กระทู้นี้อาจเกิดมาจากชั่ววูบของเราเอง อารมณ์ที่ว่านี่คืออารมณ์ของความเศร้าหมองเเม้ตอนที่เราพิมอยู่ยังน้ำตาไหลไม่หยุดเพราะร้องไห้
เราต้องเจออะไรบ้างไม่รู้เเต่ละวัน กับครอบครัวเเละญาติพี่น้องที่คอยดูถูกด้วยคำพูดเเละการกระทำ
ครอบครัวไม่เข้าใจเราในสิ่งที่เราปรารถนา ตั้งเเต่ที่เราปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์มาเราไม่เคยใช้ชีวิตมีความสุขเลยนะบอกตรงๆ
เราต้องร้องไห้เพราะคำพูดของครอบครัวที่เคยกดดันเเละโทษว่าเราเป็นคนทำให้เขาไม่เคยสงบสุข
ขนาดไม่สบายเรายังโดน จนอาการทรุดไปมากจากที่ร่างกายไม่เเข็งเเรงอยู่เเล้วเราต้องเจอสิ่งที่บั่นบอนจิตใจเราให้สุขภาพจิตเราเเย่ลงมากๆ
ทุกคนว่าเราเพ้อเจ้อ คนอย่างเราไม่มีทางเป็นได้ ปกติเราก็ไม่ได้ใส่ใจมากเเต่มันหนักขึ้นเรื่อยๆจนเราเก็บไม่อยู่ต้งมาร้องไห้ในห้องคนเดียว
สิ่งที่เราปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์มันเเย่ขนาดนั้นเลยหรอ เเม้เเต่คนรอบตัวเรายังว่าเราบ้า ปกติเราไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟังหรอกส่วนใหญ่ที่รู้เขามาถามเราเอง
เขาเเค่สงสัยว่าทำไมเราถึงห้ามทำนู้นทำนี่ เพราะมันจะเกิดผลบาป เเต่พวกเขากลับไม่เคยเชื่อเราเเม้เเต่น้อยเเถมยังบอกว่าใครๆก็ทำกันทั้งนั้น
"น่ะมันเพ้อเจ้อ"นี่เป็นคำพูดของคนในครอบครัว ถึงเเม้ว่าเราจะไม่ยุ่งกับใครเเล้ว เรายังโดนราวีตามด่าตามว่า เเม้เเต่ทำความสะอาดพระพุทธรูปให้สะอาดเรายังโดนด่าโดนว่า ครอบครัวน่ะหวังให้เรามีเงินมีทองเอามาให้เขาใช้ เเต่ในทางกลับกันเราไม่ได้อยากตามสิ่งพวกนั้นเลย ตั้งเเต่เราปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ความคิดเราเหมือนถูกรีเซ็ตอ่ะ คือเราไม่ยึดติดกับทุกสิ่งเลย จนเราโดนด่า "เอาให้เขาทำไมหนักหนาเด่วตัวเองก็ไม่มีเเดก" หรือเเต่ชีวิตตัวเองก็ไม่เสียดาย(เเต่ยังคงหวาดกลัวความเจ็บทรมานอยู่เลยไม่กล้าตาย) ถ้าจะให้เข้าใจนี่คืออุปสรรคหรือบททดสอบหรือไง หรือมันเป็นเพราะเราเเย่เอง เรายังโดนปู่กับย่าเราด่า" ทำอะไรที่ชาวบ้านเขาทำกันไม่ใช่ทำอะไรบ้าๆคนธรรมดาเขาไม่ทำกันหรอก"การนั่งสมาธิ,สวดมนต์ นานนี่คือสิ่งที่บ้า?? เพราะเขาคงบอกว่าเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าจะเสียเวลาทำอะไรเเบบนี้
ในมุมมองเรา เควสหรือภารกิจที่เราต้องทำคือ การสร้างบารมี เเละการดับทุกข์ดับกิเลสในตนเอง เเละเเน่นอนมันไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเเรกเเละจะต้องมีครั้งต่อๆไปอีก เราต้องคอยรับเเรงกดดันเเละคำด่าทอของบุคคลในครอบครัวเพราะความปรารถนาบ้าๆที่เขาคิด เเต่เราไม่เคยโกธรเลยนะเเต่เราเเค่รู้สึกเสียใจจนมันกลั้นไม่อยู่มันมีคำพูดที่ร้ายเเรงกว่าที่ทุกคนเห็นในกระทู้นี่เเน่นอนเเละท้ายนี่เราเเค่อยากเก็บกระทู้นี่ไว้เป็นความทรงจำที่เราเคยผ่านอะไรเเย่ๆมาเผื่อสักวันหนึ่งเราสำเร็จในความปรารถนาตรงนี่เเล้ว ละร่างกายจากโลก