การแถลงร่วมกัน กับ การลงนามในข้อตกลงร่วมกัน ต่างกันยังไงคงทราบกันดีอยู่แล้ว
เริ่มจากเพื่อไทยไม่ชนะเป็นลำดับที่1 ประกาศสนับสนุนก้าวไกลเป็นนายกฯ และดันให้ตั้งรัฐบาลสำเร็จ
สิ่งแรกที่ตามมาหลังประกาศออกไปคือ การลงนามทำข้อตกลงร่วมกันเป็นแนวร่วมหรือ mou
นอกจากมัดมือมัดเท้าแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ ใครจะเอาไปใช้ประโยชน์ยังไงก็ว่ากันไปตามข่าว
ข้อตกลง 23 ข้อก็ไม่มีต่างอะไรกับการประกาศนโยบายของพรรคการเมืองทั่วไป
จะเด่นกว่าหน่อยตรงเป็นการแถลงร่วมกันจากหลายพรรคการเมือง จะเอาไปใช้จริงหรือเปล่าเราไม่รู้
คนเราถ้าจะให้ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน "จริง"
ไม่สร้างข้อผูกมัดเป็นลายลักษณ์อักษรหรอกครับ ยกเว้นไม่จริงใจ ไม่ไว้วางใจกันตั้งแต่ต้น
หรือมีใครจะคบแฟนสักคนในระยะสั้นๆ เดือนสองเดือน
แล้วต้องเซนต์สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรผูกมัดเพื่อแสดงความจริงใจต่อกัน
อย่าว่าแต่เป็นคนเสนอให้เซนต์เลย
แค่เป็นคนถูกเสนอให้เซนต์ผูกมัดก็ไม่ไหวแล้ว
เนื้อหาการประชุมก็ไม่มีอะไรพิเศษ ปาหี่ชัดๆ
ยังไม่รู้ว่าคนที่แนวร่วมเสนอชื่อ จะได้รับความเห็นชอบเป็นผู้นำรัฐบาลหรือเปล่า
ก็จัดเตรียม แบ่งสรรโควต้าตำแหน่ง กระทรวงแต่ละกระทรวงไปแล้ว
สมมติว่าคนเดิม ไม่ผ่านความเห็นชอบ
ทุกอย่างที่คุยมานับหนึ่งใหม่ทั้งหมด เพราะพรรคที่ได้เป็นนายกฯ คนละคน คนละพรรค
นี่ยังไม่รวม การเพิ่มหรือลดจำนวนพรรคในแนวร่วม และการเจรจาต่อรองเก้าอี้ใหม่ ยังไงก็ทำทันไม่ยืดเยื้อ
MOU จุดเริ่มต้นของความไม่ไว้วางใจระหว่างกัน ปาหี่ทางการเมือง
เริ่มจากเพื่อไทยไม่ชนะเป็นลำดับที่1 ประกาศสนับสนุนก้าวไกลเป็นนายกฯ และดันให้ตั้งรัฐบาลสำเร็จ
สิ่งแรกที่ตามมาหลังประกาศออกไปคือ การลงนามทำข้อตกลงร่วมกันเป็นแนวร่วมหรือ mou
นอกจากมัดมือมัดเท้าแล้วก็ไม่มีอะไรพิเศษ ใครจะเอาไปใช้ประโยชน์ยังไงก็ว่ากันไปตามข่าว
ข้อตกลง 23 ข้อก็ไม่มีต่างอะไรกับการประกาศนโยบายของพรรคการเมืองทั่วไป
จะเด่นกว่าหน่อยตรงเป็นการแถลงร่วมกันจากหลายพรรคการเมือง จะเอาไปใช้จริงหรือเปล่าเราไม่รู้
คนเราถ้าจะให้ความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน "จริง"
ไม่สร้างข้อผูกมัดเป็นลายลักษณ์อักษรหรอกครับ ยกเว้นไม่จริงใจ ไม่ไว้วางใจกันตั้งแต่ต้น
หรือมีใครจะคบแฟนสักคนในระยะสั้นๆ เดือนสองเดือน
แล้วต้องเซนต์สัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรผูกมัดเพื่อแสดงความจริงใจต่อกัน
อย่าว่าแต่เป็นคนเสนอให้เซนต์เลย
แค่เป็นคนถูกเสนอให้เซนต์ผูกมัดก็ไม่ไหวแล้ว
เนื้อหาการประชุมก็ไม่มีอะไรพิเศษ ปาหี่ชัดๆ
ยังไม่รู้ว่าคนที่แนวร่วมเสนอชื่อ จะได้รับความเห็นชอบเป็นผู้นำรัฐบาลหรือเปล่า
ก็จัดเตรียม แบ่งสรรโควต้าตำแหน่ง กระทรวงแต่ละกระทรวงไปแล้ว
สมมติว่าคนเดิม ไม่ผ่านความเห็นชอบ
ทุกอย่างที่คุยมานับหนึ่งใหม่ทั้งหมด เพราะพรรคที่ได้เป็นนายกฯ คนละคน คนละพรรค
นี่ยังไม่รวม การเพิ่มหรือลดจำนวนพรรคในแนวร่วม และการเจรจาต่อรองเก้าอี้ใหม่ ยังไงก็ทำทันไม่ยืดเยื้อ