ตามหัวข้อเลยครับ
แมวของผมตาย อยากระบายความรู้สึก แต่ไม่รู้จะคุยกับใครดี
ขอเล่าจุดเริ่มต้น ระยะเวลามันสั้นสำหรับผม แต่การเล่าอาจจะยาวสำหรับบางท่านครับ
ระยะเวลาที่ผมคิดว่ามันสั้นนั้น มันมีความรู้สึกต่างๆที่มากมายอัดแน่นอยู่ในนั้น
(หมายเหตุ -เรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 3)-)
วันนึง ผมนั่งซ่อมรถอยู่ โดยมีการใช้เครื่องเจียร์ แล้วมีแมวจรตัวเมียกระโดดเข้ามาหลังบ้าน ผมหันไปมอง มันก็หยุดมองผม ต่างฝ่ายต่างมองกันนิ่งๆเลย
แล้วมันก็แหกปากร้อง แงวววววววว ผมก็เลยถามร้องทำไม แล้วผมก็หันมาเปิดเครื่องเจียร์ต่อ คิดว่าเสียงดังเดี๋ยวก็ตกใจหนีไปเอง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น
มันเดินมานั่นข้างผมแบบติดๆเลย ผมปิดเครื่องเจียร์ แล้วก็มองมัน มันก็มองผม แล้วมันก็ร้อง แงววววว แล้วก้าวขึ้นมานั่งบนตักผมเฉยเลย
ผมให้นั่งอยู่พักนึง ก็ถามมันว่า ทำไม อยากมาอยู่ด้วยเหรอ ไม่ได้หรอกนะ ที่บ้านซ่อมรถบ่อย ทำนู่นนี่นั่นบ่อย มันอันตราย แล้วผมก็เอามันลงจากตัก
แล้วก็ซ่อมรถต่อ มันก็เดินออกไปนอนห่างๆผม แต่ไม่ไปไหน จนผ่านไปนานหลาย ชม. มันก็หายไป
แล้วมันก็มาที่บ้านผมติดกันประมาณสองอาทิตย์ โดยที่ผมพยายามใจแข็งไม่ยอมให้อะไรมันกิน เพราะกลัวมันจะมาอยู่ยาว
สุดท้าย ทนไม่ไหว ผมก็เลยหาของให้มันกิน สรุป มันมาอยู่ที่บ้านผมยาวเลย
ผมกับแฟนก็เลยคิดว่า ถ้าตกลงจะเลี้ยง คงต้องพามันไปทำหมันก่อน แต่ด้วยผมติดงานยาวประมาณเดือนเศษๆ เลยไม่ได้พาไปทำหมันซักที
มันดันท้องป่องก่อน ก็เลยคุยกันเอาไงดี แฟนก็เลยบอกว่า เกิดมาก็ต้องเลี้ยงนั่นละ ก็เลยตั้งชื่อให้มันตอนนั้นเลยว่า"ดอก"
(ตั้งเอาฮา เพราะมันชอบออกไปเที่ยว)
จนมันคลอดลูกทั้งหมด 3 ตัว เพศผู้ 1 เมีย 2 รวมตัวแม่ เลยต้องมีแมว 4 ตัว (ผมเฝ้าทั้งคืนตอนมันคลอด)
ตัวแม่ 3 สี
ลูกตัวผู้ สีส้ม (ตัวโตสุด และหางขอด) (ชื่อ ถุงทอง)
ลูกตัวเมีย สามสีเหมือนแม่ 1 ตัว ตำแหน่งถุงเท้า ตำแหน่งแต้มสีต่างๆเหมือนตัวแม่เป๊ะๆ แต่สีจะเข้มกว่าแม่ (ชื่อถุงเงิน)
ลูกตัวเมียอีกตัว สีเต่ากระ (ชื่อ ถุงตังค์)
จากที่ไม่มีความรู้เรื่องแมว และผมก็ไม่ได้ร่ำรวย ผมก็พยายามหาความรู้เกี่ยวกับแมวบ้าง และพยายามเลี้ยงจริงๆ
อายุเกือบ 3 เดือนก็พาไปทำหมัน เรียนรู้เรื่องอาหาร ส่วนมากก็ให้กินอาหารที่ราคาถูก เพราะไม่ค่อยมีเงินครับ
นานๆครั้งก็ให้กินปลาบ้าง อาหารเปียกบ้าง ขนมแมวเลียบ้าง ซื้อปลอกคอให้ ถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนกันสุนัขบ้า แต่ส่วนมากจะให้อาหารเม็ด
ทรายแมวเคยใช้ แต่ไม่สำเร็จจริงๆ เลยต้องยอมเลี้ยงแบบปล่อย
แล้วก็มาถึงเรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 1)
ลูกแมวตัวเมียลายเต่ากระ ตาย!!! จากการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมเอง
คือ มันอึในบ้าน ตอนนั้นผมกำลังกวาดบ้าน ผมเลยดุมัน แล้วก็ตีตูดมัน ไม่แรงมาก แล้วผมก็หัวไปกวาดบ้านต่อ แต่พอผมหันมาอีกที เห็นมันนอนเกร็งกระตุก
ผมตกใจ รีบดูว่ามันเป็นอะไร พยายามนวดหัวใจ(เคยเจอในคลิปนึงที่กู้ภัยช่วยเหลือแมวจากบ้านไฟไหม้) แต่ไม่เป็นผล ถุงตังค์ตาย!!!
