คลิปที่อธิบายโดยลงทุนแมน ฟังแล้วกระจ่างเลยครับ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์ในอดีต การสร้างยอดขายปลอมเหมือนกันคือบริษัท Roynet เมื่อ 20 ปีก่อน ที่สุดท้ายบริษัทมีการปั่นราคาขึ้นไปหลายเท่าเนื่องจากงบ P&L เติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าตลาดไม่นาน โดยผู้ถือหุ้นใหญ่ได้ทยอยขายหุ้นรับกำไรไปหมดและลาออกไปแล้ว จากนั้นผบหชุดใหม่เข้ามาและตรวจสอบงบการเงินย้อนหลังเปลี่ยนกำไรเป็นขาดทุนในอดีต ทำให้ส่วนทุนติดลบทันที จนทุกวันนี้เจ๊งและออกจากตลาดไปเรียบร้อย คาดว่า Stark ก็น่าจะมีจุดจบไม่แตกต่างกัน เพราะเดินตามรอยเดียวกันเป๊ะ เหมือนหนังเก่ามาสร้างใหม่ ตัวละครใหม่ แต่พล้อตเรื่องเดิมๆ ซึ่งหลายคนบอกว่าเอาไว้เป็นบทเรียนครั้งสำคัญ สำหรับ Stark แต่จริงๆแล้วต้องบอกว่าบทเรียนที่ไม่เคยจำมากกว่าเพราะมันก็ซ้ำรอยเดิมๆมาตลอด 20 ปี และคนก็ลืมกันไปหมดแล้ว และอีก 20 ปีข้างหน้าก็อาจจะมีข่าวทำนองนี้ออกมาอีกหรือไม่ และถึงตอนนั้นคนก็คงลืมหุ้นที่เคยสร้างความเสียหายแก่นักลงทุนจำนวนมากในวันนี้ และบอกว่าเอาไว้เป็นบทเรียนวนไปอีกใช่ไหม ถ้าเรายังไม่สามารถเอาคนผิดมาลงโทษได้ โดยอ้างว่ากฏหมายเอื้อมไปไม่ถึงใช่หรือไม่ ทั้งที่ในอดีตก็มีบทเรียนมาแล้ว ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ กลต. ก็ยังปล่อยให้เรื่องเกิดขึ้นได้อีกโดยหาคนมารับผิดชอบไม่ได้
ย้อนรอยหุ้น Roynet
https://mgronline.com/daily/detail/9470000063509
หนังสือเล่มนี้สงสัยผมต้องปัดฝุ่นเอามาอ่านอีกรอบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
มีผู้ถามว่ากรณี Stark มันน่าจะแตกต่างกับ Roynet ผมขอสรุปคร่าวๆให้เข้าใจง่ายๆดังนี้
Roynet รายละเอียดจริงๆมันยิ่งกว่านั้นครับ เพราะหากขายได้จริงแล้วมันจะไม่กลับมาขาดทุนหนัก แต่แค่ดึงรายรับเข้ามาเร็วขึ้น แต่แท้จริงก็คือการฝากขายครับ ซึ่งยังไม่ถือเป็นการรับรู้รายได้ล่วงหน้าด้วยซ้ำ มันคือยอดลวงนั่นแหละ เหมือนฝากตามตู้กระจกร้านค้าย่อย คือร้านค้ารับของไปก่อน แล้วเอาไปวางขาย คนซื้อยังไม่มี สมมุติผมเป็นเจ้าของ Roynet