[SR] Review Vol.37 พิษสวาท เดอะมิวสิคัล-การกลับมาทวงบัลลังก์ เจ้าแห่งวงการละครเวที

จากละครโทรทัศน์ที่สร้างปรากฎการณ์ความโด่งดังสูงสุดเมื่อปี พ.ศ. 2559 สู่ละครเวทีเรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี พ.ศ. 2566  

“พิษสวาท เดอะมิวสิคัล” เรื่องราวตำนานความรักที่ยังคงติดตรึง การรอคอยด้วยแรงแห่งความแค้น และการหวนกลับคืนมาเพื่อทวงถามสัญญาจากคนรัก

 

ผลงานละครมิวสิคัลฟอร์มยักษ์เรื่องใหม่ของซีเนริโอ “ ผู้สร้างสี่แผ่นดิน เดอะมิวสิคัล ” “บัลลังก์เมฆ เดอะมิวสิคัล” และ “ แม่นาคพระโขนง เดอะมิวสิคัล” 

 

กำกับการแสดงโดย ถกลเกียรติ วีรวรรณ

นำแสดงโดย ตู่ ภพธร, แก้ม กุลกรณ์พัชร์, ชาย ชาตโยดม, ชิน ชินวุฒ, ดาว ณัฐภัสสร

--------------------------------------

ห่างหายไปนานสำหรับละครเวที ที่เรียกว่า "เรื่องยิ่งใหญ่แห่งปี" ตั้งตารอ นับวันรอ ด้วยความที่เป็นแฟนคลับรัชดาลัย ซื้อบัตรไว้อย่างน้อย 3 รอบ 5555555 เพราะมั่นใจในละครเวทีของรัชดาลัย รอบนี้เป็นการกลับมาของทั้งโลกละครเวที และการกลับมาแก้แค้นของคุณอุบล ที่โดนตัดหัวทิ้งไว้ให้เฝ้าสมบัติ เวลาผ่านไปเป็นร้อยๆปี ก็ยังต้องเฝ้าอยู่ แค้นใจจนต้องไปร้องขอต่อเจ้าแห่งโลกวิญญาณ เพื่อกลับมาสะสางคนรัก ที่ลวงหลอกด้วยคำหวาน ให้ทำหน้าที่โดยไม่ได้ตั้งใจ แถมยังหนีไปกับหญิงอื่น ฟังแล้วน่าสงสารคุณอุบล ยิ่งนัก 

เริ่มด้วย 

1 ดาว ณัฐภัสสร หรือพี่ดาว โอเกะ เจ้าหญิงจัสมิน แห่งอาละดิน กลับมาครั้งนี้รับบท ทิพอาภา ในภพปัจจุบัน และเป็น ทิพย์ ในสมัยอยุธยา หญิงสาวที่เก่ง อ่านใจพระเอกออก แต่กลับแสดงออกด้วยความนุ่มนวล น่าสงสาร บทในอยุธยา แทบจะไม่มี พูดถึงนิดหน่อย แต่ก็เป็นตอนสำคัญๆ ด้วยเวลาจำกัดของละครเวทีก็ทำบทนี้ออกมาได้ดี น่าสงสาร  เสียงร้องไม่ต้องพูดถึง เรื่องนี้ร้องหลายเพลง เสียงใส กังวาล ยังคงคอนเซป ร้องเพลงไป ร้องไห้ไปได้อย่างดี ร้องไห้ในเรื่องนี้น่าสงสาร ต่างจากการร้องไห้ในเรื่องลอดลายมังกร 

2 ชิน ชินวุฒ รับบท หมอเชษฐา คนเดียวที่ไม่ได้มีอดีต ร่วมกับใครเค้า เป็นหมอที่ไม่เชื่อเรื่องผี   แต่ก็ต้องมาเจอเรื่องราวประหลาด ถึงขั้นได้เข้าไปในลานพิพากษา (โลกหลังความตาย ) ชิน ก็ยังคงเล่นเป็นตัวเอง ถ้าดูจากหลายๆเรื่องที่ผ่านมา เรื่องนี้ดูเป็นชิน ที่สุด ได้ร้องเพลงแนวตัวเองถนัด คุ้มค่าคนดู เป็นตัวเดินเรื่อง ถึงแม้ไม่ได้มีอดีตร่วม แต่ก็เป็นตัวการสำคัญ ที่ทำให้เรื่องนี้ดำเนินไปได้ 