ผมร้องไห้เสียใจ และขอโทษมัน แม่มัน และพี่น้องมันเลยในตอนนั้น และสัญญากับแม่มัน ว่าจะดูแลมันและลูกที่เหลือให้ดีเท่าที่จะทำได้
แล้วผมก็พาถุงตังค์ไปฝัง ในที่ดินเปล่าบ้านผม ผมเสียใจอยู่เป็นอาทิตย์(จริงๆถึงทุกวันนี้) แฟนผมก็บอกว่า อย่าเสียใจ อย่าโทษตัวเองเลย
ซึ่งผมหาข้อมูลในกูเกิล และไปถามหมอแถวบ้าน หมอบอกว่า เพราะน้องอาจจะยังเล็ก พอโดนตี(ต่อให้ไม่แรง) เลยตกใจจนช็อค เลยทำให้ตายได้
เรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 2)
หลังจากที่ถุงตังค์ตาย ผ่านมาประมาณ 7 เดือน ลูกแมวก็มีอายุประมาณ 10 เดือนได้
ดอก ซึ่งเป็นแม่ ก็ได้จากโลกนี้ไปด้วยสาเหตุรถเก๋งชน(ขับเร็วมาก) เพราะบ้านผมอยู่ติดถนน แล้วด้วยที่ดอก เคยเป็นแมวจร
กลับบ้านทุกวัน แต่ก็ออกบ้านทุกวันเช่นกัน ครั้งนี้ ผมเสียใจหนักกว่าเดิมอีก เพราะดอกเป็นแมวที่ดีมาก ตั้งแต่มีลูก
ต่อให้มันออกบ้านเป็นประจำ แต่มันก็กลับมานอนมาเล่นกับลูกบ่อยขึ้น คือ อยู่ติดบ้านมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
และดอกก็เรียกง่าย และชอบอยู่ใกล้ผมกับแฟนตลอด ผมออกไปนอกบ้าน ขี่รถกลับมาบ้านก็มานั่งรอ จอดรถเสร็จก็เดินตามมาไถขา มานอนขวาง
ผมลูบหัว หยอกเล่น ก็งับมือผมค้างไว้แบบเบาๆ เวลาผมกินข้าว ก็ไม่เคยร้องหรือกวนอะไร คือเป็นแมวที่สุภาพมากๆ
แต่มันก็จากผมและแฟนไปอีก ผมก็เลยพาดอกไปฝังให้นอนหลับอยู่ใกล้ๆกับถุงตังค์ลูกสาวของดอก
ระยะเวลาที่ดอกมาอยู่ที่บ้านผม เริ่มตั้งแต่รับเลี้ยง ก็ประมาณ 1 ปีกับอีกเกือบๆ 2 เดือน
ผมก็พูดกับดอกว่า จะพยายามเลี้ยงดูถุงเงินและถุงทองให้ดี ขอให้หลับให้สบาย ไปอยู่บนดาวแมวกับถุงตังค์นะลูก (เริ่มเรียกว่าลูก)
ยอมรับว่าเสียใจหนักมากจริงๆครับ
และแล้ว วันเวลาผ่านไป ผมและแฟน ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็คือ ถุงเงิน และ ถุงทอง
จนมาถึง วันที่ 2-3 ก.ค. 2566 (เป็นระยะเวลา 3 ปี 2 เดือน ที่เด็กที่เหลือทั้งสองได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้)
ซึ่งเป็นวันที่ผมเสียใจมากเป็นเท่าตัว(ตอนนี้ เวลานี้ ผมแทบจะทนไม่ไหวจริงๆ)
เรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 3)
การจากไปของ "ถุงทอง" หนุ่มน้อยของผม เด็กน้อยบ้านผม ลูกชายผม
ได้จากผมไป จากโลกนี้ไป อย่างไม่มีวันกลับ (ร้องไห้)
ถุงทอง เป็นแมวตัวผู้ หางขอด ที่วิ่งไม่เร็ว และเป็นแมวที่ติดบ้านและผมกับแฟนมาก จะอยู่ใกล้ตลอด(เหมือนแม่ของมัน)
กระโดดลงจากที่สูงก็ห่วย ลงพื้นทีจะมีเสียงลมออกปากดัง แอ๊ะ!!!