จะได้เป็นวิทยาทานว่าเจ้าของกระทู้คนนี้ผ่านอะไรมาบ้าง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราอยู่ได้นานเเค่ไหน ถึงจะอยู่ได้เเต่ก็ขอปฏิเสธการรักษาจนกว่าจะหมดหายใจไปเอง ทุกคนมีกรรมของตัวเอง ในเคสนี่อาจจะเป็นกรรมเก่าที่ทำให้ใจเราเศร้าหมอง เวลาเราร้องไห้เราปวดหัวเหมือนสมองจะระเบิดเเล้วภาพทุกอย่างมันถูกฉายเข้ามาในหัว มันเป็นความรู้สึกที่เด็ก 14 อย่างเราต้องมารับ เเต่มันก็คงเป็นความผิดเราเองที่มาบ่น เพราะเราเลือกทางที่จะละจากความสุข ทั้งๆที่เด็ก 14 ควรจะได้เล่น ใช้เวลากับเพื่อนๆ ได้กินของอร่อยๆ ได้สิ่งที่ตัวเองอยากจะได้ มีพ่อเเม่ครอบครัวคอยดูเเล เราก็ทำได้นะเเต่ไม่ทำ เลือกที่จะมารับเคราะห์ของคนอื่นเเทนด้วย เเต่เราเต็มใจนะ เอาเป็นว่ากระทู้นี่เหมือนมาบ่นให้ฟังเเต่มันคือเรื่องราวเเย่ๆที่เราจะต้องได้รับต่อไป...จนกว่าเราจะโต หรือ อาจจะละโลกไปเลยก็ได้ 😊 ทุกวันนี้มีความสุขได้อยู่เพราะสร้างบุญเเละฟังพระบรรยายธรรมเเละบทสวดจีน ส่วนเรื่องสุขภาพอยู่ในโปรไฟล์์์์์์์ตามอ่านได่ว่ามันเเย่จริงๆ *กำกับไว้ก่อนไม่ได้เราไม่ได้โทษพระโพธิญาณนะที่ทำให้ชีวิตเราเเย่เเค่พิมให้เห็นภาพให้เข้าใจความรู้สึกเราเฉยๆน่ะ*เเค่นี่เรายังอ่อนเเอในภายภาคหน้าเราไม่รู้ว่าต้องเจออะไรหนักกว่านี่เเต่ก็รอรับมือไหวไม่ไหวไม่รู้ อาจจะโดนทำร้ายร่างกายหรืออะไรก็ต้องรอดูตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เราก็ต้องจำใจยอมด้วยความยินดี เพื่อเเลกกับพระโพธิญาณ "ในจักวาฬนี้ไม่มีอะไรใจดีกับเราหรอกไม่มีเลยสักอย่างหนทางสู่มรรคผลนฤพานเท่านั้นนั้นใจดีกับเราที่สุดเเล้ว" เอาปริศนาที่เราบอกนี้ไปพิจารณาเองนะ
ทำไมเส้นทางสู่พระโพธิญาณมันเเสนลำบากเเบบมากๆ
เราต้องเจออะไรบ้างไม่รู้เเต่ละวัน กับครอบครัวเเละญาติพี่น้องที่คอยดูถูกด้วยคำพูดเเละการกระทำ
ครอบครัวไม่เข้าใจเราในสิ่งที่เราปรารถนา ตั้งเเต่ที่เราปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์มาเราไม่เคยใช้ชีวิตมีความสุขเลยนะบอกตรงๆ
เราต้องร้องไห้เพราะคำพูดของครอบครัวที่เคยกดดันเเละโทษว่าเราเป็นคนทำให้เขาไม่เคยสงบสุข
ขนาดไม่สบายเรายังโดน จนอาการทรุดไปมากจากที่ร่างกายไม่เเข็งเเรงอยู่เเล้วเราต้องเจอสิ่งที่บั่นบอนจิตใจเราให้สุขภาพจิตเราเเย่ลงมากๆ
ทุกคนว่าเราเพ้อเจ้อ คนอย่างเราไม่มีทางเป็นได้ ปกติเราก็ไม่ได้ใส่ใจมากเเต่มันหนักขึ้นเรื่อยๆจนเราเก็บไม่อยู่ต้งมาร้องไห้ในห้องคนเดียว
สิ่งที่เราปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์มันเเย่ขนาดนั้นเลยหรอ เเม้เเต่คนรอบตัวเรายังว่าเราบ้า ปกติเราไม่พูดเรื่องนี้ให้ใครฟังหรอกส่วนใหญ่ที่รู้เขามาถามเราเอง
เขาเเค่สงสัยว่าทำไมเราถึงห้ามทำนู้นทำนี่ เพราะมันจะเกิดผลบาป เเต่พวกเขากลับไม่เคยเชื่อเราเเม้เเต่น้อยเเถมยังบอกว่าใครๆก็ทำกันทั้งนั้น
