[CR] รีวิว พิษสวาท เดอะมิวสิคัล ดีแล้ว แต่อยากให้ดีกว่านี้ รวมถึงการรีวิวรัชดาลัยโดยภาพรวม (มีสปอยล์บางส่วน)

คิดว่าเป็นแฟนละครเวทีทั้งของด้านรัชดาลัย และมีโอกาสได้ดูอีกหลายๆค่าย และบางเรื่องดู > 1 รอบจึงคิดว่าน่าจะพอวิจารณ์ได้บ้าง
ตัวอย่างละครเวทีที่เคยดู ของรัชดาลัย เช่น สี่แผ่นดินทุกเวอร์ชั่น รักจับใจ  เลือดขัตติยา  ลมหายใจ ลอดลายมังกร
แม่นาคพระโขนง still on my mind บัลลังก์เมฆ 2019  วันสละโสด

ของค่ายหรือเรื่อง อื่น เช่น ซูสีไทเฮา สุนทราภรณ์ มอม ซ้อน แม่นาค พินัยกรรมหญิงวิกลจริต น้ำเงินแท้ นิทานหิ่งห้อย โหมโรง Frozen Phantom of the opera beauty and the beast  lion king

ในรูปแบบ recording : ข้างหลังภาพ miss saigon les miserable phantom ชายกลางเดอะมิวสิคัล