ชอบมาล้มตัวนอนขวางทางตอนกำลังจะเดิน
ชอบมายืนขวางตอนกำลังจะหันตัว จนผมและแฟนจะล้มกันหลายครั้งมากๆ
ชอบมานอนที่เท้า โดนการกอดเท้า กอดขาผมไว้
นอนท่าแปลกๆ เช่น นอนเอาหน้าอกลงขอบกำแพง โดยให้ขาหน้าห้อยลงทั้งสองข้าง
นั่งที่แปลกๆ(ท่าประจำ) คือ นั่งทับหางเอาตูดลงพื้นเหมือนคน หลังพิงฝา เอาเท้าหน้ามาบังตรงไข่
เลียขนก็ไม่เก่ง เลียขนทีตัวก็กลิ้งไปอีกทาง
เป็นแมวที่อารมณ์ดีมากๆ จนเหมือนอ่อนต่อโลก
เลี้ยงแบบปล่อย แต่แทบจะไม่เคยออกห่างจากบ้านเลย ออกไกลจากบ้านมากสุดๆ ก็ไม่เคยเกิน 20 เมตร(เรื่องจริง) และไม่บ่อย
เวลาผมและแฟนออกไปข้างนอก ถุงทองจะชอบนอนอยู่หลังบ้าน ไม่ก็หน้าบ้าน(ติดประตูเข้าตัวบ้าน)เหมือนรอผมและแฟนกลับบ้าน
ทุกครั้งที่ผมและแฟนออกมานั่งเล่นหน้าบ้าน ถุงทองก็จะมานั่งด้วยตลอด ความรู้สึกประมาณว่า ผมหรือแฟนอยู่ตรงไหน ถุงทองมันคงรู้สึกปลอดภัย
(ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า)
คือ ตอนที่ถุงทองยังเล็กอยู๋ อายุประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แถวบ้านจะมีแมวจรตัวผู้สีดำหุ่นบึกๆ เป็นเจ้าถิ่น เดินคุมถนนแถวนั้น
และถุงทองเคยโดนมันเข้ามากัดถึงในบ้าน มันมาตามกัดที่บ้านแทบจะทุกวัน ผมและแฟนต้องคอยช่วยทุกครั้ง
จนคิดว่าไม่ไหวแล้ว ต้องพาไปทำหมันแล้วละ เพราะแมวเรามันเริ่มฉี่รอบบ้านตัวเอง ก็เลยพาไปทหหมันตอนอายุได้ประมาณ 3 เดือนเศษๆ ถุงทองก็เริ่มไม่ฉี่ใส่บ้าน ยังฉี่อยู่แต่ก็น้อยลงมาก และกลิ่นไม่แรง แต่ไอ้ดำ มันก็ยังแวะมากัดอยู่ดี แค่ไม่บ่อยเหมือนก่อนทำหมัน
มันเข้ามากัด จนบางครั้งผมอยากจับไอ้ดำไปปล่อยที่อื่นไกลๆเลย แต่ก็ไม่ทำ เพราะสงสารมันนี่ละครับ
เวลาผ่านไป จนถุงทองและถุงเงิน อายุเดินมาถึง 2 ปี จนผมคิดแทบจะทุกวันว่า เด็กสองตัวนี้ คงอยู่กับผมไปจนหมดอายุไขได้แน่นอน ทำหมันทั้งสองตัว
ถุงทองอยู่ติดบ้าน และผมกับแฟนมาก ส่วนถุงเงิน ออกเที่ยว แต่กลับบ้านเป็นเวลา(เวลาอาหาร และเวลานอนกลางวัน) จนผมคิดว่า ตัวที่จะจากผมไปก่อนอีกตัว น่าจะเป็นถุงเงิน เพราะมันเดินข้ามถนนทุกวัน (ซอยตรงข้ามบ้านผมเค้าเลี้ยงแมวเหมือนกัน มันคงแวะไปเล่นกัน)
ผิดกับถุงทอง ทั้งๆที่เป็นตัวผู้ แต่ไม่ค่อยออกไปไหนเลย
วันเวลาผ่านไป จนมาถึงปีที่ 3 ซึ่งแทบจะทุกวัน ผมส่งและพาถุงทองและถุงเงินเข้านอนประจำ และผมจะพูดเบาๆ 2-3 ประโยคอยู่เสมอ
ก็คือ พ่อรักถุงเงินถุงทองนะ ฝันดีนะลูก / อยู่กับพ่อกับแม่ไปนานๆจนแก่นะลูก / บ้านหลังนี้คือบ้านของพวกหนูนะ ผมจะพูดประมาณนี้อยู่เสมอ
(จนบางครั้ง นึกสงสัยตัวเอง ว่าทำไมถึงกลายเป็นคนรักแมวมากขนาดนี้ แต่ปกติผมก็ชอบเล่นกับแมวอยู่แล้วครับ)
และในที่สุด วันสุดท้ายของชีวิต"ถุงทอง" ลูกชายผม ก็มาถึงจนได้
ด้วยการตายอย่างโหดร้ายสำหรับผม น้องจากโลกนี้ไปเพราะ ถูกหมา 7-8 ตัว ลุมกัดตาย โดยที่ผมไม่รู้อะไรเลย
เช้าวันที่ 2 ก.ค. 2566
ผมรอให้ข้าวเช้าเด็กทั้งสองตามปกติของทุกวัน ในตอน 7 โมงเช้า ตามปกติ เด็กทั้งสองจะรู้และมาตรงเวลา บางครั้งก็มาร้องเรียกผมที่หน้าประตูห้องนอน
(ตอนเช้า 7 โมง / ตอนเย็น 17 โมง กลางวันให้บ้างบางวัน)
