เอางัยดี กับเงินบำนาญชราภาพ (เรื่องมันยาวนะ)

สวัสดีครับ ตอนนี้ ผมคิดว่า ผมจะเกษียณจากการทำงานแล้ว แต่ต้องบอกว่า มันเป็นการเกษียณแบบไม่ได้ตั้งใจเสียมากกว่า เนื่องจากมันเป็นอุบัติเหตุของชีวิต (บังเอิญไปตรวจพบว่า ตัวเองป่วยเป็นมะเร็งครับ) แต่ตอนนี้ ปัญหาของผม คือ เรื่องของประกันสังคมนี่แหละ เอาหละ ผมขอริ่มเรื่องเลยนะครับ 
                ผมเกิดเดือนสิงหาคม 2511 (อายุ 54 ปี 10 เดือน) โดยทำงานโดยเข้าระบบ ประกันสังคม มาตั้งแต่ปี 2543 ซึ่งถึงตอนนี้ ก้อคือประมาณ 23  ปีแล้ว (2543-2566) โดยผมลาออกจากงานเมื่อวันที่ 5  กุมภาพันธ์ 2566 โดยฐานเงินเดือนของผม (เฉลี่ย 60 เดือน) ก้อตามเกณฑ์ประกันสังคมตลอด นั่นคือ ไม่ต่ำกว่า 15,000.- บาท ซึ่งจนถึง ณ ตอนนี้ มีเงินสะสมชราภาพ อยู่ที่ประมาณ 200,000.- บาท
                ซึ่งหลังจากผมป่วยแล้วลาออกเนี่ย ผมก้อได้ใช้สิทธิ์ ปกส มาทำการรักษาตัว จากนั้นก้อมานั่งคิดว่า คงต้องถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนจากผู้กันตน ม 33 เป็น ม 39 เสียที ซึ่งตามกฎหมายแล้วเนี่ย ก้อคือ ต้องเปลี่ยนสถานภาพภายใน 6 เดือน (นั่นหมายถึงว่า จะครบกำหนดในการเปลี่ยน ในวันที่ 4 สิงหาคม นี้) โดยเดือนหน้านี้ หมายถึง ผมจะครบกำหนด 55 ปีบริบูรณ์ ซึ่งสามารถจะลาออกและยื่นเรื่องขอบำนาญขราภาพได้ แต่หากไม่เปลี่ยนสถานะ ตัวผมเองก้อจะหลุดออกจากระบบไป
                ผมก้อได้นั่งอ่านเกี่ยวกับประกันสังคมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซด์ ของ ปกส เอง บางทีก้อได้โทรไปขอคำปรึกษา แต่ก้ออย่างว่า ระบบราชการไทย โทรไม่เคยติดสักที หรือไม่ก้อ คำแนะนำต่าง ๆ ก้อไม่เคลียร์สักเท่าไหร่ ประเด็นของผมคือ อย่างที่ทุกคนทราบ ว่าหากเปลี่ยนตัวเอง จาก ม 33 เป็น ม 39 เงินบำนาญชราภาพจะลดลง เนื่องจากฐานเงินเดือน จะคำนวณจาก 4,800 บาท (มิใช่ 15,000.- ดังเช่น ม 33) แต่ก่อนอื่น ขอยกตัวอย่างการคำนวณบำนาญขราภาพของผมให้ดูก่อนนะครับ 

                ทำงานมา 23 ปี  โดย 15 ปีแรก ได้ 20% นั่นคือ 3,000.- บาท (จากฐาน 15,000.- เงินเดือน 60 เดือนสุดท้ายเฉลี่ย)
                ปีที่เพิ่ม ทำการบวกเพิ่มได้ปีละ 1.5% (เพราะฉะนั้น 8 ปี จะเท่ากับ 12% ดังนั้น จะใช้ 32% (20% + 12%) คิดจากฐาน 15,000
                จะเท่ากับ บำนาญชราภาพ เป็นเงิน 4,800.- / เดือน 