โดยภาพรวมของรัชดาลัย คือ
- ฉาก และเครื่องแต่งกาย ที่ไม่ว่าจะกี่เรื่องก็ดูยิ่งใหญ่สวยงาม มีการทำการศึกษา อ้างอิงประวัติศาสตร์ อย่างชัดเจน และทำให้เชื่อว่า อยู่ในยุคนั้นจริงๆ
การเปลี่ยนฉาก และเครื่องแต่งกาย ทำได้ไหลลื่นไม่มีที่ติ ข้อเสียของเครื่องแต่งกาย เนื่องจากรัชดาลัย มักนำละครทีวี มาทำเป็นละครเวที บางชุดที่คิดว่าดีและเป็นภาพจำในละครทีวี ก็อยากให้นำมาไว้บนเวทีเลยไม่ต้องเปลี่ยน เช่น ในเรื่องเลือดขัตติยา ชุดที่อยากเห็นในช่วงรับมงกุฎราชินี คือชุดสีดำ แต่ละครเวทีกลับใช้ชุดสีขาวแทน  หรือในเรื่องพิษสวาท ในฉากงานประมูล คิดว่าชุดสีดำ คงเหมาะกว่าชุดสีม่วงที่ใส่อยู่
- บทละคร มีดีบ้าง ไม่ดีบ้างปนกันไป ข้อดีคือ กระชับ ได้ใจความ และมีการปรับบทและคำพูดให้ทันกับยุคสมัย (ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ บัลลังก์เมฆ ระหว่างคุณนก สินจัย และคุณแพท ที่มีการปรับบทพูด เปลี่ยนธุรกิจการเดินเรือเป็นธุรกิจสายการบิน ซึ่งถ้าเรานั่งชมในปี 2019 และต้องกลับไปดูตัวบทละครในยุคที่คุณนก สินจัยเล่น อาจจะทำให้ไม่อิน) ซึ่งในส่วนนี้ต้องขอบคุณรัชดาลัยที่กล้าปรับบท และฟังเสียงนักแสดงรุ่นใหม่ที่เค้าเสนอแนะขึ้นมามากขึ้น (ตรงนี้ผมทราบจากบทสัมภาษณ์คุณชิน ชินวุฒิ ในเรื่องบัลลังก์เมฆ 2019 ที่คุณชินเสนอให้เปลี่ยนจากบทแย่งปีน แล้วทำให้ปีนลั่นใส่ปานรุ้ง เป็นมีอารมณ์โกรธชั่ววูบเลยเผลอยิงใส่ปานรุ้ง)
ข้อเสีย บทละครที่ดูส่วนใหญ่มักจะเฉลยทุกสิ่งทุกอย่างให้คนดูเลย ทำให้ไม่เกิดการใช้ความคิดว่าทำไมตัวละครตัวนี้ถึงได้ทำแบบนี้ คิดว่าเหตุผลส่วนหนึ่งคือมีเวลาปูพื้นหลัง หรือความสัมพันธ์ต่อตัวละครน้อย หรือเร็วเกินไป ทำให้ตอนท้ายๆ ของเรื่องมักเฉลยออกมาโต้งๆ ถ้ารัชดาลัยสามารถแก้จุดนี้ได้คงดีไม่ใช่น้อย
ตัวอย่างบทละครที่ดี และเป็นหนึ่งในเรื่องที่ชอบมากที่สุดคือ ซ้อน the musical ต้องอย่างลืมว่าบทเป็นหัวใจสำคัญของละครเวทีทุกเรื่อง
- เพลง ช่วงหลังๆ รัชดาลัยเริ่มทำเป็น sung through มากขึ้น (ที่ชอบมากๆ คือ เลือดขัตติยา เพลงตั้งแต่ช่วงพิพากษา จนจบเรื่อง อันนี้ถือว่าดีจริงๆ) และหากเป็นไปได้ อยากจะให้ลดบทพูดยาวๆ ให้ลดลงมากกว่านี้ หรือเปลี่ยนบทพูดนั้นให้นักแสดงร้องเป็นเพลงไปเลย โดยอาจจะใช้ธีมทำนองเพลงก่อนหน้ามาช่วงขับเคลื่อนในช่วงบทพูดนี้
ถึงแม้หลังๆ ทำนองจะคุ้นๆ หูจากเรื่องอื่นบ้างแต่ก็ไม่ได้ติดขัดอะไร  และข้อดีที่สังเกตได้ชัดเจนของรัชดาลัย คือ ทำนองเพลงเดิม แต่เปลี่ยนเนื้อร้องไปตามสถานการณ์ในแต่ละฉาก (ยกตัวอย่างเช่น เรื่องสี่แผ่นดิน เพลงถึงคราวต้องจาก และต้องทำทุกสิ่ง คิดว่าน่าจะเป็นทำนองเดียวกันแต่เปลี่ยนเนื้อร้อง) ถือว่าเป็นข้อดีมากๆของรัชดาลัย