ผมก็ออกไปเขย่าถุงอาหารเพื่อเรียกหาถุงทอง แต่ก็ไม่มา มาเพียงตัวเดียวคือถุงเงิน
ถ้าใครมาสาย ผมจะรอซักพัก และจะบอกตัวที่มาก่อนเสมอว่า "รอหน่อยนะ ถุงทอง หรือ ถุงเงิน ยังไม่มาเลยลูก แปปนึงนะ" ประมาณนี้
จน 7.30 น. ถุงทองก็ยังไม่มา ผมจึงเอาอาหารให้ถุงเงินก่อน
แต่ถุงเงินกินอยู่แค่ 3-4 เม็ดก็เลิกกิน แล้วเดินไปนั่นมองตรงประตูแมวที่จะเดินมาหลังบ้านผม ผมก็เลยคิดว่ามันแปลก เพราะปกติมันจะกินสองตัวพร้อมกัน
จนผมต้องเรียกให้ถุงเงินมากินอีกรอบ ก็มากิน 3-4 เม็ด แล้วกลับไปนั่งที่เดิมอีก และเหมือนมองหาถุงทอง
แต่ด้วยผมต้องทำธุระ ก็เลยคิดว่า คงยังไม่หิว หิวเดี๋ยวคงมาเอง เพราะบางครั้ง ถุงทองจะชอบขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้าน ซึ่งผมตามขึ้นไปดูยาก
เลยคิดว่า เดี๋ยวสายๆมาเรียกดูอีกที ไม่ก็คงโผล่มาให้เห็นเองนั่นละ แล้วผมก็บอกแฟนไว้ว่า ถุงทองยังไม่มากินข้าวนะ ช่วยรอดูด้วย
แต่ทั้งวัน วันนั้น ถุงทองก็ไม่ยอมมาให้เห็นหน้าเลย จนถึงเวลาอาหารเย็น
ผมก็คุยกับแฟนว่า เจอมันบ้างป่าว มันมาหรือยัง กลางวันก็ไม่เห็นเลย จนผ่านเวลาอาหารเย็นไปเป็นชั่วโมง ก็ยังไม่มาให้เห็นเลย ถุงเงินก็กินเสร็จไปแล้ว
(ปกติ เด็กทั้งสอง ไม่เคยพลายเวลาอาหารเลยซักมื้อ) ก็เลยออกไปเดินเรียกหา แต่ก็ยังไม่เจอ
จนเวลาถึงประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งฟ้าก็มืดแล้ว เลยเดินออกไปตามหาอีกรอบ เอาถุงอาหารเขย่าไปเรื่อยๆ เอาโทรศัพท์ส่องดูตามใต้ท้องรถ ก็ไม่เห็น
คืนนั้น ผมเดินหาแถวบ้าน รอบๆบ้าน 4-5 รอบ จนเช้า จนเวลาอาหารเช้าของวันที่ 3 ก.ค. 2566 มาถึง
เหมือนเดิม ถุงเงินกินก่อน แต่อากาถุงเงินก็เหมือนเดิม แต่จะมีแปลกกว่าเดิมก็คือ หลังถุงเงินกินเสร็จ มันเดินไปก้มๆดมๆตามจุดที่ถุงทองชอบนอน
ทำจมูกดมฟุตฟิตๆและมองหาตลอด สลับกับหันมามองผม ผมก็ได้แต่ลูบหัวแล้วพูดกับถุงเงินว่า
"เห็นถุงทองบ้างหรือป่าวลูก ถ้าเห็นตามถุงทองกลับบ้านหน่อยนะ" "ไปตามถุงทองกลับบ้านหน่อย"
พอสายๆของวันที่ 3 ก.ค. 2566 ผมก็คุยกับแฟน ถามกันว่าตกลงถุงทองหายไปไหน และเริ่มตามหาวงกว้างขึ้น ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหาแถวบ้าน
แต่หายังไงก็หาไม่เจอจริงๆ
จนใกล้เวลาอาหารเย็นของเด็กๆ 17 โมง ผมก็คุยกับแฟนว่า
"เค้ารู้สึกแปลกๆ เค้ารู้สึกว่าเหมือนถุงทองจะหายยาวไปเลย"
"เราจะไปหามันที่ไหนดีเนี่ย"
"เค้าว่ามันต้องติดรถคนอื่นไปแน่เลย"
"ถ้าใครเอามันไป รักมันชอบมันก็ขอให้เลี้ยงดูมันดีๆนะ"
ผมและแฟนพูดประโยคพวกนี้ต่อกันไปมาซ้ำๆ
จนถามกันว่า "ลองพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดีป่าว ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อกัน ลองขอให้เจ้าพ่อพาถุงทองกลับบ้าน"
แฟนผมก็เลยบอกว่า "ไป ไปก็ได้ ลองดู ทำแล้วสบายใจ ลองทำดู เผื่อเจ้าพ่อจะใจดี"
แล้วผมกับแฟน ก็พากันไปที่ศาลเจ้าพ่อ ไปจุดธูปอิษฐานขอเจ้าพ่อให้ช่วยพาแมวน้อยถุงทองเด็กบ้านผมกลับบ้าน
ต่อที่ คห. ต่อไปนะครับ น่าจะยาวเกิน ขออภัย หากใครอ่านไม่จบก็ไม่เป็นไรครับ
แมวของผม"ตาย" ขออนุญาตระบายความรู้สึกด้วยครับ
