JJNY : 5in1 ‘พรสันต์’สะท้อนใจ│บวรศักดิ์ออกโรง│‘ชัยธวัช’รอหารือพรรค│อสังหาฯจับตาการเมืองพลิกขั้ว│สื่อใหญ่ทั่วโลกตีข่าว

พรสันต์’ พูดไม่ออก เห็นมติสภา สะท้อนใจ ข้อบังคับรัฐสภา กลายเป็นกม.สูงสุดของประเทศเสียแล้ว
https://www.matichon.co.th/politics/news_4088904

  
‘พรสันต์’ พูดไม่ออก เห็นมติสภา สะท้อนใจ ข้อบังคับรัฐสภา กลายเป็นกม.สูงสุดของประเทศเสียแล้ว
 
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม จากกรณีที่รัฐสภา มีมติ 395:312 ว่า การส่งชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ แคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ลงชิงเก้าอี้นายกฯ อีกครั้งขัดกับข้อบังคับการประชุมข้อ 41 ไม่สามารถส่งชื่อซ้ำได้

ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทวีตประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า
 
“ที่มี ส.ส.บางพรรคไปอ้าง ข้อ 41 ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภาว่ากรณีการเสนอคุณพิธาเป็นนายกฯ จะทำซ้ำได้ หากเหตุการณ์เปลี่ยนไป นี่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลย

ผมว่าท่านไม่เข้าใจข้อบังคับ นะครับ กรณีที่จะบอกว่ามีเหตุเปลี่ยนแปลงไปหรือไม่นั้นเป็นดุลพินิจของประธานรัฐสภาครับ ไม่ใช่สมาชิก”
 
“ตลกดีนะครับ บังคับใช้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภายังไงให้รัฐสภาทำงานไม่ได้เสียเอง”
“รัฐธรรมนูญคือระเบิดเวลาทำลายล้างระบบการเมืองและระบบกฎหมายของไทย”
“ข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ได้กลายเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทยไปเสียแล้ว”
“คนสอนกฎหมายรัฐธรรมนูญและกฎหมายรัฐสภาอย่างผมคือพูดไม่ออกครับกับการลงมติของรัฐสภาวันนี้”

https://twitter.com/pornson/status/1681568261882740736
https://twitter.com/pornson/status/1681580603433418753
https://twitter.com/pornson/status/1681583768253898754
https://twitter.com/pornson/status/1681629036227833857
https://twitter.com/pornson/status/1681632886154317824
 


บวรศักดิ์ ออกโรง ผิดหวังมติรัฐสภา ชูข้อบังคับทำ รธน.เป็นง่อย ชี้ช่องร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4088810

บวรศักดิ์ ออกโรง ผิดหวังมติรัฐสภา ชูข้อบังคับทำ รธน.เป็นง่อย ชี้ช่องร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน
 
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาวาระการเลือกบุคคลเป็นนายกรัฐมนตรีครั้งที่สอง เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ซึ่งมีผู้เสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพียงชื่อเดียว ให้รัฐสภาพิจารณา และมี ส.ส.รับรอง 299 คนครบตามจำนวนที่กำหนด
 
โดยหลังจากที่ประชุม ได้ใช้เวลาถกเถียงและอภิปรายในเหตุผลที่สนับสนุนความเห็นของฝั่งตนเอง ซึ่งใช้เวลานานกว่า 8 ชั่วโมง กระทั่งเวลา 16.55 น. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวว่าขอให้ที่ประชุมลงมติ ว่า การเสนอชื่อนายพิธาให้รัฐสภาโหวตเป็นนายกฯ อีกรอบขัดกับข้อบังคับการประชุมข้อ 41 หรือไม่ โดยผลการลงมติ พบว่า เสียงข้างมาก 395 เสียง ต่อ 312 เสียง งดออกเสียง 8 เสียงไม่ลงคะแนน 1 ไม่เสนอชื่อนายพิธาซ้ำ ได้ในสมัยประชุมนี้
 
ล่าสุด นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรี อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า 
 
“เอาข้อบังคับการประชุมมาทำให้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญเป็นง่อย ทั้งๆ ที่รัฐธรรมนูญกำหนดการเลือกนายกฯไว้เป็นการเฉพาะแล้ว น่าสงสารประเทศไทย

ผิดหวัง ส.ส.คนที่ไปร่วมลงมติห้ามเสนอชื่อซ้ำ แม้คุณจะอยู่ฝ่ายค้าน คุณก็ควรรู้ว่าเมื่อไหร่ต้องทิ้งความเป็นฝ่ายค้าน ทำสิ่งที่ถูกต้อง
 
แต่การตีความของรัฐสภาไม่เป็นที่สุด คนที่คิดว่าสิทธิของตนถูกกระทบ ไปยื่นเรื่องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินได้ ว่ามติรัฐสภาซึ่งเป็นการกระทำทางนิติบัญญัติขัดรัฐธรรมนูญได้ตามมาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญ ถ้าผู้ตรวจการไม่ส่งศาล ผู้นั้นยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้

