เป็นกระทู้แรกนะคะ อาจจะเรียบเรียงไม่ค่อยดี
พื้นฐานครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ครอบครัวเราเคยล้มมา 1 ครั้งค่ะ เคยไม่มีเงินซักบาทเลย
เดิมที พ่อแม่เป็นคนที่ขี้กลัวในทุกๆอย่างค่ะ เราถูกเลี้ยงมาแบบไม่มีความมั่นใจใรตัวเอง
และไม่กล้าทำอะไรที่เสี่ยงเลย เป็นคนที่ขาดคงามมั่นใจมากๆ
เหตุการณ์ที่ 1 จนวันหนึ่งครอบครัวล้มค่ะ เราต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน เลยตัดสินใจบอกพ่อแม่ แต่โดน
คำพูดว่า เงินแค่นี้ไปทำทำไม ทั้งๆที่เราตั้งใจจะแบ่งเบาภาระที่บ้าน สุดท้ายเราตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์
ส่งตัวเองเรียนจบค่ะภูมิใจมาก แต่รู้ว่าที่ท่านห้ามเพราะเป็นห่วงกลัวกระทบเรื่องเรียน กลัวอันตราย
เหตุการณ์ที่ 2 เราตัดสินใจเรียนไม่จบหลักสูตร แต่ได้ใบปริญญามานะคะ แต่ไม่ใช่คณะที่ตัวเองลงเรียนไว้
กลับมาทำงานใกล้บ้านเพราะต้องดูแลครอบครัว และประหยัดค่าใช้จ่ายค่ะ ทำงานได้ไม่กี่ปีเราตัดสินใจลาออก
เพื่อเติบโตขึ้น ทางพ่อแม่พูดกับเราอีกว่า งานที่เราจะไปทำไม่โอเคสมัยนี้ไม่มีใครเค้าออกงานกัน คนเค้าอยากได้งาน
มีเยอะแยะแต่เรากลับออก สุดท้ายเราออกมาค่ะ และไปได้ดีหาเงินได้มากกว่าที่เก่า 3-4 เท่าต่อเดือน
ครั้งล่าสุด เราตัดสินใจจะทำธุรกิจของตัวเอง เรากลับไม่ได้รับคำปรึกษาอีกแล้วค่ะ มีแต่คำว่าถ้าไปไม่รอดล่ะ
ใช้เงินเยอะ ทำไมไม่ทำที่ทำอยู่จะดิ้นรนทำไม ทั้งๆที่เราทำเพื่ออยากให้ท่านสบาย
เราทุกใจมากค่ะเราอยากมีที่ปรึกษาที่ไม่ใช่คนภายนอกคนที่เราพูดคุยได้และเข้าใจเรามากที่สุดเพราะท่าน
เลี้ยงเรามากับมือ ทุกวันนี้เราจะทำอะไรไม่สามารถปรึกษาใครได้ บางทีเป็นเรื่องใหญ่เราก็ต้อง
คิดวนอยู่ในหัวเอง
อยากบอกพี่ๆทุกๆท่านที่มีลูกที่พร้อมจะเติบโต อยากให้เข้าใจเขาเปผ้นที่ปรึกษา เพราะถ้าหากลูกหาที่สบายใจ ความอบอุ่นปลอดภัยจากในบ้านไม่ได้
สุดท้ายเขาก็ต้องไปหาจากที่อื่น บางทีอาจจะโชคร้ายไปเจอคนผิดๆ สุดท้ายคนที่เสียใจจะเป็นตัวท่านเองนะคะ พูดแล้วเศร้าค่ะขอตัวไปร้องไห้
ปล.เราทำอะไรไม่เคยรบกวนเงินพวกท่านหรือทำให้พวกท่านเดือดร้อนเลยค่ะ
ครอบครัวไม่เคยสนับสนุน แถมตัดรอนน้ำใจ
พื้นฐานครอบครัวฐานะปานกลาง แต่ครอบครัวเราเคยล้มมา 1 ครั้งค่ะ เคยไม่มีเงินซักบาทเลย
เดิมที พ่อแม่เป็นคนที่ขี้กลัวในทุกๆอย่างค่ะ เราถูกเลี้ยงมาแบบไม่มีความมั่นใจใรตัวเอง
และไม่กล้าทำอะไรที่เสี่ยงเลย เป็นคนที่ขาดคงามมั่นใจมากๆ
เหตุการณ์ที่ 1 จนวันหนึ่งครอบครัวล้มค่ะ เราต้องทำงานเพื่อส่งตัวเองเรียน เลยตัดสินใจบอกพ่อแม่ แต่โดน
คำพูดว่า เงินแค่นี้ไปทำทำไม ทั้งๆที่เราตั้งใจจะแบ่งเบาภาระที่บ้าน สุดท้ายเราตัดสินใจทำงานพาร์ทไทม์
ส่งตัวเองเรียนจบค่ะภูมิใจมาก แต่รู้ว่าที่ท่านห้ามเพราะเป็นห่วงกลัวกระทบเรื่องเรียน กลัวอันตราย
เหตุการณ์ที่ 2 เราตัดสินใจเรียนไม่จบหลักสูตร แต่ได้ใบปริญญามานะคะ แต่ไม่ใช่คณะที่ตัวเองลงเรียนไว้
กลับมาทำงานใกล้บ้านเพราะต้องดูแลครอบครัว และประหยัดค่าใช้จ่ายค่ะ ทำงานได้ไม่กี่ปีเราตัดสินใจลาออก
เพื่อเติบโตขึ้น ทางพ่อแม่พูดกับเราอีกว่า งานที่เราจะไปทำไม่โอเคสมัยนี้ไม่มีใครเค้าออกงานกัน คนเค้าอยากได้งาน
มีเยอะแยะแต่เรากลับออก สุดท้ายเราออกมาค่ะ และไปได้ดีหาเงินได้มากกว่าที่เก่า 3-4 เท่าต่อเดือน
ครั้งล่าสุด เราตัดสินใจจะทำธุรกิจของตัวเอง เรากลับไม่ได้รับคำปรึกษาอีกแล้วค่ะ มีแต่คำว่าถ้าไปไม่รอดล่ะ
ใช้เงินเยอะ ทำไมไม่ทำที่ทำอยู่จะดิ้นรนทำไม ทั้งๆที่เราทำเพื่ออยากให้ท่านสบาย
เราทุกใจมากค่ะเราอยากมีที่ปรึกษาที่ไม่ใช่คนภายนอกคนที่เราพูดคุยได้และเข้าใจเรามากที่สุดเพราะท่าน
เลี้ยงเรามากับมือ ทุกวันนี้เราจะทำอะไรไม่สามารถปรึกษาใครได้ บางทีเป็นเรื่องใหญ่เราก็ต้อง
คิดวนอยู่ในหัวเอง
อยากบอกพี่ๆทุกๆท่านที่มีลูกที่พร้อมจะเติบโต อยากให้เข้าใจเขาเปผ้นที่ปรึกษา เพราะถ้าหากลูกหาที่สบายใจ ความอบอุ่นปลอดภัยจากในบ้านไม่ได้
สุดท้ายเขาก็ต้องไปหาจากที่อื่น บางทีอาจจะโชคร้ายไปเจอคนผิดๆ สุดท้ายคนที่เสียใจจะเป็นตัวท่านเองนะคะ พูดแล้วเศร้าค่ะขอตัวไปร้องไห้
ปล.เราทำอะไรไม่เคยรบกวนเงินพวกท่านหรือทำให้พวกท่านเดือดร้อนเลยค่ะ