บทความโดย : YUM comment
อีกหนึ่งเรื่องราวของความภาคภูมิใจของคนไทยที่แสดงให้เห็นว่า คนไทยเป็นคนที่มีอารยธรรม มีวัฒนธรรมที่งดงามเป็นของตนเอง หยั่งรากฝังลึกมาอย่างยาวนาน ผ่านการรังสรรค์ผลงานของบรรพบุรุษจากรุ่นสู่รุ่น จึงออกมาเป็นผลงานสุดวิจิตรตระการตาจวบจนถึงปัจจุบัน
เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า
แผ่นดินไทยนั้น เป็นแผ่นดินทองที่มีความอุดมสมบรูณ์ มีความสงบร่มเย็น ทำให้คนไทย เป็นคนที่มีจิตใจที่สูงส่ง
จึงสามารถที่จะรังสรรค์ผลงาน สุดวิจิตรตระการตาเหล่านี้ออกมาได้
ที่ยากจะมีชนชาติใดที่จะสามารถลอกเลียนเลียนแบบศิลปวัฒนธรรมขั้นสูงของคนไทยได้
เพราะผู้ที่มีจิตใจที่หยาบกระด้าง ไร้ซึ่งความกตัญญูรู้คุณคน ไร้ซึ่งความสงบสุข
มีแต่ไฟแห่งความอาฆาตมาตรร้าย อิจฉาริษยา สุมอยู่เต็มอก ย่อมที่จะไม่สามารถรังสรรค์ผลงานที่วิจิตรบรรจงเหล่านี้ได้ด้วยตัวของตัวเอง
งานอัตลักษณ์แห่งสยาม ครั้งที่ 14 ที่เพิ่งเสร็จสิ้นลงไปเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งงานอันทรงคุณค่า ที่แสดงถึงอัตลักษณ์ของความเป็นไทย
เราทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์ที่จะส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรมไทย งานช่าง 10 หมู่ ให้กลับฟื้นคืนความรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จากการก่อตั้งศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
อีกทั้งยังทรงสนับสนุนการสานย่านลิเภา ที่เกือบจะสูญหาย เนื่องจากเป็นงานที่ยากและมีความละเอียดอ่อนสูงมาก ให้กลับฟื้นคืนขึ้นมาได้อีกครั้ง ทำให้ช่างหัตถกรรมสานย่านลิเภา มีกำลังใจที่จะสานต่องานฝีมือชั้นครู ที่หายากนี้ ให้คงอยู่ต่อไป
งานจักสานย่านลิเภา เป็นงานศิลปะเก่าแก่ เป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวไทยในภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีการผลิตและใช้กันอย่างแพร่หลาย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชดำริให้ส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาให้มีคุณภาพดีขึ้น เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้แก่ราษฎร ภายในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในภาคใต้ จนงานหัตถกรรมจักสานย่านลิเภาเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชาวต่างชาติต่างให้การยอมรับ และรู้สึกทึ่ง กับการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา ดูคลาสิค อย่างลงตัว
และกระเป๋าย่านลิเภา ก็โด่งดังเป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงถือกระเป๋าย่านลิเภา ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ
ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงร่วมงานพระราชพิธี บรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา แห่งสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 4 - 7 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากพระจริยาวัตร และ ฉลองพระองค์อันงดงาม ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ว กระเป๋าย่านลิเภาที่ทรงถือ ก็กลายเป็นสิ่งดึงดูดสายตาของชาวต่างชาติ จนกลายเป็นกระแสโด่งดัง เพียงชั่วเวลาข้ามคืน
สิ่งเหล่านี้คือสมบัติอันทรงคุณค่าของชาติไทย และขอกราบขอบพระคุณครูบาอาจารย์ทุกท่าน
ที่ท่านได้สละเวลา ถ่ายทอดวิชาความรู้ ศิลปกรรมชั้นสูงเหล่านี้ให้คงอยู่คู่กับชาติไทยสืบไป
แม้ว่าใครจะอ้างว่าเป็นต้นกำเนิด ก็เป็นเพียงแค่วาทะกรรมที่เลื่อนลอย ของคนที่ไร้รากเท่านั้น เพราะคนที่มีจิตใจที่สูงส่ง คนอยู่ในศีลในธรรม คือคนที่จะสามารถรังสรรค์ผลงานศิลปกรรมชั้นสูง ฝีมือระดับชั้นครูออกมาได้อย่างแท้จริง แม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ชาวไร่ชาวนา ธรรมดาๆก็ตาม
บทความโดย : YUM comment
อัตลักษณ์แห่ง "สยาม" ฝีมือชั้นครู ของผู้ที่มีวัฒนธรรม
เป็นสิ่งที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า
เราทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีพระราชเสาวนีย์ที่จะส่งเสริม ศิลปวัฒนธรรมไทย งานช่าง 10 หมู่ ให้กลับฟื้นคืนความรุ่งเรืองขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง จากการก่อตั้งศูนย์ศิลปาชีพบางไทร
อีกทั้งยังทรงสนับสนุนการสานย่านลิเภา ที่เกือบจะสูญหาย เนื่องจากเป็นงานที่ยากและมีความละเอียดอ่อนสูงมาก ให้กลับฟื้นคืนขึ้นมาได้อีกครั้ง ทำให้ช่างหัตถกรรมสานย่านลิเภา มีกำลังใจที่จะสานต่องานฝีมือชั้นครู ที่หายากนี้ ให้คงอยู่ต่อไป
งานจักสานย่านลิเภา เป็นงานศิลปะเก่าแก่ เป็นงานฝีมือชั้นเยี่ยมของชาวไทยในภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มีการผลิตและใช้กันอย่างแพร่หลาย ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5
ต่อมาในปี พ.ศ. 2513 สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระราชดำริให้ส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ย่านลิเภาให้มีคุณภาพดีขึ้น เพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้แก่ราษฎร ภายในโครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในภาคใต้ จนงานหัตถกรรมจักสานย่านลิเภาเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ชาวต่างชาติต่างให้การยอมรับ และรู้สึกทึ่ง กับการออกแบบที่เรียบง่าย แต่ดูหรูหรา ดูคลาสิค อย่างลงตัว
ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสที่เสด็จพระราชดำเนิน ไปทรงร่วมงานพระราชพิธี บรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ 3 และสมเด็จพระราชินีคามิลลา แห่งสหราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 4 - 7 พ.ค. 2566 ที่ผ่านมา
นอกจากพระจริยาวัตร และ ฉลองพระองค์อันงดงาม ของ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี แล้ว กระเป๋าย่านลิเภาที่ทรงถือ ก็กลายเป็นสิ่งดึงดูดสายตาของชาวต่างชาติ จนกลายเป็นกระแสโด่งดัง เพียงชั่วเวลาข้ามคืน