แมวของผมตาย อยากระบายความรู้สึก แต่ไม่รู้จะคุยกับใครดี
ขอเล่าจุดเริ่มต้น ระยะเวลามันสั้นสำหรับผม แต่การเล่าอาจจะยาวสำหรับบางท่านครับ
ระยะเวลาที่ผมคิดว่ามันสั้นนั้น มันมีความรู้สึกต่างๆที่มากมายอัดแน่นอยู่ในนั้น
(หมายเหตุ -เรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 3)-)
วันนึง ผมนั่งซ่อมรถอยู่ โดยมีการใช้เครื่องเจียร์ แล้วมีแมวจรตัวเมียกระโดดเข้ามาหลังบ้าน ผมหันไปมอง มันก็หยุดมองผม ต่างฝ่ายต่างมองกันนิ่งๆเลย
แล้วมันก็แหกปากร้อง แงวววววววว ผมก็เลยถามร้องทำไม แล้วผมก็หันมาเปิดเครื่องเจียร์ต่อ คิดว่าเสียงดังเดี๋ยวก็ตกใจหนีไปเอง แต่มันไม่เป็นอย่างนั้น
มันเดินมานั่นข้างผมแบบติดๆเลย ผมปิดเครื่องเจียร์ แล้วก็มองมัน มันก็มองผม แล้วมันก็ร้อง แงววววว แล้วก้าวขึ้นมานั่งบนตักผมเฉยเลย
ผมให้นั่งอยู่พักนึง ก็ถามมันว่า ทำไม อยากมาอยู่ด้วยเหรอ ไม่ได้หรอกนะ ที่บ้านซ่อมรถบ่อย ทำนู่นนี่นั่นบ่อย มันอันตราย แล้วผมก็เอามันลงจากตัก
แล้วก็ซ่อมรถต่อ มันก็เดินออกไปนอนห่างๆผม แต่ไม่ไปไหน จนผ่านไปนานหลาย ชม. มันก็หายไป
แล้วมันก็มาที่บ้านผมติดกันประมาณสองอาทิตย์ โดยที่ผมพยายามใจแข็งไม่ยอมให้อะไรมันกิน เพราะกลัวมันจะมาอยู่ยาว
สุดท้าย ทนไม่ไหว ผมก็เลยหาของให้มันกิน สรุป มันมาอยู่ที่บ้านผมยาวเลย
ผมกับแฟนก็เลยคิดว่า ถ้าตกลงจะเลี้ยง คงต้องพามันไปทำหมันก่อน แต่ด้วยผมติดงานยาวประมาณเดือนเศษๆ เลยไม่ได้พาไปทำหมันซักที
มันดันท้องป่องก่อน ก็เลยคุยกันเอาไงดี แฟนก็เลยบอกว่า เกิดมาก็ต้องเลี้ยงนั่นละ ก็เลยตั้งชื่อให้มันตอนนั้นเลยว่า"ดอก"
(ตั้งเอาฮา เพราะมันชอบออกไปเที่ยว)
จนมันคลอดลูกทั้งหมด 3 ตัว เพศผู้ 1 เมีย 2 รวมตัวแม่ เลยต้องมีแมว 4 ตัว (ผมเฝ้าทั้งคืนตอนมันคลอด)
ตัวแม่ 3 สี
ลูกตัวผู้ สีส้ม (ตัวโตสุด และหางขอด) (ชื่อ ถุงทอง)
ลูกตัวเมีย สามสีเหมือนแม่ 1 ตัว ตำแหน่งถุงเท้า ตำแหน่งแต้มสีต่างๆเหมือนตัวแม่เป๊ะๆ แต่สีจะเข้มกว่าแม่ (ชื่อถุงเงิน)
ลูกตัวเมียอีกตัว สีเต่ากระ (ชื่อ ถุงตังค์)
จากที่ไม่มีความรู้เรื่องแมว และผมก็ไม่ได้ร่ำรวย ผมก็พยายามหาความรู้เกี่ยวกับแมวบ้าง และพยายามเลี้ยงจริงๆ
อายุเกือบ 3 เดือนก็พาไปทำหมัน เรียนรู้เรื่องอาหาร ส่วนมากก็ให้กินอาหารที่ราคาถูก เพราะไม่ค่อยมีเงินครับ
นานๆครั้งก็ให้กินปลาบ้าง อาหารเปียกบ้าง ขนมแมวเลียบ้าง ซื้อปลอกคอให้ ถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีนกันสุนัขบ้า แต่ส่วนมากจะให้อาหารเม็ด
ทรายแมวเคยใช้ แต่ไม่สำเร็จจริงๆ เลยต้องยอมเลี้ยงแบบปล่อย
แล้วก็มาถึงเรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 1)
ลูกแมวตัวเมียลายเต่ากระ ตาย!!! จากการกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผมเอง
คือ มันอึในบ้าน ตอนนั้นผมกำลังกวาดบ้าน ผมเลยดุมัน แล้วก็ตีตูดมัน ไม่แรงมาก แล้วผมก็หัวไปกวาดบ้านต่อ แต่พอผมหันมาอีกที เห็นมันนอนเกร็งกระตุก
ผมตกใจ รีบดูว่ามันเป็นอะไร พยายามนวดหัวใจ(เคยเจอในคลิปนึงที่กู้ภัยช่วยเหลือแมวจากบ้านไฟไหม้) แต่ไม่เป็นผล ถุงตังค์ตาย!!!