ผมก็บอกเซลล์ในบริษัทว่าเอาไปฝากไว้ตามร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ถ้าไม่ได้จนหมดอายุค่อยเอามาคืน ซึ่งพวกนี้มันคิดเป็นรายได้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าคาดว่าจะขายได้หมดก็โอเค ซึ่งก้ต้องเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงจริงๆ ผลิตแทบไม่ทัน อันนั้นอาจอนุโลมบันทึกเป็นรายรับบางส่วนรายไตรมาสได้ เรื่องก็คือของพวกนี้มันขายไม่ออก เพราะเอาไปฝากไว้เป็นลังๆ พวกร้านย่อยก็รับมาไม่ได้เสียอะไรนี่ ขายได้ก็ได้เปอร์เซ็นต์ ขายไม่ได้ก็คืน Roynet ไป แต่ Roynet ดันเอาไปรับรู้รายได้ซะก่อนแล้ว ทำให้กำไรโตเอาๆทุกไตรมาส สุดท้ายเรื่องแดง เพราะผู้ตรวจสอบบัญชีพบว่ามันเป็นการสร้างยอดขายลวง เรื่องเลยเอวัง
ส่วน Stark นี่ถ้าจะบอกไม่เหมือนก็คือมันโหดกว่า เลวร้ายกว่า ความเสียหายกินวงกว้างกว่ามาก เพราะร่วมกับพรรคพวกตัวเอง ไปเอาบริษัทที่พรรคพวกตัวเองเข้าไปเป็นกรรมการและเจ้าของ สร้างคู่ค้าลวงขึ้นมา ทำให้เกิดรายได้ลวง และรับรู้กำไรลวงขึ้นมา โดยผ่องถ่ายเงินนั้นจริงๆซึ่งได้มาจากการเพิ่มทุนของนักลงทุนรายย่อยผ่านกองทุนต่างๆ ออกไปจากบริษัทจนหมด โดยหลอกว่าจะเอาไปลงทุน โน่นนี่นั่น และขณะเดียวกันก็โกงอีกเด้งคือปั่นราคาหุ้นไปขายเอากำไรต่ออีกชั้นหนึ่ง และหากจะสืบและเอาผิดมันชัดเจนกว่ามาก ควรที่หาคนมาติดคุกไม่ยาก ถ้าคิดจะทำและเอาจริงกัน
และผมเตือนคนที่คิดว่าจะซื้อหวังรวยเมื่อ Stark ฟื้นฟูกลับมาเทรดใหม่ในอีก 3 ปี 5 ปี ท่านไม่ได้เห็นหรอกครับ อย่าเอาเงินอันมีค่าไปจมกับความเสียหายอีกเลย กำขี้ดีกว่ากำตด ยังไงบริษัทนี้มันกลายเป็นของเน่าเสียที่ไม่มีวันกลับมาเป็นของสดใหม่ได้อีกแล้ว เลิกๆเถอะครับ ถ้ายังมีก็ขายเอาเศษเงินมาเป็นค่ากับข้าวได้อีกหลายมื้อ ยังดีกว่าไปทนถือซากหุ้นพวกนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทิ้งท้ายขอนำข้อความของเซียนหุ้นที่ประสบการณ์สูงที่เห็นการเอารัดเอาเปรียบแบบหน้าด้านๆ และเกือบถูกหลอกให้เข้าไปลงทุน จนทนไม่ไหวต้องมาให้ข่าวตามนี้
ที่มา
https://www.prachachat.net/finance/news-1325295
ย้อนรอย Roynet สู่ Stark การตกแต่งบัญชี บทเรียนที่ไม่เคยจำ?
