ผีในออฟฟิก

สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่าน วันนี้เราจะมาเล่าถึงบริษัท ที่ทำงานเก่าเรา  

ก่อนอื่นเลยขอพูดเรื่องบริษัทที่เราทำงานก่อน  
      - ทำงานขายของออนไลน์ เทเลเซลล์ 
      - ขาย คอลลาเจน ที่โฆษณาตามโทรทัศน์ หลากหลายช่อง
      - บังคับให้มียอดขาย 50,000 - 100,000 บาท ขึ้นไป ต่อวัน  
      - เงินเดือนเริ่มต้น 12,000 มีค่าคอมขึ้นอยู่กับการขยัน (บางเดือน ได้ 40,000  ก็มี แต่เหนื่อย กดดันตัวเอง)

สถานที่ทำงาน สภาพ
  - จะเป็นตึก 5 ชั้น สภาพเป็นเหมือนบ้านคน (ไม่นับตึกแผนงอื่นนะคะ เอาแค่ตึกทำงานฝ่ายขาย)
  -  ชั้น 1 เป็นของ เทเลเซลล์ ที่คอยรับสายลูกค้าจะโทรสั่งสินค้า และคอยโทรหาลูกค้ารายเก่า 
  - ชั้น 2 เขาเรียกว่าเป็นห้องดำ สำหรับพนักงานที่ ยอดไม่ถึง ห้องนี้จะมีกลิ่นไอ ความเครียด ความกดดัน ใครมาอยู่ห้องนี้ ไม่กี่อาทิตย์ลาออกกันทุกคน                เพราะคนคุม นิสัยแย่มาก คอยแต่จะกดดันพนักงาน คนนี้ทุกคนเรียกมันว่า **ป้าแว่น** 
  - ชั้น 3 เป็นห้องของพนักงาน ขายของออนไลน์ในเพจ เช่น ในไลน์ ในเฟสบุ๊ค (ของบริษัท) 
  - ชั้น 4 เป็นชั้น โล่งๆไม่มีอะไร ไม่มีใครอยู่ 
  -ชั้น 5 เป็นชั้นของ อีป้าแว่น เพราะมันกิน นอนที่ออฟฟิศที่นี้ มันอยากจะเป็นญาติของเจ้าของบริษัท หรือไม่ก้อยากจะเป็นหุ้นส่วน เพาะมันมีอำนาจมาก                ที่มานอน แล้วชั้นทั้งหมดนั้นเป็นของมันคนเดียวได้ 
  -  ทุกชั้นจะมีห้องน้ำ 1 ห้อง เพราะ สภาพตึกเป็นเหมือนบ้านเลยค่ะ 

ใครที่ทำงานจุดนี้น่าจะรู้แล้วว่าพูดถึงบริษัทไหน แถวย่าน พระราม..  อิอิ แต่เขามีบริษัทใหญ่ (โรงงานเลยแหละ) อยู่จ.สมุทปราการ
รู้สึกว่าเริ่มไม่ใช่เรื่องผีละ 55555  เพี้ยนขำหนักมาก


เราเข้ามาทำงานที่นี้ได้เพียงแค่ 6เดือน นั้นก็คือเดือน กพ. 65 - กค - 65 เนื่องจากกดดันมาก อย่างที่เราเบื้องต้นไป ว่าถ้ายอดขายไม่ได้จะต้องเจออะไร 
จะมีกะนะคะ กะแรก เข้าทำงาน  - 7.00 น. - 16.00 น.
                                              - 9.00 น. - 18.00 น.
                                              - 12.00 น. - 21.00 น.

2กะช่วงกลางวันจะไม่ค่อยมีอะไรหรอกค่ะ มีคนในที่ทำงานเยอะ และมีหลายหน่อยงานด้วยตึกก้ไม่ไกลจากกันเลยค่ะ 
แต่กะ เที่ยงนี้สิ ทั้งกดดันเรื่องงานแล้วยังมากดดันเรื่อง ผี อีก   เพราะช่วงกะ เที่ยงเวลา 18.00 น. หน่วยงานอื่นจะเลิกงานกันหมดแล้ว เหลือเพียงแค่พนักงานเทเลเซลล์ และเหลือเพียงแค่ 6-7 คนต่อวันเท่านั้น ทางบริษัทถ้าใครอยู่กะนี้ พอถึงเวลา 6โมงเย็นแล้ว ไม่ว่าใครจะอยู่ชั้นไหน ให้ลงมาทำงานชั้น ล่าง โต๊ะคอมของคนอื่นไปก่อน ( โต๊ะทำงานเรา อยู่ชั้นล่างอยู่แล้วเวลาเราเข้ากะเช้า วันต่อมาเราเห็นสภาพโต๊ะเรามีแต่เศษขนม อ่ะๆ พอๆ มาเรื่องผีดีกว่า 

