A Man Called Otto คุยเกี่ยวกับหนัง ( มี สปอยล์ บางส่วน )


ส่วนใหญ่หนัง Hollywood จะฉายเมืองไทย ก่อนหรือวันเดียวกับ ใน สหรัฐฯ แต่ The Man Called Otto กลับมาฉายช้ากว่าหลายเดือน คือ ปลายปีฉายที่ สหรัฐ แต่ในไทยคือเข้าโรงฉายเดือน มีนาคม ส่วนผมได้แผ่น DVD มาดู เมื่อวันเสาร์ และ เห็นว่า ใน Pantip ไม่ค่อยมีคุยถึงหนังเรื่องนี้มากนัก ก็มาคุยเกี่ยวกับหนังกันสักหน่อย 

หนังสร้างจาก หนังสือเรื่องแต่งจาก สวีเดน ดัดแปลงมาทำเป็นภาพยนตร์โดย ทอม แฮ้งค์ เป็น Producer ร่วมด้วย อะไรที่ Hank จับต้องมันก็ต้องมีอะไรดีอยู่บ้าง ในฐานะ 2 รางวัลออสการ์ที่เขาได้รับมา หนังไม่ปูเนื้อหามากมาย แต่เข้าฉากเป็น เหมือนห้างเล็กๆในเมือง คล้ายหนัง Larry Crown ของเขาที่เล่นกับ จูเลีย โรเบีร์ตส์ เมื่อหลายปีก่อน เขาเป็นพนักงานห้างที่โดนไล่ออก นั่นแล แต่คราวนี้แตกต่างไป เขาคือลูกค้า 

ออตโต้ คือชายวัย 64 ที่กำลังไปซื้อเชือกและ อุปกรณ์ต่างๆ เพื่อทำตามความรู้สึกที่ว่า โลกนี้ไม่ต้องการเขาแล้ว และ เขาก็ไม่ต้องการอยู่ต่อไป หนังช่วงแรกจัดให้เห็นเลยว่า Otto มาจากยุคไหน เขาทำอะไรแบบเก่าๆ เจอพนักงานห้างรุ่นใหม่ บทสนทนาที่ต่อปากต่อคำกัน แบบ เด็กกับผู้ใหญ่ คนละวัย ก็ดูแล้ว พอเข้าใจได้ทั้งสองฝ่ายว่า เด็กก็ทำตามหน้าที่แล้ว ผู้ใหญ่ ก็จะมองว่ามันไม่ใช่ หนังไม่ได้แสดงถึงบทสรุปของการต่อปากต่อคำ กลับปล่อยไว้ให้คนดู รู้จัก Otto แค่นั้น แล้วตัดไปที่บ้านเขาเลย ซึ่งมันก็ดี ตรงที่ ไม่ได้ให้บทสรุปส่วนนั้นเพราะ มันจะเป็นการชี้นำว่า ตกลง ใครถูก และนั่นหมายถึง อีกฝ่ายไม่ถูก ซึ่งสังคมโลกเราทุกวันนี้ ทะเลาะกันมากพอแล้ว 




Otto มีเพื่อนบ้าน ที่ดูก็รูว่า เขารู้จักกันดี ทั้งสองฝ่าย หลายๆคน รู้ทันกันว่างั้นกับเหตุการณ์แต่ละอย่าง คนรุ่น Otto โตมากับเรื่องรายละเอียด แม้จะดูเหมือนเรื่องมาก แต่มันก็คงไม่มากเรื่อง ถ้าไม่มีใครไปยุ่งกับเขา หรือทำให้เขาเดือดร้อน เช่น ให้สุนัขไปขี้หน้าบ้านเขา  

