ผมอยากรู้วิธีคุมประสาทสัมผัสเหมือนเปิดปิดสวิต เพราะมันกระทบการใช้ชีวิต ร่างกายอ่อนล้า เหนื่อยทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร
รับรู้มากเกินไป จนสมองและระบบประสาททำงานหนัก เป็นที่มาของโรคภูมิแพ้ ก่อนอื่นผมขออธิบายแบบคร่าวๆ
1.ไวต่อสภาพอากาศ ได้กลิ่นความชื้นในอากาศ ตอนเช้าแดดจ้า ก็รู้ว่าตอนบ่ายฝนจะตก พอได้กลิ่นจะจามก่อน
อุณหภูมิเปลี่ยนนิดเดียวก็รับรู้ ไม่ชอบกลิ่นที่รุนแรงมันทำให้มึนหัว
2.ไวต่อเสียง ถ้าสภาพแวดล้อมมีเสียงดัง มันจะอื้อๆ อึนๆ แต่สามารถแยกแยะ รู้ที่มาที่ไปของเสียงได้ รู้ระยะ รู้ตำแหน่ง
ยิ่งในห้องที่เงียบๆ ก็จะได้ยินเสียงลมผ่านหู เสียงนก เสียงหมา เสียงใบไม้ จากข้างนอกบ้านได้ชัดเจน และรู้ตำแหน่งของเสียง
3.ไวต่อร่างกาย รู้ว่าส่วนไหนทำงานหนัก เวลาป่วยก็จะรู้ว่าร่างกายขาดอะไร ต้องกินอะไร ต้องรักษายังไง สามารถระบุจุดที่เป็นปัญหาได้
4.ไวต่อความรู้สึกและอารมณ์ของคนอื่น มองแว๊บเดียวก็รู้ว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ อารมณ์ยังไง ในบางครั้งก็รู้ถึงขั้นว่ากำลังคิดอะไรอยู่
จับโกหกได้ ฟังโทนเสียงที่เขาพูดก็รู้ว่ารู้สึกยังไง ข้อนี้ปัญหาใหญ่ ถึงมันจะเป็นเรื่องดี แต่มันก็มากเกินไปจนผมรู้สึกเครียดเพราะไปรู้มันนี่แหละ
5.ไวต่อแสง คลื่นความถี่ พลังงานรอบตัว พอนิ่งมากๆ อะไรนิดเดียวมากระทบจะรู้สึกได้ทันที ยิ่งพลังงานหนาแน่นยิ่งจะทำให้ผมอึดอัดมาก
6.รู้สภาวะจิตใจของคนอื่น ยิ่งในตอนที่เขาพยายามจะปกปิดหรือแสดงออกตรงกันข้าม ยิ่งชัดเจน
7.ลางสังหรณ์แม่น สัญชาตญาณแม่น
บางครั้งผมก็แอบคิดนะว่า หรือผมจะเป็นบ้าจริงๆ คนอื่นอาจคิด มีแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่เชื่อผม และรู้ว่าผมไม่ได้มโนไปเอง
ผมก็แค่คนๆ นึงที่เข้าใจว่าทุกสิ่งในจักรวาลนี้มันเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ซับซ้อน ยากจะอธิบาย
และมันยิ่งชัดและไวมาก ตอนที่จิตผมมีสมาธิมาก ผมหวังว่าจะมีคำแนะนำจากผู้มีปัญญาช่วยชี้แนะแนวทางการปฏิบัติ
เพราะมันทำให้ผมเหนื่อยล้ากว่าปกติมาก ผมเริ่มเครียดเพราะไม่รู้จะควบคุมสิ่งนี้ยังไงให้มันเหมาะสมเป็นปกติเหมือนคนอื่นบ้าง
ประสาทสัมผัสไวผิดปกติ จะแก้ปัญหายังไง?
รับรู้มากเกินไป จนสมองและระบบประสาททำงานหนัก เป็นที่มาของโรคภูมิแพ้ ก่อนอื่นผมขออธิบายแบบคร่าวๆ
1.ไวต่อสภาพอากาศ ได้กลิ่นความชื้นในอากาศ ตอนเช้าแดดจ้า ก็รู้ว่าตอนบ่ายฝนจะตก พอได้กลิ่นจะจามก่อน
อุณหภูมิเปลี่ยนนิดเดียวก็รับรู้ ไม่ชอบกลิ่นที่รุนแรงมันทำให้มึนหัว
2.ไวต่อเสียง ถ้าสภาพแวดล้อมมีเสียงดัง มันจะอื้อๆ อึนๆ แต่สามารถแยกแยะ รู้ที่มาที่ไปของเสียงได้ รู้ระยะ รู้ตำแหน่ง
ยิ่งในห้องที่เงียบๆ ก็จะได้ยินเสียงลมผ่านหู เสียงนก เสียงหมา เสียงใบไม้ จากข้างนอกบ้านได้ชัดเจน และรู้ตำแหน่งของเสียง
3.ไวต่อร่างกาย รู้ว่าส่วนไหนทำงานหนัก เวลาป่วยก็จะรู้ว่าร่างกายขาดอะไร ต้องกินอะไร ต้องรักษายังไง สามารถระบุจุดที่เป็นปัญหาได้
4.ไวต่อความรู้สึกและอารมณ์ของคนอื่น มองแว๊บเดียวก็รู้ว่ากำลังรู้สึกอะไรอยู่ อารมณ์ยังไง ในบางครั้งก็รู้ถึงขั้นว่ากำลังคิดอะไรอยู่
จับโกหกได้ ฟังโทนเสียงที่เขาพูดก็รู้ว่ารู้สึกยังไง ข้อนี้ปัญหาใหญ่ ถึงมันจะเป็นเรื่องดี แต่มันก็มากเกินไปจนผมรู้สึกเครียดเพราะไปรู้มันนี่แหละ
5.ไวต่อแสง คลื่นความถี่ พลังงานรอบตัว พอนิ่งมากๆ อะไรนิดเดียวมากระทบจะรู้สึกได้ทันที ยิ่งพลังงานหนาแน่นยิ่งจะทำให้ผมอึดอัดมาก
6.รู้สภาวะจิตใจของคนอื่น ยิ่งในตอนที่เขาพยายามจะปกปิดหรือแสดงออกตรงกันข้าม ยิ่งชัดเจน
7.ลางสังหรณ์แม่น สัญชาตญาณแม่น
บางครั้งผมก็แอบคิดนะว่า หรือผมจะเป็นบ้าจริงๆ คนอื่นอาจคิด มีแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นที่เชื่อผม และรู้ว่าผมไม่ได้มโนไปเอง
ผมก็แค่คนๆ นึงที่เข้าใจว่าทุกสิ่งในจักรวาลนี้มันเชื่อมโยงกันอย่างมีนัยยะสำคัญ ซับซ้อน ยากจะอธิบาย
และมันยิ่งชัดและไวมาก ตอนที่จิตผมมีสมาธิมาก ผมหวังว่าจะมีคำแนะนำจากผู้มีปัญญาช่วยชี้แนะแนวทางการปฏิบัติ
เพราะมันทำให้ผมเหนื่อยล้ากว่าปกติมาก ผมเริ่มเครียดเพราะไม่รู้จะควบคุมสิ่งนี้ยังไงให้มันเหมาะสมเป็นปกติเหมือนคนอื่นบ้าง