ข้อเสียในเรื่องเพลง มีหลายเพลงที่ร้องพร้อมๆ กัน บางครั้งขนาดฟังเสียงแยกคน ยังฟังไม่ค่อยออกว่าร้องว่าอะไร อยากจะให้ทำให้ฟังออกมากกว่านี้ ตัวอย่างที่ฟังออกอย่างชัดเจน คือ เพลง เพื่อฮิลฟารา จากเรื่องฟ้าจรดทราย ข้อเสียของเพลงอีกอย่างคือ การ remake ละครเวที ตัวอย่างเช่น สี่แผ่นดิน เวอร์ชั่นหลังๆ ที่เร่งทำนองให้ไวมากขึ้น แต่แท้จริงแล้วไม่ว่าผมจะดูกี่เวอร์ชั่น เวอร์ชั่น original คือดีที่สุดแล้ว
- นักแสดง : เอกลักษณ์ของรัชดาลัยคือเอาดาราในสังกัดที่คนรู้จัก มีความแมส และมีความสามารถในด้านการแสดง การร้องเพลงขึ้นเป็นนักแสดงนำ ข้อดีคือ ไม่ต้องโปรโมทเยอะ มีฐานเสียงของแฟนคลับอยู่แล้ว แต่อยากให้พิจารณาถึงคำว่า musical นั่นคือ เสียงร้องควรจะเป็นตัวนำ การแสดงควรเทียบเท่าหรือเป็นส่วนที่รองลงมา ในช่วงหลังเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่า รัชดาลัยให้ความสำคัญกับส่วนนี้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน
แต่ถ้าหากเทียบกับค่ายอื่นที่เคยดูแล้ว เสียงร้องนักแสดงของค่ายอื่น ส่วนใหญ่จะกินขาด อย่างให้รัชดาลัยพิจารณาถึงเรื่องนี้มากขึ้น (สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยของการทำ musical ที่ไม่เอาเสียงร้องเป็นหลัง เช่น หนึ่งส่วนในเรื่อง ladies of stage ที่มีโอกาสได้ดู ในเรื่องนั้นนักแสดงท่านหนึ่ง ในเรื่องการแสดง ยอมรับว่าทำได้เฉียบขาด แต่ในเรื่องการร้องถือว่าไม่ผ่านอย่างเด็ดขาด เธอควรอยู่ในละครเวทีที่เป็นบทพูดมากกว่า musical เรื่องนั้นทำให้รู้สึกอึดอัดในการรับชมมาก เพราะเหมือนถูกบังคับให้นั่งฟัง musical ที่ไม่ใช่ของจริง และเชื่อว่าผู้ชมหลายคนรู้สึกเช่นเดียวกัน)
- สุดท้าย ผมคิดว่า จากการฟังบทสัมภาษณ์ต่างๆ ของรัชดาลัย ในเรื่องการแสดงออกของคนดูต่อละครเวที เช่น อยากจะให้ช่วยปรบมือ ส่งเสียงชื่นชม หรือแม้กระทั่งการที่อยากให้ผู้ชมซื้อบัตรมาดูอีกหลายๆ รอบ เรื่องนี้ผมคิดว่าอาจจะไม่จำเป็น เนื่องจากถ้ารัชดาลัยทำฉาก เครื่องแต่งกาย เพลง นักแสดง ทุกอย่างให้ดี คนดูก็พร้อมที่จะทำสิ่งต่างๆให้โดยที่ไม่ต้องร้องขอ
และหวังว่าทางรัชดาลัยควรเปิดรับคำวิจารณ์จากผู้ชม และนำไปปรับปรุง เพราะเห็นได้ชัดว่าการสัมภาษณ์ดาราด้วยกันในรอบสื่อ ไม่สามารถเป็นความรู้สึกของผู้ชมได้ทั้งหมด และอยากให้ละครเวทีอยู่ได้ เพราะมีคนดูที่ยังอยากดูละครเวทีดีๆยิ่งๆขึ้นไป

