JJNY : “อ.วีรพัฒน์”ชี้ช่อง│ศิโรตม์ : วิเคราะห์พิธาแพ้แต่ไม่แพ้│ย้ำตั้งรัฐบาลช้า กระทบงบรัฐอืด│วันนี้ไข่ไก่แพง ฟองละ 4 บ.

สัมภาษณ์ “อ.วีรพัฒน์” ยัน8พรรคต้องจับมือกันเดินต่อ ชี้ช่องตั้งนายกฯโดยไม่ต้องพึ่ง ส.ว.
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4079282
 
 
อ.วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ นักวิชาการกฎหมายอิสระ ให้สัมภาษณ์กรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลแพ้โหวตในที่ประชุมรัฐสภา ว่า 8 พรรคต้องจับมือแล้วเดินหน้าสู้ต่อ ชี้หาก ส.ว.ยังมีการยื้อไม่เลือก สามารถตีความรัฐธรรมนูญโดยไม่นับเสียง ส.ว.เลือกนายกรัฐมนตรีได้ ติดตามชมรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ศิโรตม์ : วิเคราะห์ พิธาแพ้แต่ไม่แพ้ แรงกดดันพุ่งตรงส.ว. ยก 2อาจไม่เหมือนเดิม
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4079285

ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ : วิเคราะห์เกมชัยชนะของผู้แพ้ยกแรก พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กลับมาสู้ยกสอง แรงกดดันพุ่งตรง ส.ว. มวลชนสุดทน เลือก ก้าวไกล แต่ถูก ส.ว. ขวาง เบื้องหลังล็อบบี้กันฝุ่นตลบ บิ๊กคนไหนกดปุ่มสั่ง ส.ว. ติดตามชมรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ปธ.หอค้าไทย ย้ำตั้งรัฐบาลช้า กระทบงบรัฐอืด เศรษฐกิจพลาดเป้า 3%
https://www.matichon.co.th/economy/news_4079444

ปธ.หอค้าไทย ย้ำตั้งรัฐบาลช้า กระทบงบรัฐอืด เศรษฐกิจพลาดเป้า 3%

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากผลการลงคะแนนโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี หอการค้าไทย เชื่อว่ากระบวนการตามระบอบประชาธิปไตยในทางรัฐสภาได้พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่ ซึ่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่เป็น candidate ยังไม่สามารถผ่านการลงคะแนนได้ในครั้งแรก ซึ่งก็ยังมี Timeline ครั้งที่ 2 – 3 ตามที่มีกำหนดออกมาเบื้องต้นในวันที่ 19 และ 20 กรกฎาคม โดยหลังจากนี้ ทั้ง 8 พรรคร่วมฯ คงจะกลับไปทำความเข้าใจและเจรจาพูดคุยเพื่อหาแนวทางร่วมกันใหม่อีกครั้ง และคงต้องติดตามสถานการณ์ต่อไปอย่างใกล้ชิด

ด้านการชุมนุมทางการเมืองที่เกิดขึ้น ถือเป็นสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนภายใต้กฎหมาย ที่สามารถทำได้ และวันนี้เราเห็นแล้วว่าทุกฝ่ายต่างยอมรับและเคารพในกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเชื่อว่าในระยะสั้นการชุมนุมจะอยู่บนพื้นฐานของความเรียบร้อย ไม่กระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่หลายฝ่ายมองว่าสามารถเติบโตได้ทั้งปี 3 – 3.5 %
 
อย่างไรก็ตาม วันนี้ ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ แต่หอการค้าฯ ยังคงเชื่อว่าหลังจากนี้ จะมีกระบวนการหารือและทำความเข้าใจร่วมกัน ในที่สุดทุกฝ่ายจะเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศ และสนับสนุนให้เกิดรัฐบาลใหม่โดยเร็วที่สุด เพราะหากได้รัฐบาลล่าช้าออกไป การจัดตั้ง ครม. และการประกาศนโยบายต่อรัฐสภาอาจจะเกิดขึ้นช่วง ส.ค.- ก.ย. และกว่าจะจัดทำงบประมาณแล้วเสร็จอาจได้เริ่มใช้งบประมาณประเทศในไตรมาส 2 ปี 67 ซึ่งจะล่าช้าและกระทบต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุนต่างประเทศ นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเอกชนจึงอยากให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่รวดเร็วที่สุด เพื่อเศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่