรมนี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในหมู่บ้านใดๆ แต่เป็น Stand Alone ตั้งอยู่เกือบท้ายสุดของหุบเขา สามารถเข้าถึงได้ด้วยการเดินเท้าเท่านั้น เส้นทางที่สั้นที่สุดคือเดินจากป้ายรถเมล์ Stechelberg ซึ่งเป็นป้ายสุดท้ายขึ้นเขาไป ประมาณ 3 ชั่วโมง
Berggasthaus Tschingelhorn
Hotel Obersteinberg
2 ที่นี้อยู่ห่างกันแค่ 15 นาที แต่ละที่ต่างก็มีจุดขาย จุดเด่นคนละอย่าง ผมนอนที่ละ 1 คืน พอจะสรุปความจากรสนิยมตัวเองได้ว่า
1. Berggasthaus Tschingelhorn มี Facility ทุกอย่างครบ แต่ความสวยและความ Classic อาจจะยังไม่เท่าอีกที่ ส่วน
2. Hotel Obersteinberg จุดเด่นคือ ไม่มีไฟฟ้า กลางคืนใช้เทียน, ไม่มี Shower ไม่ต้องอาบน้ำ แต่ความเรียบง่ายและความไม่มีอะไรนี้กลับเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้คนอยากมาสัมผัส ถึงกระนั้นก็ตาม ถ้าแบตหมด ไม่มีที่ให้ชาร์จก็อยู่ต่อไม่ได้เหมือนกันนะครับ ดังนั้นถ้ามีโอกาสกลับมาซ้ำ คงขอนอนทั้ง 2 ที่เหมือนเดิมครับ
3. การเดินไปโรงแรมก็คือการท่องเที่ยวไปในตัวแล้ว ตัวโรงแรมเองก็คือสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากนี้หากมีแรง มีเวลา ยังมีสถานที่น่าสนใจอื่นๆที่เริ่มเดินจากโรงแรมไปได้อีก เช่น Oberhornsee, Tanzbodeli ซึ่งผมไม่มีเวลาและแรงพอที่จะเก็บหมดครับ หากท่านใดไปก็อย่าลืมนำมาแบ่งปันนะครับ
ด้านล่างเป็นภาพบางส่วนจากการเดินทางครับ
ถึง Lauterbrunnen เกือบ 5 โมง ฝนตก
จอดรถที่ Stechelberg แล้วเริ่มเดิน
หันหลังกลับไปมอง Lauterbrunnen
ป้ายบอก Tschingelhorn 1 ชั่วโมง เดินจริงประมาณ 2 ชั่วโมง จากจุดนี้ทางเริ่มเป็นบันไดชันๆในป่า กว่าจะหลุดช่วงนี้เกือบชั่วโมง
ออกมาจากป่ายังคงมีบันไดชันๆ แต่วิวเปิด มีอะไรให้มองแก้เครียด
ถึงโรงแรมราวๆ 2 ทุ่ม ใช้เวลาในการเดิน 3 ชั่วโมงกว่าครับ
จากระเบียง
จาก Berggasthaus Tschingelhorn ไป Obersteinberg เดิน 15 นาที
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้