เจ้าคิกคัก
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงนั้น เราต้องเข้ากะเที่ยง ถึง 3ทุ่ม 5 วันติดกันเลย  เราไม่ชอบกะดึกด้วย แต่ก็นะมันเลือกไม่ได้  ตอนนั้นจำได้ว่ามีคนร่วมทำงานกะนี้ เยอะอยู่ ประมาณ 10 คนเลยล่ะ เพราะมีฝ่ายขายทางไลน์มาอยู่ด้วย 3-4 คน ทุกคนนั้นในชั้นล่างกันหมด 


สีเหลืองคือสภาพ ข้างนอกห้องทำงาน สีขาวคือห้องที่เราทำงานนะคะ ห้องน้ำชั้น 1 จะอยู่ใต้บันใด ทางขึ้น  ผนังห้องตรงประตูทางออกจากห้อง และประตู จะเป็นกระจกมองเห็นข้างนอกนะคะ สามารถมองได้ว่าใครเดินมา หรือใครเดินไปเข้าห้องน้ำ
 
เวลา1ทุ่ม มันจะมีช่วงหนึ่งที่เป็นช่วงพัก เพราะตอนนั้น ไม่ค่อยมีลูกค้าโทรมา แล้วก็ไม่มีโฆษณาสินค้าในทีวี เราปวดฉี่มาก มองไปตรงห้องน้ำก็มีคนใช้อยู่ เราทนไม่ไหวค่ะ เลยเดินขึ้นไปชั้น2 ตอนนั้นไม่ได้กลัวผีเลยเพราะปวดฉี่รุนแรงมาก ชั้นอื่นมืดนะคะ เพราะไม่ได้เปิดไฟ 

พอขึ้นไปถึงชั้น2 ก็เห็นว่าห้องน้ำล๊อกและมีไฟเกิดอยู่ข้างใน เลยตะโกนถามว่าใคร 
 ได้คำตอบมาคือพี่ที่ทำงานนั้นแหละค่ะ เขาก็ปวดฉี่เหมือนกัน ความคิดเขาก้เหมือนเรานั้นแหละค่ะ ปวดแรงเลยขึ้นมาชั้น 2 

เราทนไม่ไหวมันจะออกมาเดี๋ยวนี้แหละค่ะ เลยรีบวิ่งไปชั้น 3 สภาพคือมืดมากก มองไม่เห็นเลยต้องใช้ไฟฉายจากโทรศัพท์ วิ่งขึ้นบันได รีบเปิดไฟห้องน้ำชั้น 3 กดยังไงก็ไม่ติด แถมลองเปิดน้ำในอ่างล้างหน้า น้ำก้ไม่ไหลด้วย กระดาษชิดชู่ชั้น3 ก้ไม่มี 

เลยรีบวิ่งถือไฟฉายโทรศัพท์ขึ้นไปชั้น 4 ชั้นที่ไม่ได้เปิดให้คนทำงาน เพราะจะเข้าห้องน้ำ ไฟในห้องน้ำไม่ติดค่ะ แต่น้ำไหล มีกระดาษชิคชู 
ก็ทำธุระอะไรเสร็จแล้ว ในขณะที่ยังอยู่ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงคนพูดว่า  * * *  ขึ้นมาชั้นนี้เลยหรอ * * * 

ไอเราก็คิดว่าเป็นป้าแว่นแน่นอน เพราะเขานอนอยู่ชั้น 5 
เราก็เลยตอบไปว่า ใช่ค่ะ หนูปวดฉี่แรงมาก ชั้น1-2 ก้มีคนเข้า ชั้น3 น้ำไม่ไหล

พอตอบเสร็จก้ได้ยินเสียงหัวเราะดังมาก จนเรากลัวเลยไม่กล้าออกจากห้องน้ำ แต่ยังไงมันก็ต้องออกเนอะ เดี๋ยวต้องไปทำงานอีก 
เลยเปิดประตู พอเปิดได้แค่แง๊บๆเองนะ เสียงหัวเราะหายไปเร็วมาก  พอเปิดกว้างแล้วหันไปมองทางซ้ายขวา ไม่เห็นมีใครยืนอยุ่เลยสักคน ตอนนั้นไฟก้ไม่มี มีแต่ไฟในโทรศีพท์ เลยรีบวิ่ง ลงไปชั้นล่างเลยค่ะ 

วิ่งเข้าห้องไป  โต๊ะเราอยู่ตรงหน้าประตูห้องทำงานเลยค่ะ  พี่นั้งข้างๆก็ถามนะว่าวิ่งทำไมไปไหนมา ตัวเราเองก็กำลังจะบอกแต่สายลูกค้าเข้ามาพอดี เลยไม่ได้พูดอะไร 

วันต่อมา เราก้ลืมเรื่องนี้ไปเลย ไม่ได้บอกใครค่ะ พอถึงช่วง เวลาเท่าเดิม 1ทุ่ม วันนี้เราไม่ได้ปวดฉี่เราก้นั้งเล่นโทรศัพท์ปกติ อยู่ก็มีเพื่อนร่วมงาน 2 คนวิ่งเข้ามาให้ห้องแล้วปิดประตูกระจกข้างๆเราแรงมาก  รุ่งพี่ที่ทำงานเราถามว่าเป็นไรเกิดไรขึ้น เพื่อน2คนพูดว่า

