รีวิว Delete ลบที่ดีคือลบกรอบเเห่งวงการหนังไทย เเล้วไปให้สุดทาง



สารภาพตามตรงเลยนะว่าเรื่อง Delete เป็นเรื่องที่มีความอัดอั้นต่อการรีวิวอย่างสูงสำหรับผม เพราะมันทำให้ผมขัดแย้งกับตัวเองในการที่จะชอบหรือไม่ชอบมันดี  เพราะมันมีทั้งดีและไม่ดีในตัวแบบสองขั้วเอามากๆ  ด้วยความที่พลอตเรื่องมันล้ำมาก ที่ล้ำเพราะไม่ใช่ว่าเป็นหนังไทยที่คิดจะลองทำอะไรใหม่ๆนะ แต่ต่อให้ฮอลลีวูดเอาไปทำผมว่ามันก็ยังล้ำอยู่ดี  เพราะผมแทบไม่เคยเห็นหนังที่ใช้มือถือถ่ายรูปเพื่อลบคนหรือ ฆ่าคนได้แบบนี้ พอผมเห็นตัวอย่างนี่เรียกได้ว่านับวันรอที่จะดูเลย เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้ความรู้สึกของผมที่มีต่อหนังเรื่องนี้ว่าเป็นอย่างไรก็ลองไปฟังกันได้เลย 
**** ปล.ผมรับลองว่าผมจะไม่สปอยคุณ แต่บางฉากในเรื่องอาจจะมีการอธิบายให้เห็นภาพ แต่รับลองว่าไม่มีผลต่อเนื้อเรื่องหลักๆอย่างแน่นอนครับ
 

เรื่องย่อ
 เรื่องราวที่จะพาดำดิ่งลงสู่ก้นบึ้งของด้านมืดในจิตใจมนุษย์ โดยมีแรงกระตุ้นมาจากมือถือปริศนาที่สามารถลบสิ่งมีชีวิตออกไป เพื่อปกปิดความลับ ความเเค้น เเละความต้องการบางอย่าง ให้หายไปโดยไม่มีวันได้หวนกลับคืน