แต่ปัญหา คือ จังหวะของขีวิตมันบังคับ ให้ต้องเปลี่ยน เนื่องจากการรักษาโรคมะเร็ง ต้องรักษาต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ขาดช่วง ผมจึงคิดว่า ต้องเปลี่ยนจาก ม 33 ไปเป็น ม 39 ภายในเดือนนี้ และคงสถานะ ม 39 ไปจนถึง กลางปีหน้า เพื่อประวิงเวลาในการตรวจรักษาเพราะขั้นตอนการฉายแสงต่าง ๆ รวมถึงการพักฟื้น จะใช้เวลา ประมาณ 12 เดือน โดยหากมาคิดบำนาญชราภาพ จะเหลือรับเพียง 4,147.- / เดือน เท่านั้น กล่าวคือ 

                15,000.- x 48 เดือน = 720,000.- 
                 4,800.- (ฐานเงินเดือน ของ ม 39) x 12 เดือน = 57,600.- 
                รวมฐานเงินเดือน 60 เดือน ล่าสุด จะเป็น 777,600 / 60 จะเท่ากับ 12,960.- บาท ซึ่งเราก้อจะเอา จำนวน % ของปีที่ทำงานมาคูณเข้าไป 
                ก้อจะเหลือ 4,147.- บาท ต่อ เดือน ดังตัวเลขข้างต้น (12,960.- x 32%)          
   
ผมจะแยกคำถามออกเป็นข้อ ๆ นะครับว่า 
1.       แน่นอนว่า ผมต้องเปลี่ยนจาก ม 33 เป็น ม 39 แน่ ๆ เพราะเป็นทางบังคับ เพื่อไม่ให้ขาดสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล แต่จะเป็นไปได้ไหม (หรือสมควรไหม) เมื่อเปลี่ยนไปแล้ว 1 ปี หลังจากนั้นแล้ว จึงทำการลาออกจากระบบ (ประกันสังคม) เพราะหากยิ่งอยู่ไป (ใน ม39) เงินบำนาญขราภาพ จะน้อยลงไปเรื่อย ๆ เนื่องด้วยฐานคำนวณจะลดลงในทุก ๆ ปีของค่าเฉลี่ย
2.       จะดีไหมหลังจากลาออกจาก ม 39  แล้ว จึงไปเดินเรื่องบำนาญชราภาพ (เพื่อให้ได้ฐานคำนวณสูงสุด และได้นำเงินออกมาใช้จ่ายในแต่ละเดือน) โดยเมื่อได้บำนาญชราภาพมาแล้ว จึงค่อยไปสมัคร ม 39 อีกครั้ง (สมัครเป็นครั้งที่ 2) หนทางอันนี้ พอจะเป็นไปได้ไหม
3.       หรือหากไม่สมัคร ในระบบประกันสังคม จะสามารถไปสมัครบัตรทอง สปสช โดยศักดิ์และสิทธิ์ อันไหน จะดีกว่ากันครับ
4.       ข้อสุดท้ายนี้ ขอแบบเปิดกว้าง ในความเห็นของผู้ตอบเลยนะครับ ว่า จะสามารถ ดีไซน์ ขั้นตอนต่าง ๆ ในช่วงนี้ อย่างไรดีครับ (อันนี้ผมยินดีที่จะน้อมรับทุกความเห็นเลยนะครับ)
 
           เข้าใจว่าบทความอาจจะยาว และค่อนข้างซับซ้อน เนื่องจากเป็นเรื่องของข้อจำกัด มีเงื่อนของระยะเวลาที่ต้องทำตาม
และข้อกฎหมายต่าง ๆ โดยส่วนตัวการนำเสนอก้อค่อนข้างยากด้วย ขอขอบพระคุณทุกท่านล่วงหน้า ที่อ่านจนจบ และที่สำคัญคือ ช่วยตอบคำถามที่ผมพยายามนำเสนอด้วยครับ ขอขอบพระคุณอีกครั้งครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่