ผมร้องไห้เสียใจ และขอโทษมัน แม่มัน และพี่น้องมันเลยในตอนนั้น และสัญญากับแม่มัน ว่าจะดูแลมันและลูกที่เหลือให้ดีเท่าที่จะทำได้
แล้วผมก็พาถุงตังค์ไปฝัง ในที่ดินเปล่าบ้านผม ผมเสียใจอยู่เป็นอาทิตย์(จริงๆถึงทุกวันนี้) แฟนผมก็บอกว่า อย่าเสียใจ อย่าโทษตัวเองเลย
ซึ่งผมหาข้อมูลในกูเกิล และไปถามหมอแถวบ้าน หมอบอกว่า เพราะน้องอาจจะยังเล็ก พอโดนตี(ต่อให้ไม่แรง) เลยตกใจจนช็อค เลยทำให้ตายได้
เรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 2)
หลังจากที่ถุงตังค์ตาย ผ่านมาประมาณ 7 เดือน ลูกแมวก็มีอายุประมาณ 10 เดือนได้
ดอก ซึ่งเป็นแม่ ก็ได้จากโลกนี้ไปด้วยสาเหตุรถเก๋งชน(ขับเร็วมาก) เพราะบ้านผมอยู่ติดถนน แล้วด้วยที่ดอก เคยเป็นแมวจร
กลับบ้านทุกวัน แต่ก็ออกบ้านทุกวันเช่นกัน ครั้งนี้ ผมเสียใจหนักกว่าเดิมอีก เพราะดอกเป็นแมวที่ดีมาก ตั้งแต่มีลูก
ต่อให้มันออกบ้านเป็นประจำ แต่มันก็กลับมานอนมาเล่นกับลูกบ่อยขึ้น คือ อยู่ติดบ้านมากกว่าเดิมเป็นเท่าตัว
และดอกก็เรียกง่าย และชอบอยู่ใกล้ผมกับแฟนตลอด ผมออกไปนอกบ้าน ขี่รถกลับมาบ้านก็มานั่งรอ จอดรถเสร็จก็เดินตามมาไถขา มานอนขวาง
ผมลูบหัว หยอกเล่น ก็งับมือผมค้างไว้แบบเบาๆ เวลาผมกินข้าว ก็ไม่เคยร้องหรือกวนอะไร คือเป็นแมวที่สุภาพมากๆ
แต่มันก็จากผมและแฟนไปอีก ผมก็เลยพาดอกไปฝังให้นอนหลับอยู่ใกล้ๆกับถุงตังค์ลูกสาวของดอก
ระยะเวลาที่ดอกมาอยู่ที่บ้านผม เริ่มตั้งแต่รับเลี้ยง ก็ประมาณ 1 ปีกับอีกเกือบๆ 2 เดือน
ผมก็พูดกับดอกว่า จะพยายามเลี้ยงดูถุงเงินและถุงทองให้ดี ขอให้หลับให้สบาย ไปอยู่บนดาวแมวกับถุงตังค์นะลูก (เริ่มเรียกว่าลูก)
ยอมรับว่าเสียใจหนักมากจริงๆครับ
และแล้ว วันเวลาผ่านไป ผมและแฟน ได้ใช้ชีวิตอยู่กับเด็กที่ยังมีชีวิตอยู่ ก็คือ ถุงเงิน และ ถุงทอง
จนมาถึง วันที่ 2-3 ก.ค. 2566 (เป็นระยะเวลา 3 ปี 2 เดือน ที่เด็กที่เหลือทั้งสองได้เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้)
ซึ่งเป็นวันที่ผมเสียใจมากเป็นเท่าตัว(ตอนนี้ เวลานี้ ผมแทบจะทนไม่ไหวจริงๆ)
เรื่องที่ผมต้องเสียใจ(ครั้งที่ 3)
การจากไปของ "ถุงทอง" หนุ่มน้อยของผม เด็กน้อยบ้านผม ลูกชายผม
ได้จากผมไป จากโลกนี้ไป อย่างไม่มีวันกลับ (ร้องไห้)
ถุงทอง เป็นแมวตัวผู้ หางขอด ที่วิ่งไม่เร็ว และเป็นแมวที่ติดบ้านและผมกับแฟนมาก จะอยู่ใกล้ตลอด(เหมือนแม่ของมัน)
กระโดดลงจากที่สูงก็ห่วย ลงพื้นทีจะมีเสียงลมออกปากดัง แอ๊ะ!!!
