มีเรื่องเล่าให้ฟัง "เจ๊งตอนนี้ดีกว่า" ยังไง ???🤨

สวัสดีครับทุกคนที่ได้หลงเข้ามาในกระทู้นี้ แค่อยากเล่าประสบการณ์ ทำไมต้องเจ๊งตอนนี้ ดีกว่า เพราะอะไร !!เพี้ยนหืม
ก่อนอื่นผมขแนะนำตัวนะครับนามผมชื่อ แตงโม ละกันนะครับ ทำงานอิสระครับ รับเหมา ออกแบบ ต่อเติม รีโนเวท ทำหมดครับถ้าได้ตังค์
เดิมอาชีพเป็นพนักงานบริษัทดีๆนี้แหละ แต่ความทะเยอทะยานมันพลุกพล่านเหลือหลายอยากจะมีอิสระภาพทางเวลาและความคิด เลยลาออกทำงานออก แบบรับเหมาเอง 555  แระนี่คือจุดเริ่มต้นการเจ๊งพังยับชีวิตยับเลยก็ว่าได้ งานที่ได้ทำงานแรกก็เป็นงานสร้างบ้านปกติทั่วไป ห้าวมากครับงานนี้ไม่ได้ทำคนเดียวครับมีเพื่อนเป็นหุ้นส่วนกันซึ่งเพื่อนรายนี้ประสบการณ์การเจ๊งมาก็พอสมควร ถามว่าทำไมยังต้องร่วมงานกับคนที่เคยเจ๊งมาก่อน เพราะการเจ๊งนี้แระดี อันนี้กล่าวกับเพื่อนผมเองนะครับว่าเคยเจ๊งแล้วจะได้ระวังไม่กลับไปเจ๊งอีก(ไม่คิดเลยคำพูดศักสิทธิ์แท้ๆ) ผลงานแรกถือว่าดีนะครับ เพราะไม่รับงานอื่นเลยระหว่างทำงาน ผมใช้คนทำงานเฉพาะด้านทั้งหมด สามารถปล่อยทีมงานซับพลายเออร์ทำต่อได้ไม่มีปัญหาเลยละดีมาก อีกอย่างคิดต้นทุนงานกับลูกค้าไว้พอสมควรการเงินเลยไม่ค่อยสะดุด ทำจนจบงานแล้วถือว่าวินครับงานนี้อาจจะได้กำไรไม่ถึงเป้าตามที่คิดไว้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่เข้าเนื้อ ไม่เจ๊งและแฮปปี้ทั้งคนจ้าง และคนรับจ้างอย่างผมเลย 
  อ้าว!!!! ไม่เจ๊งก็ไม่ดีนะสิ ยังครับๆ ทำงานรับเหมาก็ไม่แน่นอนเสมอไป "ความไม่แน่นอน คือความแน่นอน."  ด้วยความโลภ ทนงตัวเกินไปเพิ่งจบงานไปใจมันค่อนข้างไฟแรง ไปรับทำสัญญางานกับบริษัท รับสร้างบ้านแบรนด์นึง ถึงแม้เคยทำงานจบมาแล้วก็จริง คิดว่าเอาอยู่จบได้สวยๆมีกำไรแน่นอน มันกลับตลปัดอย่างกะหนังคนละม้วนเลยว่างั้น เพราะอะไรนะเหรอครับ คิดว่างานบริษัทจะเหมือนๆกันกับงานลูกค้านั้นแระ น่าจะงานกว่าด้วยซ้ำคิดแบบนั้นจริงๆนะครับ เพราะรับงานกับลูกค้าโดยตรงเอาจริงยังพอจะคุยกันได้ สายตรงทั้งเรื่องสรุปแบบ การเบิกงวดงาน หรือการเลื่อนเเผนงาน แต่พอทำกับบริษัทมีขั้นมีตอน มีระบบชัดเจนซึ่งต้องใช้เวลา อีกอย่างทุนเราน้อยสายป่านยาวไม่ถึงบอกเลยเตรียมบรรลัยการช่างของแท้ละครับ ยิ่งทำยิ่งทุนจม เพราะทำกับบริษัทนี่เขาไม่ปล่อยให้งานออกไปโดยคุณภาพไม่ได้ตามมาตรฐานหรอกนะครับจะต้องเป๊ะ ในระดับที่ทางบริษัทกำหนดไว้ฉะนั้น ผมก็ประมาทเองไม่ใช่ว่าทีมงานผมจะไม่มืออาชีพ หรือทำงานไม่เป็นนะครับแต่ว่าการแก้ไขงานค่อนข้างจะใช้เวลา ต้องรอให้บริษัทเป็นคนฟันธงอีกที ถึงจะไปต่อในขั้นตอนงานต่อไปได้ ด้วยที่อย่างว่ามาถึงจุดนี้ก็ดันงานจนจบงานได้แต่บอกได้เลยจากที่เคยคิดว่าจะได้กำไร กลายมาเป็นติดลบ หลายๆๆๆ แสนบาทเลยทีเดียวน้ำตาตกในครับ กว่าจะจบกันไปบอกเลยงานนี้เป็นบทเรียนของแท้ที่มีราคา เอาล่ะครับจากเรื่องราวนี้ทำให้ได้รู้ว่า 

1.อย่าโลภ เพราะเห็นเม็ดเงินเป็นที่ตั้ง มองแต่ปลายทางว่าง่าย ระหว่างทางเราอาจจะหมดแรงแล้วก็ได้
2.ประสบการณ์ราคาจะแพงเเสนแพงถ้าจะเจ๊งก็เจ๊งซะตอนนี้ เจ๊งตอนหน้าอาจจะหนักกว่านี้ก็ได้
3.มองโลกในแง่ร้ายบ้างก็ได้ บนโลกนี้ไม่มีใครให้อะไรเราฟรีๆ ที่สำคัญอย่าไปกู้เงินมาทำงานนะโดยเฉพาะนอกระบบไม่งั้นตาย!!
4.เตือนตัวเองเสมอว่าล้มแล้วก็ลุก อย่าท้อ ทำต่อจังหวะสักวันก็จะมาเอง
5.ฝึกฝนกระบวนยุทธหมื่นท่า ก็ไม่เท่าฝึกกระบวนยุทธเพียงท่าเดียว "เชี่ยวชาญ"

   เอาละครับนี่คือร้องไห้การเขียนกระทู้ครั้งแรกของผม ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่จะมาเขียนเล่าให้ฟังอีก (อีกอย่างเอาไว้อ่านเองด้วย 555 )
ภาพนี้คือหลังแรกที่รับงานนะครับ หาภาพตอนเสร็จจริงๆไม่เจอเลยถ้าเจอจะเอามาฝากไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่