ผมจะรอดูคำร้องว่าการกระทำของรัฐสภาขัดรัฐธรรมนูญครับ และจะดูว่าศาลรัฐธรรมนูญว่ายังไง
 
สอนรัฐธรรมนูญมาสามสิบกว่าปีต้องทบทวนแล้วว่าจะสอนต่อไหม?!?!?!”

https://www.facebook.com/borwornsak.uwanno.5/posts/pfbid0dRy1sL9YBGywjg4AvLnDqmRHvbCmck4q6iGZBF4n8ivmuZdoxsCnXCbQwY13Ww1Bl 



‘ชัยธวัช’ เผยสภาตีตกชื่อ ‘พิธา’ ชิงนายกฯรอบ 2 ไม่เกินคาด รอหารือพรรคให้สิทธิ ‘เพื่อไทย’ ตั้ง รบ.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4088832

‘ชัยธวัช’ มองมติที่ประชุมสภาตีตกชื่อ ‘พิธา’ ชิงนายกฯรอบ 2 ไม่ใช่เรื่องเกินคาด เผยรอหารือพรรคให้สิทธิ ‘เพื่อไทย’ ตั้ง รบ. บอกกำลังใจ ‘พิธา’ ยังเต็มร้อย
 
เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกรณีแนวทางการให้สิทธินำจัดตั้งรัฐบาลแก่พรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีเสียง ส.ส.มากเป็นลำดับที่ 2 ภายหลังที่ประชุมรัฐสภามีมติไม่ให้พิจารณาชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค ก.ก. เป็นนายกรัฐมนตรีซ้ำในสมัยประชุมนี้ โดยกล่าวเพียงว่า ยังต้องมีการพูดคุยกันก่อน และเชื่อว่าคงใช้เวลาในการพูดคุยไม่นาน เพราะมองว่าการได้นายกรัฐมนตรีเร็วที่สุดจะดีที่สุด
 
นายชัยธวัชกล่าวต่อว่า มติที่ประชุมรัฐสภาที่ออกมานั้น ไม่ได้เกินกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ และหลังจากนี้ พรรค ก.ก.จะประชุมหารือกันก่อนที่จะแถลงท่าทีอีกครั้ง
 
เมื่อถามถึงกำลังใจของนายพิธา ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส.ส.จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในคดีการถือครองหุ้นไอทีวีนั้น นายชัยธวัชกล่าวว่า นายพิธายังมีกำลังใจที่ดีเต็มร้อย

เมื่อถามว่า พรรค ก.ก.จะแก้เกมหลังถูกเดดล็อกทางการเมืองทั้งหมดอย่างไร นายชัยธวัชกล่าวว่า จะต้องหารือภายในพรรคก่อนว่าจะทำอย่างไรหลังจากนี้ และยังไม่ได้มีการพูดคุยว่าจะไปยื่นร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความการลงมติของรัฐสภาดังกล่าวหรือไม่
 


อสังหาฯ จับตาการเมืองพลิกขั้ว ห่วงเสถียรภาพรัฐบาล ม็อบฮือ หาก ‘เพื่อไทย’ ทิ้ง ‘ก้าวไกล’
https://www.matichon.co.th/economy/news_4088956

อสังหาฯ จับตาการเมืองพลิกขั้ว ห่วงเสถียรภาพรัฐบาล ม็อบฮือ หาก ‘เพื่อไทย’ ทิ้ง ‘ก้าวไกล’
 
วันที่ 19 กรกฎาคม นายอธิป พีชานนท์ นายกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า การโหวตนายกรัฐมนตรีรอบ2 ที่ไม่พิจารณาชื่อคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์นั้น ถือว่าไม่เหนือความคาดหมาย อย่างไรก็ตามต้องดูว่าทั้ง 8 พรรคการเมืองจะหาทางออกอย่างไรต่อไป จะให้พรรคเพื่อไทย(พท.)เป็นพรรคอันดับ 2 เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีตัวเลือกแล้ว ซึ่งมี 3 คนเป็นแคนดิเดตของพรรค คือ คุณชัยเกษม คุณเศรษฐาและคุณแพทองธาร หรือจะมีการสลับขั้วใหม่ แล้วผลักให้พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ไปเป็นฝ่ายค้าน เพราะถึงพรรคก้าวไกลอยู่ต่อ แม้ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ก็ยังมีส.ว.สกัดอยู่ในเรื่องที่เห็นต่างกัน หากพรรคเพื่อไทยยังอยู่กับพรรคก้าวไกลก็มีโอกาสน้อยที่จะได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี ตอนนี้สถานการณ์การเมืองมันมีความเป็นไปได้หลายทางและมีความไม่แน่นอนสูง และกังวลว่าหากมีการพลิกขั้วใหม่จะเกิดความวุ่นวายรุนแรงขึ้น เพราะทุกอย่างเป็นไปได้หมดตอนนี้