ย้อนรอยหุ้น Roynet
https://mgronline.com/daily/detail/9470000063509
หนังสือเล่มนี้สงสัยผมต้องปัดฝุ่นเอามาอ่านอีกรอบ
---------------------------------------------------------------------------------------------------
มีผู้ถามว่ากรณี Stark มันน่าจะแตกต่างกับ Roynet ผมขอสรุปคร่าวๆให้เข้าใจง่ายๆดังนี้
Roynet รายละเอียดจริงๆมันยิ่งกว่านั้นครับ เพราะหากขายได้จริงแล้วมันจะไม่กลับมาขาดทุนหนัก แต่แค่ดึงรายรับเข้ามาเร็วขึ้น แต่แท้จริงก็คือการฝากขายครับ ซึ่งยังไม่ถือเป็นการรับรู้รายได้ล่วงหน้าด้วยซ้ำ มันคือยอดลวงนั่นแหละ เหมือนฝากตามตู้กระจกร้านค้าย่อย คือร้านค้ารับของไปก่อน แล้วเอาไปวางขาย คนซื้อยังไม่มี สมมุติผมเป็นเจ้าของ Roynet ผมก็บอกเซลล์ในบริษัทว่าเอาไปฝากไว้ตามร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ถ้าไม่ได้จนหมดอายุค่อยเอามาคืน ซึ่งพวกนี้มันคิดเป็นรายได้ไม่ได้หรอก แต่ถ้าคาดว่าจะขายได้หมดก็โอเค ซึ่งก้ต้องเป็นสินค้าที่มีความต้องการสูงจริงๆ ผลิตแทบไม่ทัน อันนั้นอาจอนุโลมบันทึกเป็นรายรับบางส่วนรายไตรมาสได้ เรื่องก็คือของพวกนี้มันขายไม่ออก เพราะเอาไปฝากไว้เป็นลังๆ พวกร้านย่อยก็รับมาไม่ได้เสียอะไรนี่ ขายได้ก็ได้เปอร์เซ็นต์ ขายไม่ได้ก็คืน Roynet ไป แต่ Roynet ดันเอาไปรับรู้รายได้ซะก่อนแล้ว ทำให้กำไรโตเอาๆทุกไตรมาส สุดท้ายเรื่องแดง เพราะผู้ตรวจสอบบัญชีพบว่ามันเป็นการสร้างยอดขายลวง เรื่องเลยเอวัง
ส่วน Stark นี่ถ้าจะบอกไม่เหมือนก็คือมันโหดกว่า เลวร้ายกว่า ความเสียหายกินวงกว้างกว่ามาก เพราะร่วมกับพรรคพวกตัวเอง ไปเอาบริษัทที่พรรคพวกตัวเองเข้าไปเป็นกรรมการและเจ้าของ สร้างคู่ค้าลวงขึ้นมา ทำให้เกิดรายได้ลวง และรับรู้กำไรลวงขึ้นมา โดยผ่องถ่ายเงินนั้นจริงๆซึ่งได้มาจากการเพิ่มทุนของนักลงทุนรายย่อยผ่านกองทุนต่างๆ ออกไปจากบริษัทจนหมด โดยหลอกว่าจะเอาไปลงทุน โน่นนี่นั่น และขณะเดียวกันก็โกงอีกเด้งคือปั่นราคาหุ้นไปขายเอากำไรต่ออีกชั้นหนึ่ง และหากจะสืบและเอาผิดมันชัดเจนกว่ามาก ควรที่หาคนมาติดคุกไม่ยาก ถ้าคิดจะทำและเอาจริงกัน
และผมเตือนคนที่คิดว่าจะซื้อหวังรวยเมื่อ Stark ฟื้นฟูกลับมาเทรดใหม่ในอีก 3 ปี 5 ปี ท่านไม่ได้เห็นหรอกครับ อย่าเอาเงินอันมีค่าไปจมกับความเสียหายอีกเลย กำขี้ดีกว่ากำตด ยังไงบริษัทนี้มันกลายเป็นของเน่าเสียที่ไม่มีวันกลับมาเป็นของสดใหม่ได้อีกแล้ว เลิกๆเถอะครับ ถ้ายังมีก็ขายเอาเศษเงินมาเป็นค่ากับข้าวได้อีกหลายมื้อ ยังดีกว่าไปทนถือซากหุ้นพวกนี้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ทิ้งท้ายขอนำข้อความของเซียนหุ้นที่ประสบการณ์สูงที่เห็นการเอารัดเอาเปรียบแบบหน้าด้านๆ และเกือบถูกหลอกให้เข้าไปลงทุน จนทนไม่ไหวต้องมาให้ข่าวตามนี้
ที่มา
https://www.prachachat.net/finance/news-1325295