จุลพันธ์ ดึงสติ ‘ประยุทธ์’ ลืมไปหรือปล้นอำนาจเขามาเป็นนายกฯ ถึงบ่น ครม.เก่าไม่ส่งมอบงาน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4040027
จุลพันธ์ ดึงสติ ‘ประยุทธ์’ ลืมไปหรือปล้นอำนาจเขามานั่งนายกฯ ซ้ำอุ้ม ครม.เข้าค่าย จะให้ใครเตรียมข้อมูลส่งต่องาน?
จากกรณีที่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล หลังประชุม ครม.วานนี้ (20 มิถุนายน) กรณีเตรียมข้อมูลส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่แล้วหรือไม่ โดยนายกฯระบุว่า ก็ต้องมี ทุกกระทรวงเขาเตรียมไว้หมดแล้ว เวลามาเขาก็ต้องส่งต่อ ผมเข้ามาไม่มีใครส่งให้ผมสักคนเลย ทั้ง 2 ครั้ง ไม่มีใครส่งสักคนเลย
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นาย
จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุทางทวิตเตอร์ว่า
พล.อ.ประยุทธ์บ่นที่รัฐบาลก่อนหน้าไม่ได้ส่งมอบงาน
ไม่ได้เตรียมข้อมูลให้รัฐบาลประยุทธ์ คงลืมว่าไปปล้นเค้ามา
ครม.แต่ละคนก็โดนแกจับไปขังในค่ายหมด
แล้วใครจะไปทำข้อมูลส่งต่อให้ครับ #รัฐบาลใหม่
https://twitter.com/jamornvivat/status/1671339030280290304
“เท่าพิภพ” ตรวจงานก่อสร้างย่านเดอะมอลล์ท่าพระก่อนหมดสัญญาวันนี้ พบเหลืออีกเพียบ เผยค่าปรับวันละ 2.3 ล.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4040049
“เท่าพิภพ” ตรวจงานก่อสร้างย่านเดอะมอลล์ท่าพระ หลังสิ้นสุดสัญญา พบยังเหลืออีกเพียบ เผยค่าปรับวันละ 2.3 ล.
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความ เกี่ยวกับเรื่องการไปดูงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างถนนย่านเดอะมอลล์ท่าพระว่า
“สิ้นสุดสัญญาการก่อสร้างเส้นเดอะมอลล์ท่าพระ”
โดยมีรายละเอียดว่า
ดูงานการก่อสร้างแถวเดอะมอลล์ท่าพระ ซึ่งข้อมูลที่ผมได้จากการไปพบผู้ว่ากทม.ครั้งก่อนคือ การก่อสร้างแถบนี้สิ้นสุดวันนี้ ซึ่งถ้าผู้รับเหมาทำการก่อสร้างไม่เสร็จจะต้องโดนปรับค่าผิดสัญญาก่อสร้างเป็นจำนวนเงินถึง 2,300,000 บาทต่อวัน #ก้าวไกล
‘เจ้าสัววิกรม’ ห่วงไทยเพื่อนบ้าน จี้ตั้งรัฐบาลเร็ว เตือน 2 ปมขัดแย้งโลกเตือนธุรกิจปรับตัว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4039587
‘เจ้าสัววิกรม’ ห่วงไทยเพื่อนบ้าน จี้ตั้งรัฐบาลเร็ว เตือน 2 ปมขัดแย้งโลกเตือนธุรกิจปรับตัว
นาย
วิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังปี 2566 ว่า ยังต้องติดตามใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นในประเทศคือ การเมือง การจัดตั้งรัฐบาล อยากให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ ได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศโดยเร็ว เพราะตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จจนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และหากสุดท้ายขัดแย้งกันบานปลายจนถึงขั้นลงถนนจะไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยแน่นอน ยิ่งหากมีมือที่ 3 เข้ามาทำให้สถานการณ์บานปลายเหมือนม็อบในอดีตจะยิ่งทำศักยภาพประเทศไทยลดลง ขณะที่เพื่อนบ้านดีขึ้น อาทิ อินโดนีเซีย ที่การลงทุนขยายตัวขึ้นมากจากนโยบายดึงลงทุนของรัฐบาล เศรษฐกิจในประเทศเติบโต ขยายตัว 5-7% ต่อปี จำนวนขอทานลดลง ล่าสุดยังมีประเด็นค่ายรถยนต์อีซูซุที่ทำให้ไทยต้องกลับมามองศักยภาพการลงทุนของตัวเองอีกครั้ง
