ตอนที่ 1
มาเล่าประสบการณ์ ปรับสถานะจากการแต่งงานที่อเมริกา จนได้กรีนการ์ด ใช้เวลา9 เดือน นับจากวันยื่นเรื่องไปจนถึงได้รับการ์ด (แต่ละเคส ใช้เวลาไม่เท่ากัน บางเคสได้เร็ว บางเคสอาจรอนานข้ามปี) ประวัติโดยย่อ ตัวเรากับแฟนอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยสิบกว่าปีแล้ว เรามนุษย์ป้า ส่วนแฟนคือมนุษย์ปู่ ไม่ต้องชัดเจนเรื่องอายุ ให้ท่านผู้อ่านจินตนาการเองจ้า อายุห่างกันพอสมควร แต่ทัศนคติตรงกัน เข้ากันได้ดีมาก เลยอยู่ด้วยกันแบบสบายไม่มีปัญหา เพราะเราเคารพและให้เกียรติ์ซึ่งกันและกัน ฝ่ายชายเกษียณ มีบำนาญและเบี้ยเลี้ยงต่างๆ สามารถดูแลเราได้สบายๆ เลยทำให้เราอยู่บ้านเฉยๆโดยไม่ต้องทำงาน เมื่อหลายปีก่อน ตอนยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรก แฟนก็เป็นสปอนเซอร์ให้ ได้รับวีซ่า10ปี (อยู่ด้วยกันเฉยๆ ยังไม่ได้หรือจดทะเบียนสมรส)หลังจากนั้นก็เดินทางมาอเมริกาครั้งแรก โดยการเดินทางมาคนเดียว เพราะแฟนเดินทางมาก่อนเพื่อเป็นที่ปรึกษาของบริษัทให้เพื่อน เจ้าหน้าที่ ต.ม.ที่อเมริกาก็ถามว่า จะมาอยู่อเมริกานานแค่ไหน? ตอบไปว่า มาอยู่1เดือน เพราะจองตั๋วไป-กลับเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ถามอีกว่า รู้จักใครที่อเมริกา? ก็บอกชื่อ ที่อยู่ของแฟน และบอกเหตุผลว่าเขามีธุระเลยเดินทางมาก่อน เราเลยได้ตามมาทีหลัง เจ้าหน้าที่ก็บอก ยินดีต้อนรับสู่อเมริกา และประทับตราให้อยู่6 เดือน พออยู่ครบเดือนก็กลับเมืองไทยตามกำหนด ตอนกลับ เดินทางพร้อมกับแฟน พอแฟนอายุมากขึ้น ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง เป็นอะไรก็ต้องจ่ายเองหมด นอนโรงพยาบาลหลายคืน ผ่าตัดทีก็หลายแสน บางครั้งเป็นล้าน สุดท้ายเลยตัดสินใจ ขายบ้านที่เมืองไทย แล้วย้ายกลับมาอยู่อเมริกา แฟนเดินทางมาก่อน เพื่อซื้อบ้านที่อเมริกา และเราส่งข้าวของตามมาทางเรือ ค่าส่งเหมาตู้คอนเทนเนอร์ก็หลายแสนเช่นกัน ....เดี๋ยวตามมาต่อ ตอนต่อไปจ้า
สัมภาษณ์กรีนการ์ดที่อเมริกา กรกฎาคม2023 ใช้เวลา 9 เดือนในการดำเนินการ
มาเล่าประสบการณ์ ปรับสถานะจากการแต่งงานที่อเมริกา จนได้กรีนการ์ด ใช้เวลา9 เดือน นับจากวันยื่นเรื่องไปจนถึงได้รับการ์ด (แต่ละเคส ใช้เวลาไม่เท่ากัน บางเคสได้เร็ว บางเคสอาจรอนานข้ามปี) ประวัติโดยย่อ ตัวเรากับแฟนอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยสิบกว่าปีแล้ว เรามนุษย์ป้า ส่วนแฟนคือมนุษย์ปู่ ไม่ต้องชัดเจนเรื่องอายุ ให้ท่านผู้อ่านจินตนาการเองจ้า อายุห่างกันพอสมควร แต่ทัศนคติตรงกัน เข้ากันได้ดีมาก เลยอยู่ด้วยกันแบบสบายไม่มีปัญหา เพราะเราเคารพและให้เกียรติ์ซึ่งกันและกัน ฝ่ายชายเกษียณ มีบำนาญและเบี้ยเลี้ยงต่างๆ สามารถดูแลเราได้สบายๆ เลยทำให้เราอยู่บ้านเฉยๆโดยไม่ต้องทำงาน เมื่อหลายปีก่อน ตอนยื่นขอวีซ่าท่องเที่ยวครั้งแรก แฟนก็เป็นสปอนเซอร์ให้ ได้รับวีซ่า10ปี (อยู่ด้วยกันเฉยๆ ยังไม่ได้หรือจดทะเบียนสมรส)หลังจากนั้นก็เดินทางมาอเมริกาครั้งแรก โดยการเดินทางมาคนเดียว เพราะแฟนเดินทางมาก่อนเพื่อเป็นที่ปรึกษาของบริษัทให้เพื่อน เจ้าหน้าที่ ต.ม.ที่อเมริกาก็ถามว่า จะมาอยู่อเมริกานานแค่ไหน? ตอบไปว่า มาอยู่1เดือน เพราะจองตั๋วไป-กลับเรียบร้อย และเจ้าหน้าที่ถามอีกว่า รู้จักใครที่อเมริกา? ก็บอกชื่อ ที่อยู่ของแฟน และบอกเหตุผลว่าเขามีธุระเลยเดินทางมาก่อน เราเลยได้ตามมาทีหลัง เจ้าหน้าที่ก็บอก ยินดีต้อนรับสู่อเมริกา และประทับตราให้อยู่6 เดือน พออยู่ครบเดือนก็กลับเมืองไทยตามกำหนด ตอนกลับ เดินทางพร้อมกับแฟน พอแฟนอายุมากขึ้น ประกันสุขภาพไม่คุ้มครอง เป็นอะไรก็ต้องจ่ายเองหมด นอนโรงพยาบาลหลายคืน ผ่าตัดทีก็หลายแสน บางครั้งเป็นล้าน สุดท้ายเลยตัดสินใจ ขายบ้านที่เมืองไทย แล้วย้ายกลับมาอยู่อเมริกา แฟนเดินทางมาก่อน เพื่อซื้อบ้านที่อเมริกา และเราส่งข้าวของตามมาทางเรือ ค่าส่งเหมาตู้คอนเทนเนอร์ก็หลายแสนเช่นกัน ....เดี๋ยวตามมาต่อ ตอนต่อไปจ้า