เรื่องนี้เป็นปมในใจของจขกท.ที่นึกถึงทีไรก็รู้สึกโกรธแค้นขึ้นมาทุกที
เหตุการ์ณนี้เกิดขึ้นประมาณ11ปีที่แล้ว สมัยที่เราเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่4 โรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือ เช้าวันนั้นเพื่อนสนิทเราปวดท้องและไม่อยากไปเข้าแถวเคารพธงชาติ เราเลยนั่งอยู่ในห้องเรียนกัน2คน ระหว่างที่นร.คนอื่นเข้าแถว มีครูประจำชั้นเดินเข้ามาตรวจในห้องแล้วถามเรากับเพื่อนว่าทำไมไม่ไปเข้าแถว เรากับเพื่อนก็ตอบไปตามตรง ครูท่านนั้นเห็นโทรศัพท์มือถือของเราวางอยู่บนโต้ะที่เรานั่ง จึงริบโทรศัพท์มือถือของเราไว้ แล้วไล่เรากับเพื่อนให้ไปเข้าแถว (ขณะนั้นโรงเรียนเคยมีกฎห้ามนำโทรศัพท์มือถือมาโรงเรียน แต่ตอนที่เราย้ายเข้าไปเรียนต่อม.4ที่นั่นนักเรียนทุกคนเอามือถือมาใช้ที่โรงเรียนเป็นปกติ ครูในโรงเรียนเห็นก็ไม่ได้มีการริบหรือทำโทษ เพียงแต่ห้ามใช้ในขณะเรียน) หลังจากริบมือถือไปครูได้นำมือถือของเราไปค้นข้อมูล รูปภาพ คลิปวิดีโอ อัพโหลดลงคอมพิวเตอร์ แล้วเรียกเราไปพบที่ห้องปกครอง เปิดรูปคู่ของเรากับแฟนในมือถือให้เราดู แล้วถามว่าชู2นิ้วคืออะไร?อยากได้2ครั้งหรอ? ในมือถือเรามีรูปภาพถ่ายคู่กันกับแฟนตามปกติตามประสาวัยรุ่น ไม่มีรูปกอด หอม หรือคลิปที่ดูเสื่อมเสียเลย ณ ตอนนั้น ครูพยายามเค้นถามเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับแฟนที่อยู่คนละโรงเรียน บีบบังคับเราให้เขียนข้อความสารภาพว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับแฟน ชื่ออะไร เขียนชื่อนามสกุลมาให้หมด บังคับให้เราเรียกผู้ปกครองมาพบและบีบให้เขียนหนังสือขอลาออก ตอนนั้นเราด้วยความที่เป็นเด็กก็กลัวทุกอย่าง ครูสั่งให้ทำอะไรเราก็ไม่กล้าเถียง ตอนนั้นเราไม่คิดไม่ฝันว่าอยู่ๆจะโดนไล่ออกจากโรงเรียนที่เราพยายามสอบเข้าจนติด มาวันนี้เรายังคงรู้สึกโกรธแค้นที่ครูคนนี้ทำลายอนาคตเรา ถึงขนาดที่ว่าโทรหาครูที่โรงเรียนของแฟนเรา เพื่อเล่าให้ครูฝ่ายปกครองที่โรงเรียนนั้นฟัง จนเราไม่สามารถย้ายไปเรียนโรงเรียนที่มีชื่อเสียงในจังหวัดได้
ณ วันนี้ในตอนที่เราเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้วเราไม่เข้าใจว่า การมีเพศสัมพันธ์กับแฟนเป็นความผิดร้ายแรง ถึงขนาดต้องบีบบังคับนักเรียนให้ลาออกจากโรงเรียน โดยไม่สนว่าเด็กจะเดือดร้อนหรือไม่ มีที่เรียนต่อหรือไม่ หากวันนี้เราได้กลับไปเจอกับครูคนนั้นก็คงจะอดถามครูคนนั่นไม่ได้ ว่าทำไมถึงทำลายชีวิตเรา