เลือกตั้ง 2566 : กกต. เผยรายชื่อ 500 ส.ส. ที่ประกาศยังสอบสวนข้อร้องเรียนไม่เสร็จ ส่วนกรณีส่งศาลตีความสถานะ ‘พิธา’ เอกสาร-หลักฐานต้องแน่น

.
วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง ร่วมสังเกตการณ์บรรยากาศการเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ 500 คน เข้ารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. เพื่อนำไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร
.
โดยฐิติเชฏฐ์กล่าวถึงการประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้ง 500 คนว่า การที่ กกต. มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน รวมจำนวนแล้วครบ 500 คน เนื่องจากขณะนี้ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในกรอบ 60 วัน จึงต้องประกาศรับรองผลไปก่อน
.
ซึ่งการสอบสวนสำนวนคำร้องต่างๆ ยังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ภายใน 30 วันที่ กกต. ประกาศรับรอง ถ้าผู้ใดเห็นผู้ที่ได้รับการรับรองการเป็น ส.ส. กระทำการไม่สุจริต สามารถมาร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบได้ หากสืบสวนแล้วเห็นว่ามีความผิด กระทำการทุจริต จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลฎีกาพิจารณาต่อไป
.
กรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่งหนังสือถึง กกต. เพื่อให้ใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส. ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ฐิติเชฏฐ์กล่าวว่า
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ขอให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นเป็นผู้ดำเนินการก่อน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมีพยานเอกสาร หลักฐานครบถ้วนและเพียงพอที่จะเสนอต่อศาลได้
หากไม่ครบถ้วนศาลก็อาจจะไม่รับไว้พิจารณาได้ ดังนั้น กกต. ต้องดำเนินการด้วยความละเอียดและรอบคอบ รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายผู้ถูกร้อง
.
เมื่อถามว่าเอกสารที่มีอยู่ขณะนี้เพียงพอแล้วหรือไม่ จะต้องมีการเรียกหรือขอเพิ่มเติมภายหลังอีกหรือไม่ ฐิติเชฏฐ์กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเรียกมา ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการประชุม บัญชีทรัพย์สิน และหลักฐานการถือครองหุ้นของพิธา เพื่อประกอบการพิจารณาว่าหลักฐานตรงกันหรือไม่
แม้ขณะนี้จะมีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับพิธา จำเป็นต้องตรวจสอบด้วยความละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะเสนอ กกต. เชื่อว่าคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นมาจากผู้เชี่ยวชาญจะทำด้วยความรวดเร็ว และหลังจากนี้น่าจะมีการเชิญพิธาและบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงด้วย
.
ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม
.
#TheStandardNews
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
ล่าสุด กกต เผย ยังไม่กล้าส่งศาลตีความคุณสมบัติของ พิธา เนื่องจากหลักฐานไม่พอศาลอาจไม่รับ???
.
วันนี้ (20 มิถุนายน) ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
ฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กรรมการการเลือกตั้ง ร่วมสังเกตการณ์บรรยากาศการเปิดให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและแบบบัญชีรายชื่อ 500 คน เข้ารับหนังสือรับรองการเป็น ส.ส. เพื่อนำไปรายงานตัวต่อสภาผู้แทนราษฎร
.
โดยฐิติเชฏฐ์กล่าวถึงการประกาศรับรอง ส.ส. ครบทั้ง 500 คนว่า การที่ กกต. มีมติประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 400 คน และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ 100 คน รวมจำนวนแล้วครบ 500 คน เนื่องจากขณะนี้ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนในสำนวนคำร้องคัดค้านการเลือกตั้งยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในกรอบ 60 วัน จึงต้องประกาศรับรองผลไปก่อน
.
ซึ่งการสอบสวนสำนวนคำร้องต่างๆ ยังดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ภายใน 30 วันที่ กกต. ประกาศรับรอง ถ้าผู้ใดเห็นผู้ที่ได้รับการรับรองการเป็น ส.ส. กระทำการไม่สุจริต สามารถมาร้องเรียนต่อ กกต. เพื่อให้ตรวจสอบได้ หากสืบสวนแล้วเห็นว่ามีความผิด กระทำการทุจริต จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอศาลฎีกาพิจารณาต่อไป
.
กรณีที่ เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ส่งหนังสือถึง กกต. เพื่อให้ใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสถานภาพ ส.ส. ของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล ฐิติเชฏฐ์กล่าวว่า
ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ขอให้เป็นอำนาจของคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นเป็นผู้ดำเนินการก่อน ซึ่งกระบวนการตรวจสอบต้องมีพยานเอกสาร หลักฐานครบถ้วนและเพียงพอที่จะเสนอต่อศาลได้
หากไม่ครบถ้วนศาลก็อาจจะไม่รับไว้พิจารณาได้ ดังนั้น กกต. ต้องดำเนินการด้วยความละเอียดและรอบคอบ รวมทั้งให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายผู้ถูกร้อง
.
เมื่อถามว่าเอกสารที่มีอยู่ขณะนี้เพียงพอแล้วหรือไม่ จะต้องมีการเรียกหรือขอเพิ่มเติมภายหลังอีกหรือไม่ ฐิติเชฏฐ์กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเรียกมา ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานการประชุม บัญชีทรัพย์สิน และหลักฐานการถือครองหุ้นของพิธา เพื่อประกอบการพิจารณาว่าหลักฐานตรงกันหรือไม่
แม้ขณะนี้จะมีข้อมูลบางส่วนแล้ว แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและให้ความเป็นธรรมกับพิธา จำเป็นต้องตรวจสอบด้วยความละเอียดรอบคอบ อย่างไรก็ตาม
ขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานก่อนที่จะเสนอ กกต. เชื่อว่าคณะกรรมการไต่สวนสืบสวนที่ กกต. ตั้งขึ้นมาจากผู้เชี่ยวชาญจะทำด้วยความรวดเร็ว และหลังจากนี้น่าจะมีการเชิญพิธาและบุคคลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงด้วย
.
ภาพ: ชาติกล้า สำเนียงแจ่ม
.
#TheStandardNews
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้