***ข้างบนมีคนยืนอยู่***
รุ่นพี่ถามอีกว่า ยืนยังไง 

เพื่อนตอบ 

***ยืนอยู่ตรงบันได้แล้วก้มหัวลงมามอง*** 

ตรงนั้นเป็นบันไดขึ้นข้างบน  ห้องน้ำชั้น1อยู่ใต้บันได บอกขึ้นไปตรงบัยได้ก้จะเห็นว่าใครยืนอยู่ตรงนั้นแล้วล่ะค่ะ เพี้ยนเบลอ

ทุกคนตกใจกันมากตอนนั้น ลูกค้าโทรมาสั่งซื้อสินค้าก้ไม่รับเลยค่ะ เพราะเสียงสั่นกันทั้งห้อง ไมมีอารมขายของกันเลย 
จนวันต่อมา ป้าแว่น ได้เรียกพนักงานที่อยู่กะเที่ยงให้ไปพบที่ชั้น2 นั้นก้คือห้องดำ เพื่อถามสาเหตุ ว่าทำไมเมื่อคืนไม่มีคนรับสายลูกค้าที่โทรเข้ามาสั่งของกันเลย 

รุ่งพี่ที่ทำงานเขาเลยบอกสาเหตุให้ 

ป้าแว่น เลยเล่าให้ฟังค่ะว่า เมื่อก่อนตรงนี้ไม่ใช่บริษัท เป็นบ้านของป้าแว่นเอง ลูกสาวเป็นคนซื้อ เพื่อที่จะทำบริษัทของตัวเอง แล้วมันเกิดเรื่องขึ้น คือโดนโกง โกงไม่พอนะ ยังทำให้ลูกสาวเขาท้อง  ลูกสาวเขาเสียใจมากเลยฆ่าตัวตายที่ชั้น4 จุดที่ฆ่าตัวตาย คือจุดใกล้ๆกับห้องน้ำชั้น 4ที่เราเข้าไปเลยค่ะ ตอนเสียชิวิตคือไม่มีใครรู้เลยว่าผู้สาวมาฆ่าตัวตายตรงนี้ เพราะ ศพอืดอยู่ชั้น 4 น้ำเหลืองน้ำเลือดก็ไหลหยดลงมาจากชั้น4มาตรงชั้นหนึ่ง หยดตรงบันได้ลงมาเลยค่ะ แล้วตอนนั้นข้างบ้านยังไม่มีคนซื้อบ้านด้วยซ้ำเพราะเป็นหมู่บ้านที่พึ้งทำใหม่ๆ  ป้าแว่นเขาเสียใจมาก ทำใจไม่ได้ เลยลงทุนอีกรอบเพื่อทำหุ้นส่วน ให้ทางบริษัทขายคอลลาเจน มาทำงานที่บ้านของเขาได้โดยป้าแว่นจะเป็นผู้จัดการเรื่องขายของออนไลน์เทเลเซลล์ และนอนที่ชั้น 5 


รุ่นพี่ได้ถามอีกค่ะว่า  ป้าแว่นเคยเห็นลูกสาวตัวเองไหม 

สิ่งที่ได้คำตอบมาคือ.....

.....อย่ามาพูดถึงลุกสาวฉันอีก ฉันน่ะเกียดจริงๆเลยพวกแต่งเรื่องทำให้พนักงานด้วยกันทำงานไม่ได้เนี่ย คิดจะลดคู่แข่งด้วยวิธีนี้หรอ.....

คือทุกคนมองหน้ากันค่ะ แต่ไม่กล้าพูดอะไร 
หลังจากนั้นจากที่จะสงสารป้าแว่น กับกลายเป็นว่าทุกคนไม่ชอบป้าแว่นเลย เพราะเขาพูดไม่คิดเลย ว่าใครจะกล้าแกล้งกันขนาดนี้ 

แล้วไม่ได้เห็นแค่2คนนั้นนะคะ เห็นหลายคนแล้ว เห็นแวบๆบ้าง อยู่ในห้องน้ำแล้วมีคนมาเคาะประตูบ้าง แต่ไม่มีใครคนไหนกล้าขึ้นไปชั้น 4 แบบเราเลยค่ะ เราก้ๆม่กล้าแต่ตอนนั้น ไม่รู้จริงๆ คนที่กล้าขึ้นไปได้ ตอนนี้ก้น่าจะเป็นป้าแว่นนั้นแหละค่ะ 

แต่ทุกวันนี้ เราไม่ได้ทำงานที่นั้นแล้ว เราไม่รู้เลยว่ายังเจออยู่หรือป่าว ใครที่เข้ามาอ่านแล้วทำงานแนวแบบนี้อยู่ ที่ที่นั้นอาจเป็นที่เดียวกันกับเรื่องนี้ก็เป็นได้ 



  
 
จิกหมอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่