"น่ะมันเพ้อเจ้อ"นี่เป็นคำพูดของคนในครอบครัว ถึงเเม้ว่าเราจะไม่ยุ่งกับใครเเล้ว เรายังโดนราวีตามด่าตามว่า เเม้เเต่ทำความสะอาดพระพุทธรูปให้สะอาดเรายังโดนด่าโดนว่า ครอบครัวน่ะหวังให้เรามีเงินมีทองเอามาให้เขาใช้ เเต่ในทางกลับกันเราไม่ได้อยากตามสิ่งพวกนั้นเลย ตั้งเเต่เราปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ความคิดเราเหมือนถูกรีเซ็ตอ่ะ คือเราไม่ยึดติดกับทุกสิ่งเลย จนเราโดนด่า "เอาให้เขาทำไมหนักหนาเด่วตัวเองก็ไม่มีเเดก" หรือเเต่ชีวิตตัวเองก็ไม่เสียดาย(เเต่ยังคงหวาดกลัวความเจ็บทรมานอยู่เลยไม่กล้าตาย) ถ้าจะให้เข้าใจนี่คืออุปสรรคหรือบททดสอบหรือไง หรือมันเป็นเพราะเราเเย่เอง เรายังโดนปู่กับย่าเราด่า" ทำอะไรที่ชาวบ้านเขาทำกันไม่ใช่ทำอะไรบ้าๆคนธรรมดาเขาไม่ทำกันหรอก"การนั่งสมาธิ,สวดมนต์ นานนี่คือสิ่งที่บ้า?? เพราะเขาคงบอกว่าเอาเวลาไปทำมาหากินดีกว่าจะเสียเวลาทำอะไรเเบบนี้
ในมุมมองเรา เควสหรือภารกิจที่เราต้องทำคือ การสร้างบารมี เเละการดับทุกข์ดับกิเลสในตนเอง เเละเเน่นอนมันไม่ใช่ครั้งนี้ครั้งเเรกเเละจะต้องมีครั้งต่อๆไปอีก เราต้องคอยรับเเรงกดดันเเละคำด่าทอของบุคคลในครอบครัวเพราะความปรารถนาบ้าๆที่เขาคิด เเต่เราไม่เคยโกธรเลยนะเเต่เราเเค่รู้สึกเสียใจจนมันกลั้นไม่อยู่มันมีคำพูดที่ร้ายเเรงกว่าที่ทุกคนเห็นในกระทู้นี่เเน่นอนเเละท้ายนี่เราเเค่อยากเก็บกระทู้นี่ไว้เป็นความทรงจำที่เราเคยผ่านอะไรเเย่ๆมาเผื่อสักวันหนึ่งเราสำเร็จในความปรารถนาตรงนี่เเล้ว ละร่างกายจากโลก จะได้เป็นวิทยาทานว่าเจ้าของกระทู้คนนี้ผ่านอะไรมาบ้าง เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเราอยู่ได้นานเเค่ไหน ถึงจะอยู่ได้เเต่ก็ขอปฏิเสธการรักษาจนกว่าจะหมดหายใจไปเอง ทุกคนมีกรรมของตัวเอง ในเคสนี่อาจจะเป็นกรรมเก่าที่ทำให้ใจเราเศร้าหมอง เวลาเราร้องไห้เราปวดหัวเหมือนสมองจะระเบิดเเล้วภาพทุกอย่างมันถูกฉายเข้ามาในหัว มันเป็นความรู้สึกที่เด็ก 14 อย่างเราต้องมารับ เเต่มันก็คงเป็นความผิดเราเองที่มาบ่น เพราะเราเลือกทางที่จะละจากความสุข ทั้งๆที่เด็ก 14 ควรจะได้เล่น ใช้เวลากับเพื่อนๆ ได้กินของอร่อยๆ ได้สิ่งที่ตัวเองอยากจะได้ มีพ่อเเม่ครอบครัวคอยดูเเล เราก็ทำได้นะเเต่ไม่ทำ เลือกที่จะมารับเคราะห์ของคนอื่นเเทนด้วย เเต่เราเต็มใจนะ เอาเป็นว่ากระทู้นี่เหมือนมาบ่นให้ฟังเเต่มันคือเรื่องราวเเย่ๆที่เราจะต้องได้รับต่อไป...จนกว่าเราจะโต หรือ อาจจะละโลกไปเลยก็ได้ 😊 ทุกวันนี้มีความสุขได้อยู่เพราะสร้างบุญเเละฟังพระบรรยายธรรมเเละบทสวดจีน ส่วนเรื่องสุขภาพอยู่ในโปรไฟล์์์์์์์ตามอ่านได่ว่ามันเเย่จริงๆ *กำกับไว้ก่อนไม่ได้เราไม่ได้โทษพระโพธิญาณนะที่ทำให้ชีวิตเราเเย่เเค่พิมให้เห็นภาพให้เข้าใจความรู้สึกเราเฉยๆน่ะ*เเค่นี่เรายังอ่อนเเอในภายภาคหน้าเราไม่รู้ว่าต้องเจออะไรหนักกว่านี่เเต่ก็รอรับมือไหวไม่ไหวไม่รู้ อาจจะโดนทำร้ายร่างกายหรืออะไรก็ต้องรอดูตัวเองต่อไปเรื่อยๆ เราก็ต้องจำใจยอมด้วยความยินดี เพื่อเเลกกับพระโพธิญาณ "ในจักวาฬนี้ไม่มีอะไรใจดีกับเราหรอกไม่มีเลยสักอย่างหนทางสู่มรรคผลนฤพานเท่านั้นนั้นใจดีกับเราที่สุดเเล้ว" เอาปริศนาที่เราบอกนี้ไปพิจารณาเองนะ