รีวิว พิษสวาท เดอะมิวสิคัล 28/6/66 19.30 แถว G ตรงกลาง

- ฉาก 
          ถึงแม้งานนี้จะเห็นได้ชัดว่าลดงบประมาณลงไปอย่างชัดเจน แต่คิดว่าสมเหตุสมผลกับเนื้อเรื่องและตัวละครที่มีอยู่ แสงสี ทำได้สวยงาม และการเปลี่ยนฉากสับเปลี่ยนได้อย่างว่องไว

- เครื่องแต่งกาย 
         ทำได้ออกมาสวยงาม ชุดเข้ากับฉากเปลี่ยนได้ไหลลื่นดี แต่อยากให้บางชุดที่ถือว่าเป็นภาพจำของละครทีวีมาอยู่บนฉากด้วย เช่นฉากการประมูล ควรจะเป็นชุดสีดำมากกว่าชุดสีม่วง

- บทละคร 
          ในเรื่องนี้ถือว่าบททำได้ค่อนข้างดีระดับหนึ่ง
          โดยเฉพาะในองก์แรก แต่หากเพิ่มในฉากที่พระอรรค กลับขึ้นมาจากหลุมฝังสมบัติ โดยที่ไม่มีอุบลกลับขึ้นมาด้วย แล้วให้ทหารถามถึงนายหญิง อาจจะทำให้อินกว่านี้  (เหมือนในบทละครที่พระโหราจารย์ที่แสดงโดยคุณเกรียงไกร ถามพระอรรคว่าอุบลอยู่ไหน และพระอรรคคตอบว่าไม่มีแล้ว อันนี้ถือว่าเป็นภาพจำจากละครที่คิดว่าดี) 
           ในองก์ที่สอง บทลานพิพากษา เป็นจุดที่ค่อนข้างจะข้องใจและรู้สึกเอ๊ะในหลายจุด เช่น ทำไมอยู่ๆ พระอรรคถึงจำเรื่องราวได้หมด และอย่างรวดเร็วทำให้รู้สึกไม่อินเท่าไหร่, ควรจะมีฉากที่อัคนี ทิพย์ อุบล เชษฐ์ ได้มีโอกาสลงไปเห็นหลุมฝังสมบัติ โครงกระดูกของอุบล และค่อยตัดมายังลานพิพากษา เนื่องจากการที่ให้ฝั่งคนดีได้เห็นกรุสมบัติแล้วไม่รู้สึกถึงความอยากมีอยากได้ เมื่อเทียบกับตอนดนัยได้ลงไปและเกิดความโลภอยากได้อาจจะทำให้อินมากขึ้น และการที่พระอรรคได้เห็นโครงกระดูกของอุบล อาจจะทำให้นึกถึงเรื่องราวในอดีตได้ดีมากยิ่งขึ้น   
            ฉากลานพิพากษา ให้ตัวละครนั่งคุกเข่า ดูกระจัดกระจายไม่สมดุลย์ ทำให้การแสดงออกมาได้ไม่เต็มที่ (พอจะเข้าใจได้ว่าทำไมต้องนั่งคุกเข่า เพราะต้องนั่งต่อหน้าองค์เทพ แต่ดูแล้วรู้สึกแปลกๆเหมือนกัน)
            ฉาก flash back ที่ให้นักแสดงแทนตั้งแต่ฟันคออุบล สู้กับพม่าจนสุดท้ายมาตายข้างผู้หญิงคนนึง ทำให้ไม่อิน รู้สึกแปลกด้วยซ้ำ ทำไมไม่ให้คุณตู่ เล่นเองน่าจะดีกว่านี้ และบทพากษ์ตอนที่พระอรรคตาย ที่บอกว่าแผ่นดินให้ลูกหลาน หัวใจให้อุบล คือบ้งมาก ไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าพระอรรครักอุบลเลย
ที่สำคัญ เหตุผลที่ต้องตัดคออุบล ในละครทีวี เป็นฉากจำ สาเหตุที่ต้องตัดคอคือ พม่าต้องตามหาขุนหลวงให้เจอ ถ้าไม่เจอต้องพลิกแผ่นดินหา พระอรรคกลัวว่าจะมาเจอที่นี่ เลยจำเป็นต้องหาคนมาเฝ้าทรัพย์แทน และตัวเองไปอารักขาขุนหลวง รวมถึงออกอุบายให้มีคนปลอมเป็นขุนหลวงที่ตอนหลังโดนพม่าฆ่าตาย และตัวเองยอมสู้จนตัวตาย จึงเลือกอุบลให้มาเฝ้าทรัพย์แทน แต่ในละครเวทีเท่าที่ฟังเหตุผลคือ พระอรรครู้อยู่แล้วว่ากรุงจะแตกตอนพม่าบุก แต่ก็อ้างเหตุผลว่าต้องไปป้องกันป้อม (ที่จะแตกอยู่แล้ว) และเลือกให้อุบลมาเฝ้าทรัพย์แทน ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่ (ในบทละครเวทีถ้าออกมาแนวนี้ยังไงพม่าก็ต้องตามมาเจอสมบัติอยู่แล้ว) เนื่องจากถ้าพระอรรครู้อยู่แล้วว่ากรุงจะแตก ควรให้อุบลหนีไปไกลที่สุด และตัวเองเป็นคนเฝ้าทรัพย์แทนน่าจะสมเหตุสมผลมากกว่า ประโยคหนึ่งที่จำได้จากละครทีวี แต่ไม่มีในละครเวที คือ ฉากในหลุมฝังสมบัติ ที่พระอรรค พูดทำนองว่า เมื่อเวลามาถึงเราทุกคนควรทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เราต้องไม่คิดถึงประโยชน์ตัวเอง ควรคิดถึงประโยชน์ส่วนรวม ประโยชน์ของแผ่นดิน ต่อให้เป็นหัวตัวเองก็เสียได้...พระอรรคเห็นว่าถ้าพม่าตีกรุงแตกได้ อุบลจะโดยย่ำยี่และถูกฆ่าโดยพม่า จึงยอมฆ่าเมียตัวเองและให้เฝ้าขุมทรัพย์ดีกว่า ถ้ามีฉากนี้ในละครเวทีคงดูสมเหตุสมผลมากกว่านี้

- เพลง
           ต้องยอมรับว่าเพลงเรื่องนี้เพราะจริงๆ โดยรวมถือว่าเพลงส่วนใหญ่ฟังและจำได้ และควรจะเป็นในอย่างที่ musical ควรเป็น เช่น ช่วงพูดมีทำนองเพลงมามากขึ้น มีการนำทำนองเดิมมาเปลี่ยนเนื้อร้องให้เข้ากับสถานการณ์ต่างๆ ภายในเรื่อง ถือว่าทางรัชดาลัยทำตรงนี้ได้ดีขึ้น แต่ถ้าเป็นไปได้ควรจะทำแบบ sung through หรือลดบทพูดให้น้อยกว่านี้ และบางช่วงที่นักแสดงร้องพร้อมๆกัน บางเนื้อร้องฟังไม่รู้เรื่องเลย แม้จะฟังเสียงแบบแยกคนแล้วก็ตาม