หนังเข้าโหมด เนื้อเรื่องก็คือ เพื่อนบ้าน และ ชีวีตของ Otto ในชุมชนแค่นั้นเอง เขาเคยมีภรรยา ที่รัก แต่ปัจจุบัน Otto ไม่มีใคร เขาตัวคนเดียว ปมชีวีตทำให้เขา ตัดใจบางอย่าง แต่ก็มีเหตุเพื่อนบ้านมา แทรก เช่นเพื่อนบ้านย้ายมาใหม่ ในหนังดูแล้ว คนมาใหม่ ดีครับ Otto ใช้เวลาส่วนใหญ่ ไปกับ การพยายาม ตัดใจลาโลก แต่ก็ต้องมีเพื่อนบ้าน คอยมาขนานเวลาของเขา การมีเพื่อนบ้านดีๆ ก็นำพาอะไรดีๆมาให้ได้ แต่หมายถึง Otto เองก็คือ คนใจดีคนนึง ด้วยน่ะ  หนังคล้ายๆจะให้เห็นชัดเจนว่า คนประเภทไหน คบกันได้ ประเภทไหน คบกันไม่ได้ ก็จากเพื่อนบ้านของ Otto นี่ละ เพียงแต่จะถึงขั้นทะเลาะกันมากน้อย หรือแค่ ต่อปากต่อคำ ขู่กันไปวันๆ ก็ตาม


หนังมีช่วง แฟลชแบ็ค ถึง Otto วัยหนุ่มกับ ภรรยา คนสวยคนดีของเขา วันแรกที่เจอ จวบจนวันที่ได้แต่งงานกัน เป็นช่วงหนึ่งของหนังที่ทำให้เราดูแล้ว ซึ้งดีครับ กับ บทสนทนา ตรงนี้ขอไม่สปอยล์ละกันว่า บทสนทนา ที่ผมว่าดี เขาคุยอะไรกันบ้าง บางคนอาจเฉยๆก็ได้ แต่ผมว่า ดี 

คนเราบางครั้งการ ออกไปข้างนอก คุณถึงจะเจอผู้คน และ เหตุการณ์ ถ้าคุณไม่ไปไหน คุณก็ไม่เจออะไร ชีวีตมันก็ไม่มีอะไร ว่างั้น เพียงแต่ จะเจอเรื่องดี หรือ เรื่องร้าย และ คุณจะทำยังไงกับเหตุการณ์เหล่านั้น Otto ออกไปทำเรื่องเดียวที่เขาเฝ้าจะทำมาตลอด ที่สถานีรถไฟ แต่ดันกลายเป็นว่า เขาไปสร้าง วีรกรรม กลายเป็น คนดังโลกออนไลน์ เขัาให้ซะอีก ซึ่งตอนแรก  Otto มองว่าไร้สาระ แต่เขาก็ฉลาดพอจะเก็บทุกอย่ง เช่น นามบัตรของนักข่าว ออนไลน์ ไว้ก่อน และ มันก็เป็นเรื่องถูกต้อง เพราะนามบัตรนั้น ทำให้เขามีช่องทางทำอะไรมากกว่า ที่ตัวเขาเองคนเดียวจะทำได้ 


หากใครไม่เชื่อโชคชะตา การได้เพื่อนบ้านใหม่ จะบอกคุณได้ว่า โชคชะตาบางครั้งมันมีหรือไม่ คุณจะได้เพื่อนบ้านตัวปัญหา หรือ ได้เพื่อนบ้านดีๆ แล้วแต่ดวงล้วนๆ ในหนัง Otto เจอ มารีซอล สาว เม็กซีกัน ผู้มีท่าทางคุยเก่ง แถมทำอาหารเก่ง แต่มากับสามีจ๋อยๆ และ ลูกน้อยพ่วงมาอีก Otto ก็ต้องพักเรื่องที่เคยจะทำไว้ มาวุ่นวายกับเธอคนนี้ ในหลายๆเรื่อง ครั้งแล้ว ครั้งเล่า จนเธอ เอ่ยปากขอตอบแทน น้ำใจ Otto ด้วยการขอช่วยเหลือเขา ให้จัดบ้านให้ เท่านั้นละครับ Otto ก็เลย เหมือนโดนจี้จุดยัง ภรรยา ที่เคยอยู่ด้วย เพราะเธอคือคนจัดบ้าน และข้าวของ ของภรรยา Otto ก็ยังอยู่ที่เก่า เหมือนตอนเธอยังอยู่ด้วย 