“
หากการเมืองไทยรุนแรง ถามว่านักลงทุนไม่ว่าไทยหรือต่างชาติจะกล้าลงทุนหรือไม่ แน่นอนทุกคนต้องรอให้สถานการณ์สงบ อย่างอมตะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมจะรับรู้การตัดสินใจของนักลงทุนเป็นอย่างดีว่าการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญแน่นอน” นายวิกรมกล่าว
นอกจากนี้ต้องจับตาประเทศต่างประเทศที่สำคัญ คือ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อาจบานปลายกลายเป็นสงครามโลก ซึ่งรัสเซียจบสงครามนี้ไม่ได้ เดิมคาดจะจบใน 1-2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน แต่ผ่านมา 1 ปีครึ่งยังชนะไม่ได้จนยุโรปดูถูกรัสเซีย ทำให้รัสเซียขู่จะใช้นิวเคลียร์ หากใช้แค่ 100 ลูกจะเกิดผลกระทบเป็นสงครามโลกแน่นอน อีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ การต่อสู้ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ที่สหรัฐฯหยิบยกประเด็นไต้หวันขึ้นมา เพื่อทำให้จีนมีปฏิกิริยาตอบกลับในทางลบ วัตถุประสงค์เพื่อหยุดความร้อนแรงเศรษฐกิจจีน เพราะหากปล่อยให้จีนไล่ทันอนาคตจะเหนื่อย
ทั้งนี้ จากปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว มีหูรูด มีแนวทางควบคุมการใช้จ่าย การบริหารหนี้ ไม่เช่นนั้นหากเกิดวิกฤตใดขึ้นจะทำให้ธุรกิจเกิดความลำบากจนส่งผลต่อสถานะของกิจการ โดยอมตะคือผู้พัฒนาเมือง พัฒนาพื้นที่รองรับอุตสาหกรรม ปัจจุบันลงทุนในไทย เวียดนาม ลาว เมียนมา ต้องวางแผนการทำธุรกิจที่รัดกุม ขณะนี้ยอดขายที่ดินของแต่ละประเทศเติบโตต่อเนื่อง แต่ที่ต้องจับตาคือเมียนมา จากผลกระทบการเมืองที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าการเมืองมีผลต่อการลงทุน ซึ่งรวมถึงยอดขายที่ดินในประเทศไทยเช่นกัน
JJNY : ดึงสติ ‘ประยุทธ์’ ลืม ปล้นอำนาจเขามา│“เท่าพิภพ”ตรวจงานเดอะมอลล์│‘เจ้าสัววิกรม’ห่วงไทย│‘ไบเดน’เรียก‘สี’ เผด็จการ
https://www.matichon.co.th/politics/news_4040027
จากกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตอบคำถามสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล หลังประชุม ครม.วานนี้ (20 มิถุนายน) กรณีเตรียมข้อมูลส่งต่อให้รัฐบาลชุดใหม่แล้วหรือไม่ โดยนายกฯระบุว่า ก็ต้องมี ทุกกระทรวงเขาเตรียมไว้หมดแล้ว เวลามาเขาก็ต้องส่งต่อ ผมเข้ามาไม่มีใครส่งให้ผมสักคนเลย ทั้ง 2 ครั้ง ไม่มีใครส่งสักคนเลย
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 พรรคเพื่อไทย (พท.) ระบุทางทวิตเตอร์ว่า
พล.อ.ประยุทธ์บ่นที่รัฐบาลก่อนหน้าไม่ได้ส่งมอบงาน
ไม่ได้เตรียมข้อมูลให้รัฐบาลประยุทธ์ คงลืมว่าไปปล้นเค้ามา
ครม.แต่ละคนก็โดนแกจับไปขังในค่ายหมด
แล้วใครจะไปทำข้อมูลส่งต่อให้ครับ #รัฐบาลใหม่
https://twitter.com/jamornvivat/status/1671339030280290304
“เท่าพิภพ” ตรวจงานก่อสร้างย่านเดอะมอลล์ท่าพระก่อนหมดสัญญาวันนี้ พบเหลืออีกเพียบ เผยค่าปรับวันละ 2.3 ล.
https://www.matichon.co.th/politics/news_4040049
“เท่าพิภพ” ตรวจงานก่อสร้างย่านเดอะมอลล์ท่าพระ หลังสิ้นสุดสัญญา พบยังเหลืออีกเพียบ เผยค่าปรับวันละ 2.3 ล.
เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความ เกี่ยวกับเรื่องการไปดูงานก่อสร้างโครงการก่อสร้างถนนย่านเดอะมอลล์ท่าพระว่า
“สิ้นสุดสัญญาการก่อสร้างเส้นเดอะมอลล์ท่าพระ”
โดยมีรายละเอียดว่า ดูงานการก่อสร้างแถวเดอะมอลล์ท่าพระ ซึ่งข้อมูลที่ผมได้จากการไปพบผู้ว่ากทม.ครั้งก่อนคือ การก่อสร้างแถบนี้สิ้นสุดวันนี้ ซึ่งถ้าผู้รับเหมาทำการก่อสร้างไม่เสร็จจะต้องโดนปรับค่าผิดสัญญาก่อสร้างเป็นจำนวนเงินถึง 2,300,000 บาทต่อวัน #ก้าวไกล
‘เจ้าสัววิกรม’ ห่วงไทยเพื่อนบ้าน จี้ตั้งรัฐบาลเร็ว เตือน 2 ปมขัดแย้งโลกเตือนธุรกิจปรับตัว
https://www.matichon.co.th/economy/news_4039587
‘เจ้าสัววิกรม’ ห่วงไทยเพื่อนบ้าน จี้ตั้งรัฐบาลเร็ว เตือน 2 ปมขัดแย้งโลกเตือนธุรกิจปรับตัว
นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงสถานการณ์เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งหลังปี 2566 ว่า ยังต้องติดตามใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นในประเทศคือ การเมือง การจัดตั้งรัฐบาล อยากให้เป็นไปตามไทม์ไลน์ ได้รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศโดยเร็ว เพราะตั้งแต่เลือกตั้งเสร็จจนถึงเวลานี้ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และหากสุดท้ายขัดแย้งกันบานปลายจนถึงขั้นลงถนนจะไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยแน่นอน ยิ่งหากมีมือที่ 3 เข้ามาทำให้สถานการณ์บานปลายเหมือนม็อบในอดีตจะยิ่งทำศักยภาพประเทศไทยลดลง ขณะที่เพื่อนบ้านดีขึ้น อาทิ อินโดนีเซีย ที่การลงทุนขยายตัวขึ้นมากจากนโยบายดึงลงทุนของรัฐบาล เศรษฐกิจในประเทศเติบโต ขยายตัว 5-7% ต่อปี จำนวนขอทานลดลง ล่าสุดยังมีประเด็นค่ายรถยนต์อีซูซุที่ทำให้ไทยต้องกลับมามองศักยภาพการลงทุนของตัวเองอีกครั้ง
“หากการเมืองไทยรุนแรง ถามว่านักลงทุนไม่ว่าไทยหรือต่างชาติจะกล้าลงทุนหรือไม่ แน่นอนทุกคนต้องรอให้สถานการณ์สงบ อย่างอมตะเป็นผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมจะรับรู้การตัดสินใจของนักลงทุนเป็นอย่างดีว่าการเมืองเป็นปัจจัยสำคัญแน่นอน” นายวิกรมกล่าว
นอกจากนี้ต้องจับตาประเทศต่างประเทศที่สำคัญ คือ ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน อาจบานปลายกลายเป็นสงครามโลก ซึ่งรัสเซียจบสงครามนี้ไม่ได้ เดิมคาดจะจบใน 1-2 สัปดาห์ หรือ 1 เดือน แต่ผ่านมา 1 ปีครึ่งยังชนะไม่ได้จนยุโรปดูถูกรัสเซีย ทำให้รัสเซียขู่จะใช้นิวเคลียร์ หากใช้แค่ 100 ลูกจะเกิดผลกระทบเป็นสงครามโลกแน่นอน อีกประเด็นที่ต้องจับตาคือ การต่อสู้ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ที่สหรัฐฯหยิบยกประเด็นไต้หวันขึ้นมา เพื่อทำให้จีนมีปฏิกิริยาตอบกลับในทางลบ วัตถุประสงค์เพื่อหยุดความร้อนแรงเศรษฐกิจจีน เพราะหากปล่อยให้จีนไล่ทันอนาคตจะเหนื่อย
ทั้งนี้ จากปัจจัยทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศ ทำให้ธุรกิจต้องปรับตัว มีหูรูด มีแนวทางควบคุมการใช้จ่าย การบริหารหนี้ ไม่เช่นนั้นหากเกิดวิกฤตใดขึ้นจะทำให้ธุรกิจเกิดความลำบากจนส่งผลต่อสถานะของกิจการ โดยอมตะคือผู้พัฒนาเมือง พัฒนาพื้นที่รองรับอุตสาหกรรม ปัจจุบันลงทุนในไทย เวียดนาม ลาว เมียนมา ต้องวางแผนการทำธุรกิจที่รัดกุม ขณะนี้ยอดขายที่ดินของแต่ละประเทศเติบโตต่อเนื่อง แต่ที่ต้องจับตาคือเมียนมา จากผลกระทบการเมืองที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าการเมืองมีผลต่อการลงทุน ซึ่งรวมถึงยอดขายที่ดินในประเทศไทยเช่นกัน