นายอธิปกล่าวว่า ในภาคธุรกิจไม่ติดขัดใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่อยากให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ไม่ยืดเยื้อลากยาว เพราะไม่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในเรื่องการลงทุน ที่ทำให้นักลงทุนไม่ว่าไทยและต่างชาติไม่มีความเชื่อมั่น ขณะที่การเบิกจ่ายงบประมาณ จะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้จากสถานการณ์ล่าสุด คงจะมีจัดตั้งรัฐบาลล่าช้าไปบ้างเล็กน้อย แต่หากอยู่ในช่วงสิงหาคม-กันยายนก็น่ายังพอรับได้ หากเลยจากนี้ไปคงส่งผลกระทบมากขึ้น เพราะเหลือแค่ภาคการท่องเที่ยวอย่างเดียวเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจไทยในปีนี้ เพราะส่งออกมีแนวโน้มติดลบ
 
นักลงทุนไทยและต่างชาติก็รอดูว่าใครเป็นรัฐบาล มีเสถียรภาพหรือไม่ อยากให้ชัดเจนโดยเร็ว เพื่อจะได้เดินหน้าแผนธุรกิจ ซึ่งเมื่อได้รัฐบาลใหม่แล้ว ต้องรีบตั้งคณะรัฐมนตรีและทีมเศรษฐกิจโดยเร็ว และต้องเลือกผู้มีความรู้ ความสามารถที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้” นายอธิปกล่าว

นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า เมื่อไม่มีการโหวตคุณพิธารอบ2 ควรให้พรรคเพื่อไทยเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลต่อไป เพื่อให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ตามครรลองของกฎหมายที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเอกชนไม่อยากเห็นการเมืองลากยาวทั้งเรื่องจัดตั้งรัฐบาลที่ควรเดินหน้าต่อไป ในขณะเดียวกันไม่ควรมีการชุมนุมจนเป็นชนวนเหตุ นำไปสู่ความรุนแรง ไม่ว่าจะฝ่ายใด เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศชาติและประชาชน ที่กำลังเผชิญอยู่ เดินหน้าต่อไปได้ ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ทันเดือนสิงหาคมนี้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจแน่ ทั้งเรื่องของงบประมาณปี 2567 ที่เบิกจ่ายไม่ได้ การลงทุนใหม่อาจไม่เกิด จะลามไปถึงการท่องเที่ยวด้วย หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้น
 
ทางออกตอนนี้ ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎเกณฑ์ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลตามกฎเกณฑ์ที่มีอยู่ กฎเกณฑ์ใดที่เห็นว่าไม่เหมาะสม ก็แก้ด้วยกลไกลรัฐสภาในขณะเดียวกันส.ว.ชุดนี้ในเดือนพฤษภาคมปีหน้าก็หมดไปตามกฎเกณฑ์เช่นเดียวกัน ทุกฝ่ายควรยอมรับว่าเราลงแข่งขันตามกติกาที่เราทราบล่วงหน้าแล้ว การเมืองขณะนี้แม้จะเห็นต่างกันบ้าง แต่ไม่ควรมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่จุดชนวนไปสู่ความรุนแรงและทำให้การเมืองต้องนับหนึ่งใหม่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติประชาชน ที่ทุกฝ่ายบอกว่ามีความปรารถนาดี” นายอิสระกล่าว
 
นายวรวุฒิ กาญจนกูล กรรมการกิตติมศักดิ์สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านและประธานบริหารบริษัท ดับบลิวเฮ้าส์ จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้การเมืองเป็นเรื่องคาดเดายากว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่หลายคนแม้กระทั่งคุณพิธาเองก็คงพอเดาได้ว่าวันนี้ศาลฯ น่าจะออกมาในรูปนี้ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจ ณ ตอนนี้ยังคงไม่น่ามีอะไรมาก ดูได้จากตลาดหุ้นก็ไม่ได้ตอบรับจากเรื่องนี้เท่าไรนัก เพราะไม่ได้เกินการคาดเดา
 
แต่สิ่งที่คนรอคืออยากทราบว่าใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรี ดูแล้วเป็นโอกาสของพรรคเพื่อไทยจะเสนอแคนดิเดต จากนั้นจึงจะมาดูนโยบายของเขาที่เคยพูดไว้อีกทีว่าจะเน้นทางด้านใดและจะเป็นบวกหรือลบต่อภาคธุรกิจใด แต่มีความกังวลเรื่องม็อบที่สนับสนุนคุณพิธาถ้าไม่ออกมาเกินขอบเขตและไม่มีใครหนุนหลังก็คงไม่มีอะไรมาก” นายวรวุฒิกล่าว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่