มารีซอล คือ อีกคนนึงที่มี บทสนทนายาว และ ฟังดูจะทำให้ Otto ที่เป็นคนเก่ง หัวรั้น มั่นใจ ต้องอ่อนลง แบบ ยอมรับในคำพูดของ มารีซอล ซึ่งแม้เธอจะดู ชาวบ้านๆ แต่ เธอมี ดีกรี จบ มหาลัย ถึงสองใบ ไม่ใช่ภรรยาตาสี ตาสา ไร้การศึกษา เพียงแต่เธอพยายามทำตัว ไม่วางฟอร์มเท่านั้นเอง คำพูดที่กระแทกใส่หน้า Otto ตรงนี้ ขอ สปอยล์แล้วนะครับ 

มารีซอล พูดใส่หน้า Otto ว่า ไม่มีใครอยู่ในโลกนี้ และทำทุกอย่างตัวคนเดียวได้ ซึ่งนั่นคือ ตอนที่ Otto ที่ช่วย มารีซอลมาตลอด ต้องมาขอให้เธอช่วย 

นักข่าวโลกโซเชียล ที่ Otto ตอนแรกมองว่า ไร้สาระ ภายหลัง ก็ Otto เองนี่ละ ที่รู้เต็มอกว่า เขาต้องพึ่งเธอเช่นกัน ทั้งที่ตอนแรก Otto ทำไม่ดีกับนักข่าวคนนั้น เพราะเขาไม่นึกว่าวันนึงเขาต้องพึ่งพาเธอ แต่ที่เขาต้องพึ่งพาเธอก็เพราะ เขาต้องช่วยเพื่อนบ้านที่เขารักให้พ้นจากมือ คนโกง นั่นเอง

Otto เป็นคนแก่ ที่รู้หลายอย่าง เขาช่วยคนบางคนที่เขาเห็นว่า มีความเกี่ยวพันธ์กัน เช่น ลูกศษย์ ภรรยา เพื่อนบ้าน แค่นั้นละครับ เขาปกป้องชุมชน ต่อว่าคนแปลกหน้า ที่เข้ามา เหมือนกับเป็น สายตรวจน่ะแหล่ะ คอยสอดส่อง ความไม่ถูกต้อง และ พยายามเรียกร้องความถูกต้อง ตามแบบของเขา 

แน่นอนการให้ ย่อมได้การรับตอบแทน เพื่อนบ้าน และ เพื่อนคนอื่นๆ รวมถึงแมวจรจัด ก็นับเป็นผู้ทำให้ Otto มีความสุขได้ เพราะเขาเป็นฝ่าย ให้ ก่อนทั้งหมด แต่คนเหล่านั้นก็คือ คนดีด้วย นั่นอาจเป็นอีกมุมมองนึงว่า คนดี จะได้รับการช่วยเหลือ จากคนดีด้วยกัน ในเรื่องดีๆ 

ไม่ใช่หนังตลก แต่เป็นหนังดราม่า ชีวีต ที่ใกล้ตัว ง่ายๆ กลุ่มคนดู คงจะเป็นกลุ่มเล็กๆ หนังทำรายได้ไป 100 กว่าล้าน แต่ก็คงกำไร มากพอเมื่อเทียบกับต้นทุน ไม่รวมเรื่องการขาย แผ่น หรือ สตรีมมีง ที่จะตามมาอื่นๆ 

ผมให้เป็น 1 ในหนังดีของปีนี้ละกันครับ ไม่ต้องให้ดาว ไม่ต้องให้คะแนน แต่ผมดู 2 รอบในสองวันต่อๆกัน คือ ชอบมากพอที่จะดูซ้ำต่อกันได้เลย 
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่