ชีวิตในวัย 35 ปี เบญจเพส ของเราเป็นแบบนี้ค่ะ

สวัสดีค่ะ วันนี้ขอมาแบ่งปัน ระบาย เก็บเอาไว้อ่าน เก็บไว้เป็นไดอารี่ชีวิตของตัวเอง
ปีนี้ (2566) เราอายุ 35 ปี เต็มค่ะ ซึ่งตอนนี้ก็ล่วงเลยผ่านมาเกือบๆ จะ 6 เดือนแล้วค่ะ เกือบจะครึ่งทางแล้ว
สำหรับเราชีวิตในวัย 35 ปี มันหนักหน่วงและเข้มข้นมาก จนท้อแท้ และอยากจะให้ผ่านพ้นไปเร็วที่สุด
เราเจอทั้งเรื่องดี เรื่องไม่ดี เรื่องที่ทำให้เสียทรัพย์ จนแทบจะหาทางออกไม่เจอ
วันที่เลยขอเขียนไดอารี่ เพื่อเตือนความทรงจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เริ่มเลยนะคะ

ช่วงต้นปีสำหรับวัย 35 ปี ของเราค่อนข้างนิ่งๆ เฉยๆ เหมือนไม่มีอะไร เราก็ใช้ชีวิต ทำงานตามปกติเดิมๆ วนลูปเดิมๆ
จนกระทั่งเมื่อประมาณเดือนมีนาคม เราได้รับข่าวดีเกี่ยวกับการถูกเรียกบรรจุราชการ เราดีใจมากๆ ที่เราจะได้ออกจากระบบบริษัทฯ ที่เราเริ่มอิ่มตัว เริ่มเบื่อกับลูปเดิมๆ ของเรา และเราต้องการชีวิตเสาร์-อาทิตย์แบบจริงจัง เราอยากมีเวลาพาแม่ไปหาหมอ ส่งลูกขึ้นรถรับส่งได้ เราไม่อยากเครียด ไม่อยากทำโอที บลาๆ (จึงเริ่มสอบเปลี่ยนสายงานเมื่อ ปี 64, 65 ที่ผ่านมา)

ใครๆ ก็บอกว่าเราโชคดีจัง ได้ออกจากระบบบริษัทฯ แล้ว ตามที่ใจอยากออก แต่ก็แอบมีเรื่องเครียด เนื่องจากการเลือกสถานที่บรรจุตามลำดับ แต่เราก็โชคดีอีกที่ได้บรรจุที่บ้านเลย ทำให้เราสามารถดูแลครอบครัวของเราได้

แต่สิ่งที่เป็นปัญหา คือ รายได้ที่น้อยลงแบบฮวบๆ ซึ่งก็โทษใครไม่ได้ เราจัดการตัวเองไม่ดีตั้งแต่แรก

หลังจากทำงานได้ประมาณเดือนกว่าๆ เราเกิดอุบัติเหตุ ขับรถชนกับรถมอเตอร์ไซด์ ซึ่งคู่กรณีของเราได้รับบาดเจ็บที่ค่อนข้างรุนแรง เราเครียดมาก แบบเครียดสุด สิ่งที่เราทำได้ คือ ค่ารักษาพยาบาลที่เราต้องรับผิดชอบแบบ 100% (เพราะคู่กรณีเราไม่ใช่คนไทย และไม่ได้ลงทะเบียนการเข้าประเทศแบบถูกกฎหมาย) เราจึงต้องรับผิดชอบค่ารักษาพยาบาลสุดโหดนั้น เราจึงค่าเยียวยาต่างๆ ซึ่งมันหนักมากๆ สำหรับเรา
หลายๆ คน ก็พยายามบอกเราว่า โชคดีแล้วที่เราไม่เป็นอะไร แต่สภาพจิตใจเราคือแย่ และดิ่งลงมาก

เราต้องเจอภาระค่าเทอมลูก ค่าต่างๆ นู่นนี่นั้น เหมือนดอกเห็ดที่ผุดขึ้นมาพร้อมๆ กัน

รถเราพัง จนต้องจอดทั้งไว้ที่อู่ซ่อมรถ เพราะยังไม่พร้อมที่จะซ่อม เราต้องใช้รถมอเตอร์ไซด์ในการเดินทางไปทำงาน ขับอย่างระแวงมากหลังจากที่เกิดเหตุการณ์

เรารู้สึกถึงปัญหา ความพัง ความดิ่งของชีวิตของเรามาก

ครอบครัวเราเริ่มมีปัญหา เพราะเราคิดว่า เงินมันคือปัจจัย สำหรับทุกๆ อย่าง

จนอยากจะย้ายโรงเรียนของลูก  เราพยายามที่จะหาทางแก้ไขปัญหาทุกๆ อย่าง อยากมีสติที่สุด แต่ตอนนี้ก็ยังมืดแปดด้าน
ได้แต่คิดปลอบใจตัวเองว่า มันคงเป็นกรรมเก่าที่ติดตัวเรามา
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ปัญหาจะเริ่มคลี่คลายลง เราคิดว่าปัญหาคงติดตัวเราและสะสมไปอีกนาน เพราะรายได้เป็นพื้นฐานของทุกปัจจัย
อยากคนคงบอกว่าเรา ตัดสินใจผิด ไม่มีการวางแผนอะไรในชีวิตเลยเหรอ เราตอบว่าใช่ เราไม่เคยคิดว่าในชีวิตเราเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ทำให้เราต้องดิ่งขนาดนี้

พยายามจะรีไฟแนนซ์บ้านจากดอกเบี้ยมหาโหด ซึ่งไม่รู้ว่าเราคิดถูกมั้ย เราจิตตก จนไม่กล้าจะตัดสินใจอะไร เพราะทำอะไนก็ดูผิดไปหมด
พยายามจะหางานพิเศษ พาสไทม์ วันเสาร์ อาทิตย์ แต่พื้นที่ที่เราอยู่ไม่ได้เอื้ออำนวยอะไรใดๆ

เพื่อนๆ ท่านใด มีประสบการณ์ความดิ่ง และวิธีในการรับมือให้เรื่องทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี รบกวนแชร์หน่อยนะคะ หรือใครอยากจะระบาย รีวิวชีวิตในวัย 35 ปี ที่ดิ่งเหมือนกันและผ่านพ้นมาได้ด้วยดี เล่าสู่กันฟังได้นะคะ
อย่างน้อยเราคงดีใจที่บางทีเราอาจจะมีเพื่อนที่เจอแบบเดียวกัน แล้วเรามาสู้ด้วยกันนะคะ

เราจะพยายามไม่ยอมแพ้ แต่บางทีก็ขอร้องไห้เป็นการระบายความอ่อนแอออกบ้าง
แต่รับรองว่า ถ้ายังมีลมหายใจ เราก็จะสู้สุดฤทธิ์เหมือนกันค่ะ 
ขอบคุณบางท่านที่เสียสละเวลาอันมีค่ามาฟังเราระบายนะคะ
ขอบคุณพื้นที่นี้ เรียล ไดอารี่...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่