- นักแสดง  ช่วงหลังรัชดาลัย ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มากขึ้น ขึ้นชื่อว่า musical ควรจะมีเสียงร้องนำมาก่อน เรื่องการแสดงควรจะเทียบเท่าหรือเป็นเรื่องรองลงมา ทุกคนทำได้ดี
         ตู่ ภพธร : ร้องได้ชัด และไพเราะมาก โดยเฉพาะช่วงที่ร้องสัจจะวาจา
         แก้ม : ในงานแถลงข่าวช่วงแรกค่อนข้างกังวลเพราะเสียงเบามาก แต่วันที่แสดงจริงถือว่าทำได้ดีเยี่ยม ไม่แน่ใจเพราะมีการปรับเสียงของทางรัชดาลัยด้วยหรือเปล่า แก้มถือว่าเป็นนักร้องและเก่งมากๆ เป็นคนที่ร้องชัดถ้อยชัดคำ อารมณ์กับน้ำเสียงไปด้วยกันเกือบทั้งหมดตลอดการแสดง แต่ถ้ามาดูที่สีหน้าแววตาตอนแสดงยังอาจจะส่งอารมณ์ออกมาทางสีหน้าได้ไม่ดีเท่าไหร่ ขนาดผมนั่งแถว G ซึ่งเห็นหน้านักแสดงชัด ยังรู้สึกว่าสีหน้ายังไม่ค่อยไปกับอารมณ์ตัวละครเสียเท่าไหร่ และข้อเสียอย่างนึงของแก้มคือ ไม่สามารถลากเสียงได้ครบห้องจังหวะของเพลง เหมือนลมหมดก่อน ถ้าลากยาวกว่านี้ได้อาจจะอินกว่านี้ ตรงนี้ย้อนกลับไปดูช่วงงานแถลงข่าวไม่ว่าจะเป็นท่อนสุดท้ายของเพลงพิษสวาท หรือเพลงพรหมลิขิต เหมือนลมของแก้มจะหมดก่อน เลยทำให้อารมณ์สะดุดไปบ้าง แต่โดยรวมถือว่าทำได้ดีมากๆ
         ดาว : เสียงร้องไพเราะ แสดงสีหน้าได้ค่อนข้างชัดเจน แต่บทร้องน้อยไปสักหน่อย
         ชิน : เสียง การร้องที่คมชัด การแสดงออกทางสีหน้าที่เข้าถึงบทบาทได้ดีมากๆ
        ชาย : ถือว่าการแสดงกินขาด การร้องถือว่าทำออกมาได้ดี คิดว่ายังสามารถพัฒนาได้อีกเยอะ
        ทนงศักดิ์ : บทค่อนข้างน้อย การร้องพอใช้ได้ การแสดงโอเคระดับนึง อาจจะเป็นเพราะบทไม่ค่อยส่ง
        หมู่มวล : ร้องได้ชัดถ้อยชัดคำมาก แสดงได้หลากหลายบทบาท พลังล้นเหลือ

สุดท้าย คิดว่าทางรัชดาลัยเริ่มมาถูกทาง โดยการเอาเสียงร้องของนักแสดงมาเป็นตัวนำ และต้องยอมรับว่าบทละครเวทีหลังๆ ค่อนข้างเป็นปัญหา ส่วนใหญ่เป็นการปูอารมณ์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่ค่อนข้างรวบรัดไปหน่อย ทำให้คนดูตามไม่ทัน และรู้สึกไม่อินเท่าที่ควร และปัญหาอีกอย่างคือการเฉลยของบทออกมาดื้อๆ ไม่ปล่อยให้คนดูได้คิด และบางช่วงบางตอนไม่ค่อยเป็นเหตุเป็นผลเท่าไหร่ สุดท้ายอยากให้ทางรัชดาลัย พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ
ละครเวทีอยู่ได้ เพราะมีคนดูที่ยังอยากดูละครเวทีดีๆยิ่งๆขึ้นไป
ชื่อสินค้า:   พิษสวาท เดอะมิวสิคัล
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่