บทภาพยนตร์


อย่างที่เกริ่นไปข้างต้นเลยครับว่าผมชอบเรื่องนี้มากกกกกกกก  ผมชอบ Big Idea ของมันอย่างมาก ที่พยายามจะใช้มือถือที่เราคุ้นเคยกันในปัจจุบันที่เรียกได้ว่าเป็นแขนขาของเราไปแล้ว มาทำให้กลับกลายเป็นอาวุธที่ทรงอานุภาพที่จะใช้ลบใครออกจากชีวิตก็ได้  โทนเรื่องของซีรีส์เรื่องนี้ดีมากครับ  มันจะเปิดตัวมาแบบคลุมเครือสุดๆ โดยที่ไม่ได้ให้คุณรู้ปูมหลังของใครเลย  แต่คุณจะค่อยๆซึมซับปูมหลังของแต่ละตัวละครไปในแต่ละตอน จนคุณประติดประต่อได้เอง  ขอบอกว่าโทนของมันค่อนข้างจะซีเรียส เรียลและสมจริงมาก  คำว่าสมจริงของผมคือมีความเป็นมนุษย์สูง คือคุณจะรู้สึกได้เลยว่าเหตุการณ์มันสามารถเกิดขึ้นจริงได้ และไม่เวอร์เกินจริง  นั่นคือข้อดีอย่างมากของซีรีส์ มันไม่ประดิษฐ์ประดอยคำพูดเลยครับ บทสนทนาต่างๆมีความเป็นมนุษย์สูงมากและเป็นบทสนทนาที่เหมือนกับคนคุยกันจริงๆที่ไม่ใช่บทปั้นแต่ง นับได้ว่าต้องยกเครดิตให้กับคนเขียนบทเลย ...  แต่ช้าก่อน 5555555  มีข้อดีก็ต้องมีข้อเสียให้ติ แน่นอนว่าซีรีส์เรื่องนี้ไม่ได้สมบูรณ์แบบหรอกนะ  ผมไม่ได้คิดจะอวยมันอย่างเดียวอยู่แล้ว  เพราะถึงบทมันจะสมจริง เรียล และมีความเป็นมนุษย์แค่ไหน แต่มันไม่ยอมออกจากกรอบของสามัญชนครับ และผมถือว่านี่คือข้อเสียใหญ่ที่สุดของหนังไทย  คือมันไม่พัฒนาบทให้ไปต่อ คุณจะค้นพบว่าในแต่ละตอนไม่ได้มีความหลุดไปจากเรื่อง ผัว เมีย ชู้ การลบคน ล้างแค้น หรือตามหาคนหายเลย  สิ่งที่ผมขัดใจมากที่สุดคือ “ มือถือ”  ที่เปรียบดั่งตัวชูโรงแต่ถูกทำให้เป็นลูกเมียน้อยซะงั้น งงมะ 5555 อารมณ์ให้มันพูดได้มันคนบอกว่า นี่เมิงโปรโมทตรูแทบตายแต่เมิงใช้ตรูได้แค่นี้เองเนี่ยนะ  เฮงซวย!
มี มือถือลบคนได้ทั้งคน แต่ใช้ไม่คุ้ม
ฟังไม่ผิดครับ  ใช้ไม่คุมจริงๆ  หลายคนที่ดูมาอาจจะเถียงว่า ไม่คุ้มยังไงก็ตอนสุดท้ายใช้ถ่ายกันยังกับคาถาแฮรี่พอตเตอร์ ไล่ล่าจี้กันไปมา  ผมเห็นแบบนั้นจริงๆนะ และมันเหมือนฉากแฮรี่เสกคาถากับวอเดอมอมากจริงๆ 55555  แต่ในความหมายของใช้ไม่คุ้มคือ มันไม่ยอมพัฒนาเส้นเรื่องความเป็นมาของมือถือว่ามันมายังไง อารมณ์แบบนี่พี่ๆจะไม่สืบสาวหาความจริงหน่อยหรอว่ามือถือนี่มันมายังไง พอเข้าใจนะว่าอยากให้มันลึกลับใช่ไหมล่ะ แต่แบบ เห็นการใช้มือถือของแต่ละตัวละครแล้ว  ใช้กันอย่างราวกับว่ามันเป็นของธรรมดามาก  อยากจะลบใครก็ลบมันเลย แบบได้หรอ  มือถือระดับอันตรายขนาดนั้น ไม่คิดจะชั่งใจในแต่ละครั้งที่ใช้หน่อยเลยหรอ  เหมือนกับคุณมีปืนในมือ ถามว่าคุณจะฆ่าใครสักคนคุณก็จะต้องเตรียมใจในระดับหนึ่งหรือเปล่า แต่นี่ไม่เลย พอรู้ว่ามันใช้ทำอะไรได้  ก็ฟรีเลยจร้าปล่อยจอยให้อารมณ์พาไป  โกรธใครลบเลย เกลียดใครลบเลย  ไม่ชอบคนนั้นคนนี้หรอได้ดิ ลบเลย แบบบางทีตรรกะการใช้ก็ค่อนข้างอ่อนไปนะ 
 

การพัฒนาที่ไปได้ไกลกว่านี้ แต่ยังกั๊กไว้



นี่งงสุดๆ จะกั๊กไว้ทำเพื่อ มีของดีในมือแล้วทำไมต้องกั๊กล่ะ  บอกเลย เส้นเรื่องของ Delete ไปได้ไกลกว่านี้มาก  มากกว่าจะเป็นเรื่องผัวเมียชู้ รักสามเศร้า หรือล้างแค้นอะไรแบบนั้น  ด้วยความที่มันเป็นไอเดียที่ค่อนข้างใหม่แถมไม่ได้ปูที่มาแน่นอีก  ทำให้ผมคิดว่าถ้าเขาจะแตกเส้นเรื่องเป็นไซไฟไปเลยยังได้  เรื่องนี้ทำให้ผมนึกถึงซีรีส์เรื่อง ดาร์ก ของเน็ตฟริกที่เริ่มเรื่องมาก็แบบนี้เลย  คลุมเครือสุดๆ ใครเป็นใครไม่เล่า ปล่อยให้ไปเชื่อมโยงเอาเอง แต่ความพิเศษของดาร์กคืออะไรรู้ไหม  มันพิเศษตรงที่ทุกตอนก่อนที่มันจะจบตอน มันจะทิ้งปมปริศนาที่กระชากต่อมเผือกเราให้ทำงาน จนต้องกดดูตอนต่อไปให้ได้  ไม่ดูแล้วดิ้นตายแน่ และแต่ละตอนของมันก็ค่อยๆพัฒนาเรื่องให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ  ซึ่งไม่พบในเรื่อง Delete เลย  แต่มันก็ไม่เชิงไม่น่าติดตาม เรื่องมีความน่าติดตามอยู่นะ แต่มันไม่ถึงขนาดที่จะต้องดูให้ได้เดี๋ยวนั้นอะ   
 