ชอบมาล้มตัวนอนขวางทางตอนกำลังจะเดิน
ชอบมายืนขวางตอนกำลังจะหันตัว จนผมและแฟนจะล้มกันหลายครั้งมากๆ
ชอบมานอนที่เท้า โดนการกอดเท้า กอดขาผมไว้
นอนท่าแปลกๆ เช่น นอนเอาหน้าอกลงขอบกำแพง โดยให้ขาหน้าห้อยลงทั้งสองข้าง
นั่งที่แปลกๆ(ท่าประจำ) คือ นั่งทับหางเอาตูดลงพื้นเหมือนคน หลังพิงฝา เอาเท้าหน้ามาบังตรงไข่
เลียขนก็ไม่เก่ง เลียขนทีตัวก็กลิ้งไปอีกทาง
เป็นแมวที่อารมณ์ดีมากๆ จนเหมือนอ่อนต่อโลก
เลี้ยงแบบปล่อย แต่แทบจะไม่เคยออกห่างจากบ้านเลย ออกไกลจากบ้านมากสุดๆ ก็ไม่เคยเกิน 20 เมตร(เรื่องจริง) และไม่บ่อย
เวลาผมและแฟนออกไปข้างนอก ถุงทองจะชอบนอนอยู่หลังบ้าน ไม่ก็หน้าบ้าน(ติดประตูเข้าตัวบ้าน)เหมือนรอผมและแฟนกลับบ้าน
ทุกครั้งที่ผมและแฟนออกมานั่งเล่นหน้าบ้าน ถุงทองก็จะมานั่งด้วยตลอด ความรู้สึกประมาณว่า ผมหรือแฟนอยู่ตรงไหน ถุงทองมันคงรู้สึกปลอดภัย
(ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า)
คือ ตอนที่ถุงทองยังเล็กอยู๋ อายุประมาณ 2 เดือนกว่าๆ แถวบ้านจะมีแมวจรตัวผู้สีดำหุ่นบึกๆ เป็นเจ้าถิ่น เดินคุมถนนแถวนั้น
และถุงทองเคยโดนมันเข้ามากัดถึงในบ้าน มันมาตามกัดที่บ้านแทบจะทุกวัน ผมและแฟนต้องคอยช่วยทุกครั้ง
จนคิดว่าไม่ไหวแล้ว ต้องพาไปทำหมันแล้วละ เพราะแมวเรามันเริ่มฉี่รอบบ้านตัวเอง ก็เลยพาไปทหหมันตอนอายุได้ประมาณ 3 เดือนเศษๆ ถุงทองก็เริ่มไม่ฉี่ใส่บ้าน ยังฉี่อยู่แต่ก็น้อยลงมาก และกลิ่นไม่แรง แต่ไอ้ดำ มันก็ยังแวะมากัดอยู่ดี แค่ไม่บ่อยเหมือนก่อนทำหมัน
มันเข้ามากัด จนบางครั้งผมอยากจับไอ้ดำไปปล่อยที่อื่นไกลๆเลย แต่ก็ไม่ทำ เพราะสงสารมันนี่ละครับ
เวลาผ่านไป จนถุงทองและถุงเงิน อายุเดินมาถึง 2 ปี จนผมคิดแทบจะทุกวันว่า เด็กสองตัวนี้ คงอยู่กับผมไปจนหมดอายุไขได้แน่นอน ทำหมันทั้งสองตัว
ถุงทองอยู่ติดบ้าน และผมกับแฟนมาก ส่วนถุงเงิน ออกเที่ยว แต่กลับบ้านเป็นเวลา(เวลาอาหาร และเวลานอนกลางวัน) จนผมคิดว่า ตัวที่จะจากผมไปก่อนอีกตัว น่าจะเป็นถุงเงิน เพราะมันเดินข้ามถนนทุกวัน (ซอยตรงข้ามบ้านผมเค้าเลี้ยงแมวเหมือนกัน มันคงแวะไปเล่นกัน)
ผิดกับถุงทอง ทั้งๆที่เป็นตัวผู้ แต่ไม่ค่อยออกไปไหนเลย
วันเวลาผ่านไป จนมาถึงปีที่ 3 ซึ่งแทบจะทุกวัน ผมส่งและพาถุงทองและถุงเงินเข้านอนประจำ และผมจะพูดเบาๆ 2-3 ประโยคอยู่เสมอ
ก็คือ พ่อรักถุงเงินถุงทองนะ ฝันดีนะลูก / อยู่กับพ่อกับแม่ไปนานๆจนแก่นะลูก / บ้านหลังนี้คือบ้านของพวกหนูนะ ผมจะพูดประมาณนี้อยู่เสมอ
(จนบางครั้ง นึกสงสัยตัวเอง ว่าทำไมถึงกลายเป็นคนรักแมวมากขนาดนี้ แต่ปกติผมก็ชอบเล่นกับแมวอยู่แล้วครับ)
และในที่สุด วันสุดท้ายของชีวิต"ถุงทอง" ลูกชายผม ก็มาถึงจนได้
ด้วยการตายอย่างโหดร้ายสำหรับผม น้องจากโลกนี้ไปเพราะ ถูกหมา 7-8 ตัว ลุมกัดตาย โดยที่ผมไม่รู้อะไรเลย
เช้าวันที่ 2 ก.ค. 2566
ผมรอให้ข้าวเช้าเด็กทั้งสองตามปกติของทุกวัน ในตอน 7 โมงเช้า ตามปกติ เด็กทั้งสองจะรู้และมาตรงเวลา บางครั้งก็มาร้องเรียกผมที่หน้าประตูห้องนอน
