OTO เข้าสู่วิกฤติแล้วหรือยัง?

กระทู้สนทนา
นี่คงเป็นคำถามที่นักลงทุนทั้งหลาย กำลังตั้งคำถามในใจเกี่ยวกับหุ้น OTO ? จริงไหมครับ

สำหรับความคิดของผม ผมคาดว่า OTO  เข้าสู่วิกฤติไปเรียบร้อยแล้วครับ
      แต่วิกฤติที่ว่านี้  คงยังไม่ใช่วิกฤติการเงิน หรือสภาพคล่องของบริษัทครับ  ทั้งนี้เนื่องจากหากดูจากงบการเงินใน Q1-66 (หมายถึงการมองกลับไปในอดีต)  บริษัทก็ยังดูดีอยู่นะครับ  มีหนี้ไม่มาก แม้ว่าจะมีขาดทุนสะสมอยู่บ้าง แต่ก็มีโอกาสที่จะล้างขาดทุนสะสมได้หมด  หากว่าบริษัท ตั้งใจที่จะทำธุรกิจ จริง ๆ ครับ  (ย้ำว่าเป็นการมองไปในอดีตนะครับ)  ส่วนเหตการณ์ปัจจุบันคงต้องรองบ Q2-66 ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน ก็คอยติดตามกันต่อไปครับ
  
     กลับมาที่ประเด็นที่ผมกล่าวไว้ว่า OTO  เข้าสู่วิกฤติไปเรียบร้อยแล้วนั้น ผมหมายถึงวิกฤติความน่าเชื่อถือของบริษัท หรือวิกฤติแห่งความศรัทธาของบริษัทครับ  
     คงปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา  ราคาหุ้นของ OTO  ลงแบบไม่คิดชีวิต ทำให้นักลงทุนไม่ว่าจะรายย่อย หรือรายใหญ่ต่างเจ็บตัวไปตาม ๆ กัน  ซึ่งการที่ราคาหุ้นลงมากมายขนาดนั้น เป็นต้นเหตุของวิกฤติแห่งความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ครับ เพราะไม่ว่าบริษัทจะชี้แจงเหตุการณ์ต่าง ๆ  หลายต่อหลายครั้ง แต่ราคาหุ้นก็ไม่ตอบสนองใด ๆ ครับ

    คำถามต่อมาก็คือ บริษัท OTO สามารถแก้ไขวิกฤตินี้ได้หรือไม่?
    สำหรับความเห็นของผมนั้น  บริษัทสามารถแก้ไขวิกฤตินี้ได้อาจจะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปครับ  และวิธีการที่บริษัทสามารถทำได้เลยในตอนนี้ก็คือ    การชี้แจงถึงธุรกิจที่ได้แจ้งกับนักลงทุนไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น EV bike หรือ ธุรกิจพลังงานสะอาด  ว่าทางบริษัทมีแนวทางในการทำธุรกิจต่าง ๆ เหล่านี้อย่างไร?
    และเงินที่ได้ไปจากการแปลง w จำนวนประมาณ 700 ลบ.นั้น มีแนวทางใช้ลงทุนอะไรบ้าง?   
    ในส่วนของการสรรหา CEO คนใหม่นั้น  ก็เป็นอีกหนึ่งของต้นเหตุแห่งวิกฤติความเชื่อมั่นในครั้งนี้  ฉะนั้นบริษัท ควรรีบสรรหา CEO คนใหม่มาแทน CEO คนปัจจุบันให้เร็วที่สุด และคงต้องมีดีกรีไม่ด้อยไปกว่า CEO คนเดิมที่ลาออกไปก่อนเข้ารับตำแหน่งอีกด้วย     นั้นเพราะว่า CEO คนปัจจุบันอาจจะไม่ต้องการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งนี้แล้ว มิเช่นนั้นคงไม่สละต่ำแหน่งให้ CEO ท่านก่อนที่ลาออกไปก่อนกำหนด จริงไหม?

     ทั้งนี้ทั้งนั้น นอกจากบริษัทต้องชี้แจงแผนการต่าง ๆ ที่กล่าวไปแล้ว  สิ่งที่สำคัญคือ บริษัทต้องลงมือทำจริง ๆ  บริษัทต้องกระทำการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ให้นักลงทุนได้เห็นเป็นรูปธรรม   เมื่อทำได้เช่นนั้นแล้ว  เชื่อว่าวิกฤติแห่งความเชื่อมั่นของบริษัทในครั้งนี้ ก็น่าจะคลี่คลายไปได้ในที่สุดครับ

หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะครับ
ดช.จุ่น
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่