3 ชาย ชาตโยดม พันตรีดนัย นักการเมืองที่มีความโลภ เป็นพื้นฐาน ทั้งอยากได้ อยากมี เพื่อความเจิญรุ่งเรืองของตัวเอง เรื่องนี้พี่ชาย ร้องเพลงดีขึ้นเยอะ เล่นบทคนเลว ได้อย่างน่าหมันไส้ ถือว่าเป็นสีสันให้คะครเรื่องนี้เป็นอย่างมาก โดนเด่น แย่งซีนมาก 

4 ตู่ ภพธร เป็น พระอรรค ในอดีต และ อัคนี ในปัจจุบัน หลังจากแม่นาคพระโขนง ก็เซอไพรส์ กับการได้มาเล่นใน พิษสาท อีกครั้ง พี่ตู่มีคาแรกเตอร์ส่วนตัวที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเล่นบทไหน ทั้งเสียงร้องและลีลาการแสดงของเค้าก็จะเป็นประมาณนี้ ถ้าตัดภาพ ป้อง ณวัตน์ ออกไป พระอรรค ในพิษสวาทรอบนี้ มีความอ่อนโยน มีความเป็นผู้ชายอบอุ่น ซีนอารมณ์ร้องไห้ ก็ทำได้สุด ดูเป็นผัชายที่ไม่สามารถตัดหัวภรรยาได้อย่างเลือดเย็น  ฮืออออ 

5 แก้ม กุลกรณ์พัชร์ เป็น อุบล ในอดีต และ คุณสโรชินี ในปัจจุบัน สุดจริง (ยืนปรบมือ800 ครั้ง พร้อมปาดน้ำตา ) เสียงร้อง การแสดง สมกับที่ไปเติบโตทางด้านการแสดงละครเวทีมา ทุกคนอาจจะจำได้ แก้ม เราเคยเห็นเล่นเป็น บ่าวไกวเปล ให้คุณเปรม ในสี่แผ่นดิน แล้วมาเล่น Miss Saigon เป็นนางเอง และมาเล่นร้ายใน เลือดขัติยา หลังจากนั้นแก้มก็ไปเล่นละครเวทีต่างประเทศ เก็บเกี่ยวประสบการณ์ แล้วกลับมาเป็น คุณอุบล ในปีนี้ เส้นทางนักแสดงละครเวทีของเธอ ก็การันตรีได้แล้วว่า มันจะดีมากๆแค่ไหน เรียกได้ว่าออกมาซีนไหน ก็ขนลุก 

            นอกจากนักแสดงหลักทั้ง 5 คนแล้วยังมีบท พลโทอัครา ที่เปลี่ยนคนแสดง จาก ปราปต์ ปราปต์ปฎล (ข้อมูลวันแถลงข่าว ) เป็น ทนงศักดิ์ ศุภการ บทไม่ได้มีอะไรมาก แต่ก็คิดว่า ทนงศักดิ์ ศุภการ ทำออกมาได้ดี มีร้องเพลงบ้าง แต่ก็เป็นนักแสดงที่เราคุ้นตา 

           อองซอม เรื่องนี้ ก็เหนื่อยเอาการ บทเยอะ ทั้งปัจจุบัน อดีต สับไปสับมา เดี๋ยวเป็นพม่า เดี๋ยวเป็นทหารไทย เดี๋ยวแบกโรง เดี๋ยวเป็นผีอีก เหนื่อยเทนเลย แต่ทุกโชว์ก็ทำออกมาได้ดี ไม่มีไม่ได้ การเป็นอองซอมไม่ใช้เรื่องง่าย ดังนั้น เราก็จะสามารถจดจำนักแสดงออกซอมได้ เช่น หนุ่มชุดแดง ตัวตึง ทำหน้าตึง ขึงขังตลอดเวลา อย่างคุณซาน (คนนี้ก็เคยเล่นบทใหญ่ๆ มาแล้ว แม้กระทั้งพากษ์เสียงอาละดิน ก็ทำมาแล้ว ) คุณภาพขนาดนี้ ก็ต้องเอาไปเลย 