(ตอนเช้า 7 โมง / ตอนเย็น 17 โมง กลางวันให้บ้างบางวัน)
ผมก็ออกไปเขย่าถุงอาหารเพื่อเรียกหาถุงทอง แต่ก็ไม่มา มาเพียงตัวเดียวคือถุงเงิน
ถ้าใครมาสาย ผมจะรอซักพัก และจะบอกตัวที่มาก่อนเสมอว่า "รอหน่อยนะ ถุงทอง หรือ ถุงเงิน ยังไม่มาเลยลูก แปปนึงนะ" ประมาณนี้
จน 7.30 น. ถุงทองก็ยังไม่มา ผมจึงเอาอาหารให้ถุงเงินก่อน
แต่ถุงเงินกินอยู่แค่ 3-4 เม็ดก็เลิกกิน แล้วเดินไปนั่นมองตรงประตูแมวที่จะเดินมาหลังบ้านผม ผมก็เลยคิดว่ามันแปลก เพราะปกติมันจะกินสองตัวพร้อมกัน
จนผมต้องเรียกให้ถุงเงินมากินอีกรอบ ก็มากิน 3-4 เม็ด แล้วกลับไปนั่งที่เดิมอีก และเหมือนมองหาถุงทอง
แต่ด้วยผมต้องทำธุระ ก็เลยคิดว่า คงยังไม่หิว หิวเดี๋ยวคงมาเอง เพราะบางครั้ง ถุงทองจะชอบขึ้นไปนอนบนหลังคาบ้าน ซึ่งผมตามขึ้นไปดูยาก
เลยคิดว่า เดี๋ยวสายๆมาเรียกดูอีกที ไม่ก็คงโผล่มาให้เห็นเองนั่นละ แล้วผมก็บอกแฟนไว้ว่า ถุงทองยังไม่มากินข้าวนะ ช่วยรอดูด้วย
แต่ทั้งวัน วันนั้น ถุงทองก็ไม่ยอมมาให้เห็นหน้าเลย จนถึงเวลาอาหารเย็น
ผมก็คุยกับแฟนว่า เจอมันบ้างป่าว มันมาหรือยัง กลางวันก็ไม่เห็นเลย จนผ่านเวลาอาหารเย็นไปเป็นชั่วโมง ก็ยังไม่มาให้เห็นเลย ถุงเงินก็กินเสร็จไปแล้ว
(ปกติ เด็กทั้งสอง ไม่เคยพลายเวลาอาหารเลยซักมื้อ) ก็เลยออกไปเดินเรียกหา แต่ก็ยังไม่เจอ
จนเวลาถึงประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ซึ่งฟ้าก็มืดแล้ว เลยเดินออกไปตามหาอีกรอบ เอาถุงอาหารเขย่าไปเรื่อยๆ เอาโทรศัพท์ส่องดูตามใต้ท้องรถ ก็ไม่เห็น
คืนนั้น ผมเดินหาแถวบ้าน รอบๆบ้าน 4-5 รอบ จนเช้า จนเวลาอาหารเช้าของวันที่ 3 ก.ค. 2566 มาถึง
เหมือนเดิม ถุงเงินกินก่อน แต่อากาถุงเงินก็เหมือนเดิม แต่จะมีแปลกกว่าเดิมก็คือ หลังถุงเงินกินเสร็จ มันเดินไปก้มๆดมๆตามจุดที่ถุงทองชอบนอน
ทำจมูกดมฟุตฟิตๆและมองหาตลอด สลับกับหันมามองผม ผมก็ได้แต่ลูบหัวแล้วพูดกับถุงเงินว่า
"เห็นถุงทองบ้างหรือป่าวลูก ถ้าเห็นตามถุงทองกลับบ้านหน่อยนะ" "ไปตามถุงทองกลับบ้านหน่อย"
พอสายๆของวันที่ 3 ก.ค. 2566 ผมก็คุยกับแฟน ถามกันว่าตกลงถุงทองหายไปไหน และเริ่มตามหาวงกว้างขึ้น ขี่มอเตอร์ไซค์ตามหาแถวบ้าน
แต่หายังไงก็หาไม่เจอจริงๆ
จนใกล้เวลาอาหารเย็นของเด็กๆ 17 โมง ผมก็คุยกับแฟนว่า
"เค้ารู้สึกแปลกๆ เค้ารู้สึกว่าเหมือนถุงทองจะหายยาวไปเลย"
"เราจะไปหามันที่ไหนดีเนี่ย"
"เค้าว่ามันต้องติดรถคนอื่นไปแน่เลย"
"ถ้าใครเอามันไป รักมันชอบมันก็ขอให้เลี้ยงดูมันดีๆนะ"
ผมและแฟนพูดประโยคพวกนี้ต่อกันไปมาซ้ำๆ
จนถามกันว่า "ลองพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดีป่าว ไปไหว้ศาลเจ้าพ่อกัน ลองขอให้เจ้าพ่อพาถุงทองกลับบ้าน"
แฟนผมก็เลยบอกว่า "ไป ไปก็ได้ ลองดู ทำแล้วสบายใจ ลองทำดู เผื่อเจ้าพ่อจะใจดี"
แล้วผมกับแฟน ก็พากันไปที่ศาลเจ้าพ่อ ไปจุดธูปอิษฐานขอเจ้าพ่อให้ช่วยพาแมวน้อยถุงทองเด็กบ้านผมกลับบ้าน
ต่อที่ คห. ต่อไปนะครับ น่าจะยาวเกิน ขออภัย หากใครอ่านไม่จบก็ไม่เป็นไรครับ