ดราม่าถึงเครื่อง / ระทึกใจ



ต้องขอชื่อชมเลยว่าเรื่องนี้ทำดราม่าได้ถึงและบทของพาร์ทระทึก ก็ทำได้ลุ้นจนเกร็งได้พอสมควร อาจจะปล่อยมาช้าไปหน่อย แต่พอปล่อยออกมาก็ทำได้ดีและค่อนข้างทำให้ครึ่งหลังดูน่าติตามมากพอสมควรจนถึงตอนจบเลย
 

เฉลยปมจบในตอนไม่ประทับใจ แต่จบซีซั่นนี่ดีจริง



คือซีรีส์จะมีจบอยู่สองแบบที่ผมใช้เรียกคือจบในตอนนั้นๆเพื่อไปตอนถัดไป และจบไปเป็นซีซั่นนั้นๆ  สำหรับซีรีส์เรื่องนี้จบในตอนถือว่าทำไม่ค่อยดี  อย่างที่บอกมันปูปมหรือปริศนาเพื่อไปตอนถัดไปได้ไม่ว้าวพอที่เราจะกดเข้าไปดูตอนต่อไป อารมณ์แบบพักก่อนยังได้ ค่อยดูแล้วกัน แต่สำหรับตอนจบซีซั่นนี่คนละเรื่องมาก มันกลับพลิกไปอีกแบบหนึ่งเลยจนทำให้เราแอบลุ้นว่าถ้ามันมีภาคถัดไป มันจะดำเนินเรื่องไปแบบไหน เพราะผมว่าถ้าภาคแรก Netflix ประทับใจ ผลตอบรับดีมีสิทธิ์ได้ไปต่อสูง  เพราะปมต่างๆยังไม่เคลียร์และซีรีส์จงใจปูภาคต่ออย่างชัดเจน  
 
 
 
เสียดายจริงๆอะนี้สั้นๆพูดเลย
เสียดายทุกๆองค์ประกอบของมัน  ทั้งงานภาพ งานโทนเรื่อง หรือไอเดีย  มันดีมากๆเลยเว้ยแก แต่ใช้ไม่คุ้มค่าเลยอะ  กว่าจะไปปล่อยของก็ตอนสุดท้ายแล้ว ที่เหมือนกับจะปูภาคต่อ แต่เเบบ แกจะสร้างซีรีส์มาเพื่อจะมาหวังภาคต่อไม่ได้นะ เพราะภาคแรกแกต้องเอาคนดูให้อยู่หมัดก่อน แล้วค่อยคิดภาคต่อไป  นี่คือรู้เลยสร้างภาคแรกให้นิ่งเพื่อหวังเอาภาคต่อให้ว้าว  ผมว่ามันเจตนาเกินไป  แล้วถ้ามันมันไม่ได้ไปต่อ เหมือน เคว้งอะ    ซีรีส์เรื่องนี้ก็จะเคว้งอีกไหม  นี่แหละข้อเสียหลักของซีรีส์ไทยเลย  ไม่โกยความประทับใจแรกของคนดู  แต่ไปหวังภาคต่อเสียแล้ว
 
 
 
 
 
**** บ่นมาซะเยอะละพักเบรคมาชมกันบ้าง 555 ****
 
งานภาพและโปรดักชั่น 



เป็นหนังไทยอีกเรื่องที่งานภาพสวยมากกกกก และอาร์ตมากกกกกก  มันสวยจริงๆ  ทุกฉากทุกซีนถูกการวางและจัดองค์ประกอบมาอย่างดีแทบทั้งหมด  สีที่ใช้ดูซีเรียสสมกับโทนเรื่องสุดๆ  ซึ่งตรงนี้ผมชื่นชมมาก และขอบอกเลยว่าหนังไทยโดยเฉพาะค่ายนี้ งานภาพคือสากลไปแล้ว  สวยกว่าเกาหลีอีกนะ  ไม่อวย เคยเทียบแล้ว  เพราะงานภาพไม่ว่าจะซีรีส์ หรือภาพยนตร์ของไทยที่ทุนสูงมักจะมีความอาร์ตสูงมากตามมา  ภาพจะคม สมจริง สีจะเกลี่ยมาลงตัว  เรียกง่ายๆว่าทำ mood ดีมาก สามารถเทียบแถบยุโรปได้เลย  แถมมันยังสื่ออารมณ์ของฉากนั้นๆได้ดีอีกด้วย ปรบมืออย่างงามๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่