10/10 สำหรับนักแสดง ที่ทุ่มเททำผลงานดีๆออกมาให้เราได้รับชม 

          ถือว่าเป็นบทละคนที่หินมากๆ ด้วยเรื่องราวที่มันมีรายละเอียดมากมาย ถ้าดูละครจะรู้ว่าส่วนขยายมันได้หายไป จนมาเหลือบทน้ำๆเนื้อๆ แน่นๆ อัดแน่นในเวลา 2 ชั่วโมงกว่า แต่แอบพักสายตาในองค์แรก ด้วยบทที่เส้นกราฟมันไม่ได้พุ่งขึ้นเท่าไร เรียบๆ เล่าไปเรื่อยๆ ปูเรื่องให้คนดูก่อน แต่ก็ยังพอมีระบำและฉากให้ตกอกตกใจ แบบตั้งตัวไม่ทันอยู่ แต่พอมาองค์ 2 จากบทที่เนือยๆ เรื่อยๆในองค์แรก พอองค์2มา เรื่องมันก็รวบรัดขึ้นมาซะอย่างนั้น แล้วก็ตัดจบสรุปผล แบบสวยๆ ด้วยม่านแดงที่เราคุ้นตา  เรื่องนี้ก็ต้องบอกตามตรงว่าบทมันยังไม่กลมกล่อมเท่าไร โดยเฉพาะองค์แรกที่แอบเนือย  ส่วนตัวลืมเนื้อเรื่องในเวอร์ชั่นละครไปแล้ว  จำตอนจบไม่ได้ พอมาดูละครเวที มันก็จะหลวมๆ ในเรื่องบทไปหน่อย น่าจะขยายความบทของทิพย์ มากกว่านี้ เพราะเป็นเรื่องหลักๆ สาเหตุสำคัญอีกหนึ่งประเด็ดเลย เรื่อง ความสัมพันธ์พระอรรคกับทิพย์ แต่บลละครเวทีเรื่องนี้ก็แอบแทรกคำสอน คติเตือนใจ ที่มันเจ็บจี๊ด และทำให้คนดูตั้งคำถามว่า เมื่อไรที่คุณอุบลถึงจะได้หลุดพ้นเสียที 

8/10 สำหรับบทละคร แอบเสียใจที่ต้องหักคะแนน

เพลง เรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เกิดใน2 ภพชาติ ในส่วนของดนตรีก็ออกไปทางแนวคลาสสิค ประสานเสียง มีเพลงที่ร้องพร้อมกันแต่คนละเนื้อ อยู่หลายเพลง 5555 ส่วนตัวบอกตามตรงว่าฟังไม่ทัน เพลงที่เพราะติดหู คือเพลงที่คุณอุบลร้อง เพลงที่ชอบที่สุดคือเพลงโซโล่ ของชาย ชาติโยดม สนุกเสียดสีการเมืองได้ดี เพลงที่ความหมายดีและเป็นคีย์สำคัญ น่าจะชื่อเพลง บ้านที่ไม่ต้องมีรั้ว (ยังไม่ได้ R Magazine ) เนื้อหาเพลงทำให้คนได้คิดตามจริงๆ  แต่เพลงในองค์แรก เพลงช้าชวนง่วงมันมีบ่อยไปหน่อย มันไม่สะใจคนดูอย่างเรา เพลงรักของเค้าก็เป็นแบบหวานๆ อบอุ่นๆ ตามเคมีพระนางเลย 

ดนตรี ดนตรีเท่าที่ได้ยิน ก็มีดนตรีไทยผสมผสาน แต่ไม่ได้ถึงกับมากมาย เพราะเรื่องมี 2 ภพเลย ส่วนตัวคิดว่า ดนตรีทำออกมาได้ดี ไม่มีช่วงเงียบ ดนตรีคลอตามเนื้อเรื้อง บิ้วคนดู ทั้งเสียงดนตรี และเสียงจากเทคนิคพิเศษ ที่ผ่านการซักซ้อมมาอย่างแม่นยำ ไม่มีหลุดคิว  ดนตรีในเพลง พิษสวาท ที่มีดนตรีไทยคือขลังมาก น้อยแต่มาก รวมกับอินเนอร์คุณอุบลแล้วก็สุดๆ

เพลงและดนตรี 9/10 หักคะแนนเพลงช่วงองค์แรก แต่อาจจะมาจากบทละครที่ทำให้เพลงมันต้องออกมาเป็นแบบนี้รึป่าว ไม่แน่ใจ 

มาถึงส่วนสำคัญ ที่เราให้ความสนใจมากๆๆๆๆๆๆๆๆ ฉากเรื่องนี้โจทย์คือมันเป็น 2 ภพที่เกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้กลับไปกลับมา ฉากจะมาเลื่อนขึ้นลง ตลอดเวลาก็คงจะกินเวลาเกินไป คนออกแบบฉากเลยใส่รายละเอียดของทั้ง 2 ภพ มาในแผ่นฉากที่มองดูเป็นเศษซากกำแพงอยุธยา แต่พอตัดมาที่ปัจจุบัน ก็จะมีเงาของตึก อาคาร พร้อมแสง บอกเวลา ได้ และฉากกรุมหาสมบัติและพระปรางค์ที่เป็น iconic ของอยุธยา เค้าก็ใส่มาเป็นผ้าที่สามารถสับไปเป็น ฉากเมืองได้อย่างแนบเนียน ตอนเห็นภาพทางสื่อโฆษณาก็คิดว่ามันเป็น ฉากลอยตัวรูปวัดโบราณปกติ แต่เรื่องนี้คือแบบ ฉลาดออกแบบ รายละเอียดแน่น ไฟซักดวงก็ไม่มีพลาด 

ฉากสำคัญ คือ ฉากตัดหัวคุณอุบล ขอไม่สปอย แต่บอกเลยว่าแปลกใหม่ ตัดเป็นตัด หัวเป็นหัว แบบเต็มตา ฉากนี้คือขนลุก แบบ 3 รอบติดกัน แล้วมันคือมาในซีนจบองค์ 1 สำหรับคนที่คาดหวังว่าจะเปิดมาแล้วฟันเลย ให้รอไปก่อน ให้เค้าเล่าเรื่องก่อน อย่าใจร้อน

ฉากกรุมหาสมบัติ ถือเป็นโครงส้างที่ใหญ่ทีสุด แน่นที่สุดของเรื่อง ทำออกมาได้ดูยิ่งใหญ่จริงๆ มีรายละเอียด ตั้งแต่ทางลง แม้กระทั้งเสียงที่พูดคุยในกรุ ยังทำเป็นเสียงก้องออกมาเลย 

ส่วนผีในเรื่อง ก็ทำออกมาได้หลอนดี ถ้าคนที่เคยดูแม่นาค ผีจะน่ากลัวกว่า แต่ส่วนตัวชอบผีในซีนพระเอกรถชนต้นไม้มาก มันดูเป็นวิญญาณจริงๆ แต่ผีในกรุ ยังไม่น่ากลัว 

ปล: มุมมองจากที่นั่งแถว K ทางด้านซ้าย ไม่ค่อยดีเท่าไร เห็นฉากตัดหัว ไม่หมด แนะนำให้นั่งตรงกลางๆ หรือ ไปทางขวาของเวที (หันหน้าเข้าเวที) เดี๋ยวอีก 2 รอบที่จอง ตรงกลาง และชั้นบน ด้านขวา เป็นยังไง จะมาอัพเดท 

ฉากและเทคนิค 10/10 มาดูฉาก มาดูซีนตัดหัว มาดูเทคนิค ลูกเล่นที่ไม่เคยมีในละครเรื่องไหนมาก่อน ก็ขอให้มาดูเรื่องนี้เลย 

เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สวยและมีเทคนิคพิเศษเกี่ยวกับเสื้อผ้า ถ้าชนกับบรอดเวย์ เอลซ่าก็เอลซ่าเถอะ เจอคุณอุบลเข้าไป 55555 ชุดคุณอุบลมีชุดเดียวต่างกันกันที่รายละเอียดของศิราภรณ์ ทับทิมสีเลือด ว่าจะมาในรูปแบบไหน มาแบบเป็นคนในอดีต ก็จะมีทับทิมติด ถ้ามาแบบเป็นผี จะไม่ติดทับทิม เป็นต้น รายละเอียดเค้าเก็บได้ดี ส่วนชุดคุณสโรชินี สวยทุกชุด บวกกับแก้ม หลังตรง บุคลิกดีมาก ถอดแบบนุ่น วรนุชมาเลย 

ชุดพระเอก ก็ตามแบบนักรบไทย หรือจะเป็นชุดปัจจุบัน ที่คิดว่าไม่น่าจะปัจจุบัน เพราะชุดที่พระเอก ทิพยอาภา หรือหมอเจษใส่ ออกแนวอินเดียน่าโจน ดูมีความเป็นวินเทจ แบบนักล่าสมบัติ แต่ก็สวยดีไม่ต้องคิดเยอะ ก็เค้าขุดสมบัติกัน 55555 

ใดๆก็ให้ 10/10 ไม่ได้เก่งเรื่องวิจารณ์ชุดเสื้อผ้าซักเท่าไร แต่ก็พอจะรู้ว่าทุกชิน ทุกชุดผ่านการคิดสร้างสรรค์ออกมาให้เหมาะกับละครเรื่องนี้แล้ว